เจรจาไปรบไป!?รัสเซียรุกโจมตีทางต.ต.ติดโปแลนด์ ถล่มฐานทัพทหารรับจ้างต่างชาติ ผู้สื่อข่าวสหรัฐฯดับ

1227

สมรภูมิยูเครนยังระอุ! มอสโกได้เตือนประเทศต่างๆ หลายครั้งหลายครั้งว่าไม่ให้พลเมืองของตนเดินทางไปยูเครนเพื่อเข้าร่วมในการสู้รบที่นั่น เครมลินระบุว่าใครก็ตามที่ยิงใส่กองทหารรัสเซียที่ปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครนจะถือเป็นเป้าหมายที่ถูกตอบโต้ แม้ว่าการเจรจาระหว่างตัวแทนรัสเซียและยูเครนสองฝ่ายมีสัญญาณบวก 

อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย(Russian Defence Ministry spokesman Igor Konashenkov) แถลงว่าทหารรับจ้างต่างชาติ 180 นายเสียชีวิตจากการโจมตีของรัสเซียต่อศูนย์ฝึกยูเครนที่กองทหารยาโวรอฟสกี ใกล้กับที่ตั้งถิ่นฐานของสตาริชิ เขาอธิบายเพิ่มเติมว่าศูนย์เหล่านี้ถูกใช้เพื่อฝึกอบรมและจัดระเบียบทหารรับจ้างต่างชาติ เพื่อต่อสู้กับกองทัพรัสเซียในยูเครนตะวันออก และเป็นที่จัดเก็บอาวุธที่ส่งมาจากต่างประเทศ

ในวันอาทิตย์ที่ 13มี.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์และสปุ๊ตนิกรายงานว่ารัสเซียได้ขยายวงโจมตีเป้าหมายต่างๆในยูเครน ด้วยการโจมตีฐานทัพทหารแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนโปแลนด์ไม่กี่กิโลเมตร ในขณะที่ที่ปรึกษาระดับสูงรายหนึ่งของยูเครนยอมรับว่าเวลานี้กรุงเคียฟกลายเป็นเมืองที่อยู่ภายใต้วงล้อม

ขณะเดียวกันยอดผู้เสียชีวิตที่มาริอูโปล เมืองท่ายุทธศาสตร์ทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งกำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนรุนแรงท่ามกลางการปิดล้อมที่ยืดเยื้อ พุ่งขึ้นเหนือ 2,000 รายแล้ว จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในเมืองดังกล่าว

หลังจากก่อนหน้านี้ทางภาคตะวันตกของยูเครนรอดพ้นจากโจมตีเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียได้เปิดสงครามลึกเข้าไปทางตะวันตก สังหารผู้คนไป 35 ราย ที่ฐานทัพทหารแห่งหนึ่งใกล้ยาโวริฟ รอบนอกเมืองลวิฟ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับแนวหน้าของโปแลนด์ ชาติสมาชิกอียูและนาโต้ ซึ่งรัสเซียว่า เป็นฐานบัญชาการของทหารรับจ้างนานาชาติที่ส่งมารบในยูเครน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่าอันตรายอย่างมาก 

การสู้รบระลอกล่าสุดในย่านชานกรุงเคียฟส่งผลให้ผู้สื่อข่าวสหรัฐฯรายดับ ถือเป็นนักข่าวต่างชาติรายแรกที่เสียชีวิต

มีคาอิโล โพโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนเขียนบนทวิตเตอร์เคียฟ เป็นเมืองที่ถูกโอบล้อมแล้ว พร้อมบอกว่าเมืองแห่งนี้กำลังเตรียมพร้อมต่อสู้อย่างถึงที่สุด

อีกด้านหนึ่ง ยังมีความพยายามให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนในเมืองมาริอูโปล ซึ่งหน่วยงานด้านมนุษยธรรมบอกว่ากำลังเผชิญหายนะด้านมนุษยธรรม อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ของเมืองรายหนึ่งเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า ขบวนรถด้านมนุษยธรรมที่มุ่งหน้าไปยังเมืองดังกล่าว ต้องวกกลับอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่13มี.ค.ที่ผ่านมา หลังยังมีการสู้รบ

