จากสถานการณ์สู้รบในยูเครน มีรายงานว่า ยังคงมีการเคลื่อนไหวในกรุงเคียฟอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงการยกระดับการโจมตีของฝ่ายรัสเซีย โดยที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ได้ลงมติเสียงส่วนใหญ่ให้รัสเซียถอนกำลังในทันทีนั้น
ต่อมาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้แถลงเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ว่ารัสเซีย “ไม่มีเจตนาร้าย ต่อประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในเวลาเดียวกัน กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่ควรใช้มาตรการจำกัดในรูปแบบใดต่อรัสเซีย เพราะจะเป็นการยกระดับความตึงเครียดโดยไม่จำเป็น
ทั้งนี้ปูติน ยังยืนยันว่าได้ดำเนินการทุกอย่างตามหน้าที่ ซึ่งจากบรรยากาศตอนนี้ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้อง ซ้ำเติม หรือทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่าเดิมอีก หากรัฐบาลรัสเซียยกระดับมาตรการในรูปแบบใด นั่นหมายความว่า เป็นการตอบสนองต่อการดำเนินการที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซียเท่านั้น
“เรายืนยันมาโดยตลอดว่าไม่มีเจตนาร้ายต่อเพื่อนบ้าน ผมอยากจะบอกกับประเทศเหล่านี้ว่าอย่าทำให้เกิดความตึงเครียดมากกว่าเดิม อย่าใช้มาตรการคว่ำบาตร เราทำตามหน้าที่ของเราและจะดำเนินการต่อไป
เราไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำให้สถานการณ์ตึงเครียดหนักขึ้น และทำให้สถานการณ์แย่ลง สิ่งที่เราทำทุกอย่างเป็นไปเพื่อการตอบโต้การกระทำที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศรัสเซียเท่านั้น ผมคิดว่าทุกคนควรรักษาความสัมพันธ์และความร่วมมือให้เป็นไปตามปกติต่อไป” ประธานาธิบดีรัสเซีย แถลง
ขณะที่มีความเคลื่อนต่อเนื่องโดยพบว่าเมื่อวันที่ 5 มีนาคม เวลา 16:12 น. เพจเฟซบุ๊ก สถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย
ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีข้อพิพาทกับยูเครนว่า
“ในช่วงเวลานี้ สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียได้รับจดหมายจากผู้ที่ให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ในยูเครน โดยได้แสดงการให้การสนับสนุนต่อรัสเซีย จดหมายนั้นมาจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มาอยู่ที่ประเทศไทย บางคนได้ประกาศความพร้อมในการลงทะเบียนเข้าร่วมกองทัพรัสเซีย
กฎหมายของรัสเซียในปัจจุบันไม่ได้ให้การมีส่วนร่วมของชาวต่างชาติที่พำนักถาวรนอกสหพันธรัฐรัสเซียเข้าร่วมทางการทหาร อย่างไรก็ตาม เรารู้สึกขอบคุณทุกคนสำหรับความเห็นอกเห็นใจและการสนับสนุนที่ส่งถึงรัสเซีย”
นอกจากนี้เพจเฟซบุ๊กสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ยังโพสต์ข้อความอีกว่า ขณะนี้สื่อต่างๆ กำลังถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์และได้เรียกร้องให้เข้าร่วมกองกำลังอาสาสมัครนานาชาติ และเข้าร่วมสู้รบไปกับกองทัพยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องนั้นได้ถูกโพสต์ลงเพจของสถานเอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย
“ในเรื่องนี้กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้เตือนไว้ว่าภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ทหารรับจ้างชาวต่างชาติไม่ได้จัดให้เป็นทหารและไม่มีสิทธิ์ได้รับสถานะเชลยศึก พวกเขาจะต้องเผชิญกับการดำเนินคดีตามมา กระทรวงกลาโหมขอเตือนว่าไม่ให้เข้าร่วมในการกระทำดังกล่าว”
อย่างไรก็ตามเพจเฟซบุ๊กสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ยังได้เปิดเผยถึงความสัมพันธ์ไทยรัสเซียที่จะครบรอบ 125 ปีในปีนี้ด้วยว่า
“ผลงานชนะเลิศการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ (logo) เนื่องในโอกาสครบรอบ 125 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซีย
ผลงานชนะเลิศการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ (logo) ในโอกาสครบรอบ 125 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซีย โดยผลการคัดเลือกได้อนุมัติผลงานของนายวชิระ ล้อซ้ง นักออกแบบชาวไทย โดยโลโก้จะใช้เป็นสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการในช่วงการเฉลิมฉลองครบรอบในปี 2565
ผลงานของนักออกแบบชาวรัสเซียและชาวไทยจำนวน 116 ชิ้นได้เข้าร่วมการประกวดครั้งนี้ และไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลือกผลงานมาหนึ่งชิ้นจากทั้งหมดที่ส่งเข้าประกวด จากการหารือกับนักการทูตไทย จึงมีการตัดสินใจร่วมกันที่จะคัดเลือกผลงานชิ้นนี้ออกมา
สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยขอแสดงความขอบคุณผู้เข้าร่วมการประกวดทุกท่านสำหรับความกระตือรือร้น ความคิดริเริ่ม และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และขอเชิญร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 125 ปีวันสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซียในปี 2565 นี้”