“บิ๊กตู่” ยกเลิกนัดพรรคเล็ก ส่ง “บิ๊กป้อม” เปิดบ้านป่ารอยต่อฯกินข้าวแทน ไม่เชิญ “เศรษฐกิจไทย-สุรทิน?
จากกรณีที่วันนี้ (14 มี.ค. 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เทียบเชิญพรรคเล็กที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมรับประทานอาหารเย็นในวันที่ 17 มี.ค.เวลา 18.00 น.ที่สโมสรราชพกษ์ ถนนวิภาวดีรังสิตนั้น
โดยเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้แจ้งยกเลิกการร่วมรับประทานอาหารดังกล่าวอย่างไม่มีกำหนด โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้เชิญพรรคเล็กที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล มาร่วมรับประทานอาหารเย็น และหารือแนวทางทางการเมือง พร้อมรับฟังความคิดเห็น ที่บ้านป่ารอยต่อฯ ในวันช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ ในเวลา 17.00 น.
ทั้งนี้ มีรายงานว่า การรับประทานอาหารเย็นและประชุมหารือพรรคเล็กครั้งนี้ จะไม่มีตัวแทนจากพรรคเศรษฐกิจไทย เนื่องจากยังไม่มีหัวหน้าพรรค รวมถึงและนายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาธิปไตย ก็ไม่ได้เข้าร่วมด้วย
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2565 ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวก่อนการรับประทานอาหารมื้อกลางวัน ร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ว่า เป็นผู้นัดกลุ่ม ส.ส.พรรคเล็กมาร่วมรับประทานอาหารกลางวัน กับ ร.อ.ธรรมนัส ที่สนับสนุนทั้งอาหาร และสถานที่ เพื่อพูดคุยกันนอกสภา และเช็กจำนวน ส.ส.ที่ยังคงร่วมงานกัน พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้ กลุ่มพรรคเล็ก ยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลตามมารยาท เพราะหากถอนตัว ก็จะทำให้เกิดปัญหา แต่ก็ยังมีเวลาทบทวนในการร่วมรัฐบาล ซึ่งกลุ่มพรรคเล็ก จะร่วมรับประทานอาหารกันอีกครั้ง ในช่วงเเดือนเมษายนนี้
ส่วนความสนิทสนมกับ ร.อ.ธรรมนัส จะทำให้กลุ่มพรรคเล็กมีทิศทางทางการเมืองเดียวกันกับพรรคเศรษฐกิจไทยหรือไม่นั้น นายสุรทิน เผยว่า กลุ่มพรรคเล็กยังไม่ได้ตัดสินใจ หรือหากในอนาคต ร.อ.ธรรมนัส จะชักชวนไปร่วมงานกับพรรคเศรษฐกิจใหม่ และมีอุดมการณ์ทางการเมืองร่วมกัน ก็ไม่มีปัญหาใดๆ
เมื่อถามว่า น้อยใจหรือไม่ที่นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เชิญกลุ่มพรรคเล็กร่วมรับประทานอาหารค่ำที่ผ่านมานั้น นายสุรทิน กล่าวว่า ไม่ได้อยากไปร่วมรับประทานอาหารด้วยอยู่แล้ว เพราะเชื่อว่าไม่อร่อย เพราะตนเอง จะต้องเลือกทานอาหารที่อร่อย และไม่ได้คิดว่า มื้ออาหารของนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นน้ำพริกถ้วยเก่า เพราะพรรคเล็ก ก็มีเสียง ส.ส.ในกลุ่ม จึงไม่ได้ออนซอน หรือให้ความสนใจใดๆ ส่วนที่พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ จะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงอาหารพรรคร่วมรัฐบาลในครั้งต่อไปนั้น พรรคเล็ก ยังจะต้องหารือพูดคุยกันก่อน เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่พรรคเล็ก จะไปร่วมรับประทานอาหารหรือไม่ แต่อยู่ที่ใจว่าจะอยู่กับรัฐบาลตลอดรอดฝั่งหรือไม่
เมื่อถามว่า พรรคเล็กมีการประเมินรัฐบาลจะอยู่ครบวาระหรือไม่นั้น นายสุรทิน กล่าวว่า เชื่อว่า การเป็นรัฐบาล จะต้องอยู่ดำรงตำแหน่งให้นานที่สุด ซึ่งทิศทางการลงมติใดๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้น ก็ต้องเป็นไปตามแต่ละพรรคการเมือง
นายสุรทิน ยืนยันว่า พรรคประชาธิปไตยใหม่ พร้อมสำหรับการเลือกตั้งหากจะเกิดขึ้น พร้อมสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรียุบสภา เพราะเห็นว่าไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆ ให้กับประชาชนได้ นโยบายคนละครึ่ง ก็เข้าไม่ถึงประชาชน แต่หากเกิดการยุบสภาขึ้น ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น มีเงินหมุนเวียนถึงประชาชน
ในขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุระหว่างการร่วมรับประทานอาหารกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า พรรคเศรษฐกิจไทยสนับสนุนรัฐบาล ถ้าจะมีปัญหาก็มีเพียงเสียงของร.อ.ธรรมนัส เสียงเดียว ว่า
พรรคเศรษฐกิจไทยเรามีทิศทางเดียวกันชัดเจน และจะตัดสินใจเรื่องใดก็ตามเราจะมีการประชุม เพื่อกำหนดให้ทิศทางไปในทางเดียวกัน ส.ส.ที่ออกตามตนมาคือพี่น้องของตน ทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกันเราไม่มีเจ้านายลูกน้อง เราพี่น้องร่วมอุดมการณ์เดียวกัน อย่างวันนี้เราก็มากันหลายคน แต่ถ้าใครติดภารกิจลงพื้นที่ก็ไม่ต้องมา พรรคเศรษฐกิจไทยยืนยันชัดเจนว่าจะทำอะไรก็ตามเราถือมติพรรคและเดินไปในทิศทางเดียวกันหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันว่าพรรคเศรษฐกิจไทยจะร่วมโหวตเป็นเสียงเดียวกันแน่นอน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า แน่นอน เราอย่ามองที่กระแสหรือสื่อบางสำนักเอาไปวิเคราะห์ให้มองที่การกระทำของพวกตนและพรรคเศรษฐกิจไทย ทุกครั้งที่ผ่านมามีทิศทางเดียวกันหมด
เมื่อถามว่า มองว่าการที่พล.อ.ประวิตรให้คำมั่นกับพรรคร่วมรัฐบาลถึงเสียงของพรรคเศรษฐกิจไทย จะกระทบต่อการทำงานของร.อ.ธรรมนัสหลังจากนี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ใครให้สัมภาษณ์ ตนไม่ได้ยิน พล.อ.ประวิตร พูด แต่สื่อบางสำนักไปวิเคราะห์กันเอง