การเจรจาระหว่าง 2 ฝ่ายยังไม่บรรลุข้อตกลงหยุดยิง รัสเซียระบุในวันที่ 13มี.ค.ว่าคณะผู้แทนเจรจากำลังมุ่งหน้าไปพูดคุยกับฝ่ายยูเครน ที่เบลารุส ประเทศเพื่อนบ้าน ลิโอนิด สลัตสกี สมาชิกในคณะผู้แทนเจรจาของรัสเซียกล่าว ว่า “เราเห็นความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” 

ด้านเซเลนสกีเปิดเผยในวันเสาร์ที่ 12มี.ค.ที่ผ่านมา ว่ารัสเซียใช้แนวทางที่เป็นบวกมากกว่าเดิมและใช้แนวทางที่ต่างจากเดิมโดยพื้นฐานในการเจรจา

ที่ผ่านมา กองกำลังรัสเซียมุ่งเน้นพื้นที่ทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนเชื้อสายรัสเซียมากกว่า แต่ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเขาเคลื่อนเข้าสู่ภาคกลาง โจมตีเมืองดริโปร และตอนนี้ได้เคลื่อนสู่ภาคตะวันตกแล้ว โดยลงมือโจมตีใกล้ชายแดนโปแลนด์

ฐานทัพอากาศลุตสก์และอิวาโน-แฟรงคิฟสก์ ทางภาคตะวันตกของยูเครนถูกโจมตีในวันศุกร์ที่11มี.ค. ส่วนในคืนวันเสาร์ที่่ 12มี.ค.และวันอาทิตย์ที่13มี.ค. ขีปนาวุธหลายลูกพุ่งโจมตีเป้าหมายฐานทัพทหารในเมืองยาโวริฟ

แม็กซิท โคซิตสกี ผู้ว่าการภูมิภาค เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิต 35 รายและบาดเจ็บ 134 คน ในเหตุโจมตีฐานทัพดังกล่าว ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกกองกำลังยูเครนภายใต้การฝึกของต่างชาติ

ในขณะเดียวกันในกรุงเคียฟ มีเพียงท้องถนนที่มุ่งหน้าสู่ทางทิศใต้เท่านั้นที่ยังสัญจรได้อยู่ จากการเปิดเผยของทำเนียบประธานาธิบดียูเครน เจ้าหน้าที่เมืองได้ตั้งจุดตรวจต่างๆ และประชาชนพยายามกักตุนอาหารและยา

ย่านชานเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกองกำลังรัสเซียโดยสมบูรณ์แล้ว เช่นเดียวกับบางพื้นที่ของย่านเออร์พิน จากการเปิดเผยของทหารยูเครน บางช่วงตึกซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นย่านหรูหราแถบชานเมือง เวลานี้เหลือแต่ซาก

เบรนท์ เรโนลด์ ผู้สื่อข่าวสหรัฐฯและผู้ถ่ายทำวิดีโอสารคดีที่ชนะเลิศรางวัล ถููกยิงเสียชีวิตในสนามรบและ ฮวน อาร์เรดอนโด ช่างภาพชาวอเมริกาที่อยู่กับเขา ได้รับบาดเจ็บในย่านเออร์พินในวันอาทิตย์(13มี.ค.) อย่างไรก็ตามกรณีแวดล้อมที่แท้จริงของเหตุถูกยิงครั้งนี้ไม่เป็นที่แน่ชัด

กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรเปิดเผยในวันอาทิตย์ที่13มี.ค.ที่ผ่านมาว่ากองกำลังรัสเซียอยู่ห่างจากกรุงเคียฟราวๆ 25 กิโลเมตร และมีการกระจายแนวไปทางตอนเหนือของเมือง ดูเหมือนว่าเป็นความพยายามโอบล้อมเมืองหลวงแห่งนี้