สถานการณ์ล่าสุดในสมรภูมิยูเครนที่งวดเข้ามา ปรากฏว่า ฝ่ายสนับสนุนหลักของยูเครนอย่างสหรัฐฯและโปแลนด์ แสดงท่าทีเกี่ยงกันไปมาให้เป็นผู้ส่งเครื่องบินรบให้ยูเครน สหรัฐอ้างถ้าส่งเองเท่ากับประกาศศึกโดยตรงกับรัสเซียและจะทำให้นาโต้กลายเป็นคู่ขัดแย้งหลักกับมอสโกว์ สุ่มเสี่ยงทำสงครามขยายวง ด้านโปแลนด์เป็นหน้าที่ของสหรัฐฯและนาโตต้องตัดสินใจ
ในที่สุดยูเครนก็ต้องผิดหวัง หลังจากให้สัมภาษณ์ว่าสหรัฐและยุโรปจะส่งเครื่องบินขับไล่มาให้ และก่อนหน้านี้รมว.ต่างประเทศของสหรัฐเองที่แถลงรับปากว่าสหรัฐจะส่งเครื่องบินรบและอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่มให้ยูเครนใช้สู้รบกับรัสเซียด้วย
วันที่ 10 มี.ค. สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และรอยเตอร์รายงานว่า โปแลนด์ ซึ่งเป็นพันธมิตรนาโต้ ได้ออกมาประกาศต่อสาธารณชน เสนอส่งมอบฝูงบินขับไล่ MiG-29 ที่ผลิตโดยรัสเซีย ไปยังฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งของสหรัฐฯในเยอรมนี เพื่อเติมเต็มกองกำลังทางอากาศให้ยูเครน หลังจากเคียฟวิงวอนขอสนับสนุนด้านเครื่องบินจากตะวันตก
มาเตอุสซ์ โมราวีคกี นายกรัฐมนตรีแห่งโปแลนด์(Mateusz Morawiecki) กล่าวว่า โปแลนด์ไม่สามารถส่งเครื่องบินขับไล่ MiG-29 ที่ผลิตโดยโซเวียตไปยังเคียฟได้ด้วยตัวเอง และเรียกร้องให้พันธมิตร NATO ที่นำโดยสหรัฐฯ ตัดสินใจในการส่งมอบเครื่องบินที่วอร์ซอเป็นเจ้าของให้ยูเครนเอง คำพูดดังกล่าวเกิดขึ้นในกรุงเวียนนา ขณะที่เขาได้พบกับนายกรัฐมนตรีออสเตรีย คาร์ล เนแฮมเมอร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “การตัดสินใจที่จริงจังเช่นนี้ในการส่งมอบเครื่องบินจะต้องเป็นการตัดสินใจที่เป็นเอกฉันท์และชัดเจนของ NATO ทั้งหมด วันนี้การตัดสินใจนี้อยู่ในมือของ NATO อยู่ในมือของสหรัฐ”
เคียฟได้เรียกร้องให้ชาติตะวันตกส่งอาวุธเพิ่มเติม รวมทั้งเครื่องบินรบ ท่ามกลางความขัดแย้งกับรัสเซียที่ปะทุขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อมอสโกเปิดฉากโจมตีขนาดใหญ่ในยูเครน ในขณะที่เคียฟอ้างว่าเครื่องบินเก่าที่ผลิตในสหภาพโซเวียตมากถึง 70 ลำที่ประเทศ NATO ในยุโรปตะวันออกเป็นเจ้าของจะถูกจัดส่งให้ยูเครนในไม่ช้านี้ แต่ความจริงจะยังไม่มีการส่งมอบแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงจุดยืนชัดว่าชาตินาโต้เต็มใจที่จะจัดหาเครื่องบินและอาวุธอื่นๆให้กับยูเครนและสหรัฐฯไฟเขียวสำหรับเรื่องนี้
แต่ในวันพุธที่ผ่านมา สหรัฐฯกลับแถลงปิดประตูสำหรับการส่งมอบเครื่องบินรบแก่ยูเครน อ้างประชาคมข่าวกรองประเมินแล้วว่ามันจะเป็นความเคลื่อนไหวที่เสี่ยงสูง เกิดการเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับพันธมิตรนาโต้
จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอนชี้แจงการตัดสินใจของสหรัฐฯ ว่าการส่งมอบฝูงบิน MiG-29 จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยสำหรับยูเครน เมื่อเทียบกับแสนยานุภาพของรัสเซีย แต่สหรัฐฯกำลังสนับสนุนอาวุธชนิดอื่นๆ
เคอร์บีกล่าวว่า”ประชาคมข่าวกรองของสหรัฐฯประเมินว่าการส่งมอบ MiG-29 แก่ยูเครน อาจเป็นความผิดพลาด และอาจก่อปฏิกิริยาจากรัสเซีย ที่เพิ่มแนวโน้มความตึงเครียดทางทหารกับนาโต้” เขาปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดมากกว่านี้
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเตือนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า ประเทศใดก็ตามที่เสนอมอบฐานทัพอากาศของตนเอง ให้ยูเครนใช้เป็นฐานขึ้นบินฝูงบินขับไล่สำหรับโจมตีรัสเซีย ประเทศนั้นๆจะถือว่ากำลังร่วมวงในความขัดแย้งนี้ด้วย
นาโต้ไม่ต้องการความขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย ชาติที่มีอาวุธนิวเคลียร์เช่นกัน และปธน.โจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ ปฏิเสธเสียงแข็งไม่ส่งทหารอเมริกันเข้าร่วมสู้รบในยูเครน นอกจากนี้แล้วสหรัฐฯยังปฏิเสธคำร้องขอจากเคียฟ ในการกำหนดเขตห้ามบินเหนือยูเครน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าคือการลากสหรัฐฯเข้าสู่การทำสงครามโดยตรงกับรัสเซีย
เพนตากอนชี้แจงรายละเอียดจุดยืนของสหรัฐฯหลังมีการโทรศัพท์พูดคุยกันระหว่าง ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโปแลนด์
ออสติน กำลังจะเดินทางไปยังบรัสเซลส์ในสัปดาห์หน้า เพื่อเจรจากับเหล่าบรรดารัฐมนตรีกลาโหมของพันธมิตรนาโต้ ซึ่งแน่นอนว่าประเด็นการมอบความช่วยเหลือแก่ยูเครน จะเป็นหัวข้อหลักของการสนทนา
เคอร์บีระบุว่า “เราเชื่อว่าแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับสนับสนุนการป้องกันตนเองของยูเครน คือส่งมอบอาวุธแก่พวกเขา เช่นเดียวกับระบบต่างๆที่พวกเขาต้องการมากที่สุด เพื่อเอาชนะการบุกของรัสเซีย โดยเฉพาะอาวุธต่อต้านยานเกราะและระบบป้องกันภัยทางอากาศ”
เป็นอันว่าทั้งสหรัฐ-โปแลนด์หรือสมาชิกนาโต้รายอื่นๆต่าง ไม่มีใครอยากรับเผือกร้อนในการเผชิญหน้ากับรัสเซียโดยตรง แต่ยังคงหนุนหลังให้ยูเครนสู้ต่อไป มากกว่าจะส่งเสริมให้เกิดการเจรจาอย่างจริงจัง คงต้องจับตาผลงานของผู้ที่อาสาเป็นแกนประสานงานให้เกิดการเจรจาอย่างจริงจังระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งขณะนี้มี 4 ประเทศคือ จีน ตุรกี ฝรั่งเศสและอิสราเอล!!