“มือปราบจำนำข้าว” ส่งคลิปถึง “ทักษิณ” คิดส่งลูกสาวลงการเมือง! ระวังซ้ำรอยยิ่งลักษณ์เจอคดี

1402

จากกรณีที่วันนี้ (11 มีนาคม 2565) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีของนายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร โดยระบุข้อความว่า สิ่งที่นายทักษิณต้องตระหนัก

นายทักษิณต้องรู้ตัวว่า ตนเองคือนักโทษที่หลบหนี คดีอาญา ที่ศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งนักการเมือง เคยมีคำพิพากษา ตัดสินจำคุกแต่หนีคดีไม่ยอมรับโทษ

ในอดีตมีคำพิพากษาที่จำคุกไปแล้ว 4 คดี รวมทั้งหมด 12 ปี มีเพียงคดีที่ดินรัชดา ที่ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี และคดีหมดอายุความ จึงเหลือคดี ที่ต้องจำคุก 3 คดี รวมเวลา 10 ปี ยังไม่นับคดีที่รอปปช.ชี้มูล

การที่นายทักษิณ มาป้วนเปี้ยนแถวสิงคโปร์ พยายามปลุกระดม ผ่านคลับเฮาส์ ว่าจะกลับบ้าน พ.ศ.นี้ ก็เป็นส่วนของการหวังผล สร้างกระแส ให้ลูกสาวมาชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อพาตนเองกลับบ้าน

สิ่งที่นายทักษิณต้องตระหนัก การส่งลูกสาวมาลงชิง ตำแหน่งนายก ถ้าคิดว่า เขามีความรู้ความสามารถ ที่จะทำงานเพื่อชาติได้ ก็มีสิทธิ์ เพียงแต่รอการพิสูจน์ฝีมือ แต่ถ้าเอามาเป็นองค์ประกอบ เพื่อสร้างกระแส พาตนเองกลับบ้าน น่าจะคิดถึงน้องสาวยิ่งลักษณ์ เป็นตัวอย่าง

ประเทศไทย ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นั่นหมายความว่า ทุกคนต้องเคารพหลักกฎหมาย หลักความเท่าเทียม ใครโกงชาติ ที่ถูกศาลตัดสินจนคดีสิ้นสุดแล้ว ว่าติดคุก ก็ต้องติดคุก ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ

ยิ่งในยุคสังคมโซเชียลมีเดีย สังคมเปิดกว้างขึ้นมาก การตรวจสอบคนที่ มีบทบาทสูงอย่างนายทักษิณ มันง่ายมาก ดังนั้นถ้าคิดจะอ้างประชาธิปไตยต้องเคารพหลักประชาธิปไตย อย่าให้ลูกหลานมานั่งนินทาว่า “สิบกว่าปีมานี้ ที่ยังไม่ก้าวข้ามนายทักษิณ เพราะนายทักษิณนิสัยไม่เคยเปลี่ยน”
#พรรคไทยภักดี #ทางออกประเทศไทย #ทักษิณ #คลับเฮาส์ #บริจาคภาษีให้พรรคไทยภักดีรหัส234

ซึ่ง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ถือว่าเป็นผู้เปิดโปงการทุจริตในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ย้อนไปเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2562 นพ.วรงค์ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวว่า  ความจริงที่คุณยิ่งลักษณ์อาจลืม

วันนี้เป็นวันที่คุณยิ่งลักษณ์ ออกมาโหนมาตรา 44 ในคดีที่อ้างว่าทรัพย์สินตนเองถูกขายทอดตลาด แต่คุณยิ่งลักษณ์กลับไม่พูดเลยว่าตนเองต่อสู้ตามขั้นตอนกฏหมายปกติทุกอย่าง รวมทั้งร้องศาลปกครองขอให้คุ้มครองชั่วคราวเรื่องยึดทรัพย์ และศาลปกครองก็ยกคำร้องถึงสองครั้ง ทำไมคุณไม่พูดถึง
ที่สำคัญมาตรา44 นั้น เป็นการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตามกฏหมายด้วยความสุจริต ไม่คุ้มครองถ้าทุจริตกลั่นแกล้ง ต้องย้ำด้วยว่า ไม่เกี่ยวกับสาระของคดี เพราะคดีทั้งอาญาและแพ่ง ของคุณยิ่งลักษณ์ผ่านกระบวนการกฏหมายปกติทุกอย่าง จนกระทั่งคุณหนีคำตัดสินของศาล เพื่อทวนความจำ ในช่วงคุณยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯและ ประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ
1.มีการแก้ไขสัญญาเพิ่มชนิดและปริมาณข้าวเรื่อยๆ โดยไม่มีการเจรจาต่อรองเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ
2.รับมอบข้าวไปโดยผู้รับมอบอำนาจที่เป็นคนไทยแล้วนำไปขายต่อให้ผู้ประกอบการค้าข้าวภายในประเทศ โดยไม่มีการส่งข้าวที่ซื้อขายไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน
3.หลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมอันเป็นการเอาเปรียบแก่กรมการค้าต่างประเทศ
4.หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ เดือนพฤศจิกายน 2555 กว่าคุณยิ่งลักษณ์จะปรับนายบุญทรงออก ต้องรอถึง 7เดือน คือมิถุนายน 2556 จนเกิดโกงจีทูจีรอบสอง อีก 4 สัญญา ข้าว 14 ล้านตัน
5. ประเทศใช้เงินในโครงการจำนำข้าว 9.4 แสนล้านบาท มีความเสียหายมากกว่าห้าแสนล้านบาท และรัฐบาลปัจจุบันต้องตั้งงบใช้หนี้รวมดอกเบี้ย ปีละห้าหมื่นล้านบาทนานถึง 16 ปี
6.คุณยิ่งลักษณ์พยายามเล่าความเศร้าเรื่องทรัพย์ตนเองถูกขายทอดตลาด แต่คุณยิ่งลักษณ์อาจลืมไปว่า มีญาติพี่น้องคุณ โกงเงินแผ่นดินไทยไปเท่าไร
7.ยังมีการโกงจีทูจีรอบสองอีกที่รอผ่านกระบวนการยุติธรรม
8.สุดท้ายคุIยิ่งลักษณ์ก็หนีเอาตัวรอดไปสุขสบาย แต่ปล่อยให้คนอื่นรับกรรม คือจำคุกนายภูมิ 36 ปี นายบุญทรง 42ปี(ศาลเพิ่มเป็น 48 ปีหลังขออุทธรณ์) นายมนัส 40ปี นางทิฆัมพร 32 ปี นายอัครพงศ์ 24 ปี นายอภิชาติ 48 ปี
หยุดโหนมาตรา 44 ได้แล้วครับ เพราะไม่เกี่ยวใดๆกับการดำเนินคดียึดทรัพย์ และทุตริตจำนำข้าวของคุณยิ่งลักษณ์และคณะเลย ออกมาคุ้มครองจนท.ที่กระทำด้วยความสุจริต แต่ถ้าทุจริตก็ไม่คุ้มครองเท่านั้น
#หยุดโหนมาตรา44