หลังจากที่วิกฤตของรัสเซียและยูเครน ยืดยื้อมาถึงสัปดาห์ที่ 3 และมีมาตรการคว่ำบาตรมากขึ้นในรัสเซีย ทำให้นักวิชาการไทยหลายท่านมองว่า เรื่องนี้อาจจะไม่จบง่าย หรือหากจะจบได้ ต้องมีฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งยอมถอย รวมไปถึงสหรัฐอเมริกาก็ควรหยุดยุนานาประเทศ ให้ทำตามความต้องการที่จะคว่ำบาตรด้วย
ขณะที่รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นถึงประเด็นนี้ โดยระบุบางช่วง บางตอน ถึงวิกฤตของรัสเซียและยูเครน ดังนี้ว่า
แม้ว่ารัสเซียจะรุกเข้าใกล้เมืองหลวงของยูเครนเข้ามาทุกที แต่สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังไม่มีทีท่าจะสงบลงได้ ในขณะที่สหรัฐอเมริกาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียขึ้นเรื่อย ๆ และได้คว่ำบาตรการซื้อพลังงานจากรัสเซียไปแล้ว แต่ชาติยุโรปตะวันตกโดยเฉพาะเยอรมันนียังไม่พร้อมที่จะทำแบบเดียวกับสหรัฐอเมริกาในทันที เนื่องจากยังไม่สามารถหาแหล่งพลังงานโดยเฉพาะแก๊สธรรมชาติมาทดแทนได้ทัน หากทำเช่นนั้นในขณะที่อากาศในยุโรปยังหนาวอยู่ จะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในประเทศตัวเองอย่างแสนสาหัส
ไม่ทราบว่าเกิดจากการบีบของรัฐบาลหรือไม่ บริษัทอเมริกันยักษ์ใหญ่ทั้งหลายต่างก็พากันประกาศหยุดดำเนินกิจการในรัสเซียเป็นการชั่วคราว เริ่มตั้งแต่ Apple, Starbucks และ McDonald’s นั่นหมายถึงการเสียรายได้ที่ควรได้อย่างมหาศาลของบริษัทเหล่านี้
รัฐบาลสหรัฐอเมริกาไปไกลถึงขนาดขู่บริษัทผู้ผลิต semi conductor ของจีน ให้หยุดการจำหน่ายสินค้าให้รัสเซีย มิฉะนั้นสหรัฐอเมริกาจะคว่ำบาตรด้วยการหยุดการซื้อ semi conductor จากจีน สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน นอกจากจะรบกันด้วยกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์แล้ว สงครามข่าวสารก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดไม่แพ้กัน
แน่นอนว่า สงครามครั้งนี้ ความเดือดร้อนไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะพลเมืองของยูเครนกับรัสเซียเท่านั้น แต่มาตรการคว่ำบาตรสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวโลกในทุกประเทศ ประธานาธิบดีไบเดน แถลงว่ามาตรการคว่ำบาตรจะทำให้คนอเมริกันต้องเดือดร้อน แต่นั่นคือราคาค่าการรักษาเสรีภาพที่จำเป็นต้องจ่าย ความผิดทั้งหมดจึงถูกผลักไปให้เป็นของประธานาธิบดีปูติน แต่เพียงผู้เดียวเพราะเป็นผู้เริ่มสงครามครั้งนี้ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ตั้งแต่ก่อนสงคราม สหรัฐอเมริกาและ EU ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียทันทีที่ รัสเซียประกาศรับรองการเป็นรัฐอิสระของ Donetsk และ Luhansk และนั่นอาจเป็นชนวนเหตุที่เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ ประธานาธิบดีปูติน ตัดสินใจบุกยูเครน
ต้องไม่ลืมด้วยว่า สหรัฐอเมริกาเองก็เคยก่อสงครามมากมายหลายครั้ง และให้การสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการทำสงครามกลางเมืองในประเทศต่าง ๆ มากมายหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในอเมริกาใต้และในตะวันออกกลาง คงยังไม่ลืมสงครามอิรัก
การคว่ำบาตรรัสเซีย ไม่มีทางจะยุติสงครามลงได้ เพราะปูติน ไม่มีทางยอมสยบ มีแต่จะคว่ำบาตรตอบโต้ ในที่สุดประชาชนตาดำ ๆ ทั่วโลกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยจะเดือดร้อนมากขึ้นอีก ราคาที่ชาวโลกต้องจ่ายเพื่อคงไว้ซึ่งเสรีภาพของยูเครน และเพื่อคงไว้ซึ่งหลักของเสรีภาพของโลก เป็นราคาที่คุ้มค่าจริงหรือ
ทางออกที่ดีที่สุดคือการยุติสงครามให้ได้โดยเร็ว สงครามจะยุติได้ต้องเริ่มด้วยการยุติการคว่ำบาตรรัสเซียเสียก่อน เงื่อนไขคือให้ทั้งรัสเซียและยูเครนหยุดยิงชั่วคราว และให้ผู้นำประเทศเป็นกลางเป็นผู้ไกล่เกลี่ยเจรจาให้ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี หันมาพิจารณาข้อเรียกร้อง 4 ข้อเพื่อยุติสงครามของปูติน และเจรจาต่อรองกันด้วยใจที่ปราศจากอคติต่อกัน
