Truthforyou

รัสเซียเปิดรายชื่อ “ประเทศ-ดินแดนไม่เป็นมิตร”! เผยเหตุผลไร้ชื่อประเทศไทย

รัสเซียเปิดรายชื่อ “ประเทศ-ดินแดนไม่เป็นมิตร”! เผยเหตุผลไร้ชื่อประเทศไทย

จากกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ว่าคณะรัฐมนตรีรัสเซียมีมติเมื่อวันจันทร์ รับรองรายชื่อ “ประเทศและดินแดนที่ไม่เป็นมิตร” ต่อพลเมืองและกิจการของรัสเซีย ได้แก่ สหรัฐ แคนาดา สมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ทั้ง 27 ประเทศ

สหราชอาณาจักร และดินแดนโพ้นทะเลทุกแห่ง ยูเครน มอนเตเนโกร สวิตเซอร์แลนด์ แอลเบเนีย อันดอร์รา ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ โมนาโก นอร์เวย์ ซานมารีโน นอร์ทมาซิโดเนียหรือมาซิโดเนียเหนือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ไมโครนีเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และไต้หวัน

ทั้งนี้ ประเทศและดินแดนทั้งหมดดังกล่าว ล้วนเข้าร่วมมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สั่งให้กองทัพปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยพลเมืองรัสเซีย ภาครัฐและภาคเอกชนของรัสเซีย ซึ่งมีเงื่อนไขในการแลกเปลี่ยนและการชำระ กับเจ้าหนี้ซึ่งมาจากประเทศเหล่านี้ สามารถชำระคืนเป็นเงินรูเบิลได้ โดย “มาตรการชั่วคราว” ครอบคลุมการทำธุรกรรมซึ่งมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10 ล้านรูเบิลต่อเดือน (ราว 2.37 ล้านบาท) หรือเงินสกุลต่างประเทศซึ่งมีมูลค่าเท่ากัน

ในขณะที่ทางด้าน นายไพศาล พืชมงคล ได้โพสต์ข้อความว่า ประเทศที่รัสเซียประกาศว่า มีการกระทำที่ไม่เป็นมิตร สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภทคือ

-ประเภทแกนนำหรือหัวโจก ได้แก่สหรัฐ-อังกฤษ -Australia -ญี่ปุ่น และ

-ประเภทบริวาร คือรายชื่อที่เหลือนั่นแหละ ซึ่งมีทั้งบริวารหัวแถว กลางแถว และปลายแถว

โชคดีที่ประเทศไทย ไม่ถูกจัดชั้นด้วย ซึ่งเป็นไปได้ว่ารัสเซียรู้ดีว่าประเทศไทยถูกบังคับ เหมือนกับปากีสถาน
เพียงแต่ว่าปากีสถานเขาไม่ยอม ตามที่ถูกบังคับและยังเอามาประจานให้ได้อายกันทั้งโลกอีก
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 มี.ค. อ้างการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมรัสเซียว่า จากการที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้รับการร้องขอจากนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ทำให้กองทัพรัสเซียประกาศหยุดยิงชั่วคราวในพื้นที่กรุงเคียฟ และ 3 หัวเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ได้แก่ คาร์คีฟ ซูมี และเมืองท่ามาริอูโปลทางภาคใต้ เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น.
เปิดทางให้หน่วยงานทางด้านมนุษยธรรมในยูเครนอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่สงคราม ในการนี้กองทัพรัสเซียยังระบุด้วยว่า จะจับตาความเคลื่อนไหวของการเปิดช่องทางด้านมนุษยธรรมครั้งนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงการใช้โดรนไร้คนสอดส่อง ด้วยเหตุนี้รัสเซียขอเตือนว่า การกระทำใดๆของฝ่ายยูเครนที่เข้าข่ายหลอกลวงกองทัพรัสเซีย พร้อมทั้งโบ้ยความผิดว่ารัสเซียเป็นผู้ละเมิดสัญญาใจหยุดยิงถือเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ และไร้สาระ
Exit mobile version