ไม่มีใครยอมใคร??จีน-อินเดียประชุมระดับผู้บัญชาการทหาร แก้ปมพิพาทชายแดนหิมาลัย ไม่คืบยันเจรจาต่อ

1470

ในขณะที่การขับเคี่ยวระหว่างสหรัฐ-พันธมิตรตะวันตก กับรัสเซียในสงครามยูเครนเป็นไปอย่างดุเดือด จีนและอินเดียประกาศไม่คว่ำบาตรรัสเซีย และยังดำเนินกิจกรรมการค้าและการลงทุนเป็นปกติ ขณะที่สหรัฐประกาศเล็งคว่ำบาตรสองประเทศในฐานะที่อุ้มรัสเซีย ไม่ทำตามวาระวอชิงตัน ที่ชายแดนของอินเดีย-และจีนมีความเคลื่อนไหว ในการจัดประชุมแก้ไขปัญหาพิพาทชายแดนเทือกเขาหิมาลัย ที่ตกลงกันไม่ได้มา 2 ปี ผลปรากฎว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้า

วันที่ 13 มี.ค.2565  สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงกลาโหมของจีนเปิดเผยการจัดประชุมระดับผู้บัญชาการทหารจีน-อินเดีย ครั้งที่ 15 (China-India Corps Commander Level Meeting) ณ บริเวณจุดนัดพบชายแดนมอลโด-ชูชูลของฝั่งอินเดียเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา

กระทรวงฯ ระบุในแถลงการณ์ว่าทั้งสองฝ่ายได้หารือกันต่อจากการแระชุมรอบก่อนหน้าที่จัดขึ้นในเดือนมกราคม เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องตามแนวเส้นแบ่งเขตควบคุมตามความเป็นจริง (Line of Actual Control-LAC) ของชายแดนจีน-อินเดีย

สองฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างละเอียดในประเด็นนี้ โดยสอดคล้องกับแนวทางการทำงานที่ผู้นำของทั้งสองฝ่ายได้ให้ไว้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีอยู่โดยเร็วที่สุด

ผู้นำจากสองประเทศย้ำว่ามติดังกล่าวจะช่วยฟื้นฟูสันติภาพและความสงบสุขตามแนวเส้นแบ่งฯ ในพื้นที่ฝั่งตะวันตก (Western Sector) และเอื้ออำนวยต่อความคืบหน้าของความสัมพันธ์ทวิภาคี และเห็นพ้องเรื่องการรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพในพื้นที่ฝั่งตะวันตกในระหว่างนี้ต่อไป ตลอดจนเห็นตรงกันว่าจะรักษาการเจรจาผ่านวิถีทางการทหารและการทูตที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้การยอมรับร่วมกัน เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาข้างต้นโดยเร็วที่สุด

การเจรจารอบนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 15 นับตั้งแต่ข้อพิพาทเริ่มขึ้นในฤดูร้อนปี 2020 เช่นเดียวกับสองรอบก่อนหน้านี้ สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใดๆ ที่จะดึงกองกำลังกลับจากจุดพิพาทตามแนวชายแดนหิมาลัย

อย่างไรก็ตาม จีนและอินเดียตกลงที่จะพบกันอีกครั้ง แถลงการณ์ร่วมระบุว่าทั้งสองฝ่ายเต็มใจให้โอกาสทางการฑูตในการแก้ไขข้อขัดแย้ง แม้ว่ากองทัพทั้งสองประเทศจะยังคงปักหลักตามแนวชายแดนเป็นปีที่สอง

จีนและอินเดียมีพรมแดนติดกัน 3,488 กิโลเมตร (2,167 ไมล์) ซึ่งถอดยาวไปตามเทือกเขาหิมาลัย ทหารอินเดียมากถึง 20 นายและทหารจีนอย่างน้อยสี่นายถูกสังหาร และทั้งสองประเทศได้ย้ายกองกำลัง ปืนใหญ่ รถถัง และเครื่องบินขับไล่หลายพันนายไปประจำยังชายแดนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 จนกระทั่งปัจจุบันนี้