แหกหน้า “โทนี” โม้ไม่ได้ส่งทหารไทยช่วยสหรัฐฯรบอิรัก! ความจริงคนละเรื่อง แถมโดนแฉกลับ

1644

แหกหน้า “โทนี” โม้ไม่ได้ส่งทหารไทยช่วยสหรัฐฯรบอิรัก! ความจริงคนละเรื่อง แถมโดนแฉกลับ

จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเสวนาในรายการ รายการ CARE Talk x CARE ClubHouse ตอน “ไทยแลนด์แสนวิกฤต” โควิดยังไม่ซา เอาอีกแล้วหว่า รัสเซีย-ยูเครน วิเคราะห์สถานการณ์ต่างประเทศ และผลกระทบต่อไทย ว่า วันนี้ไทยอาจจะมีความใกล้ชิดกับรัสเซียมากกว่ายูเครน แต่ไทยต้องวางตัวให้เหมาะสมว่าจะยังไง ถึงแม้จะไม่กล้าประณาม แต่ก็ต้องยืนยันในหลักการที่ไม่ฝ่าฝืนต่อกฎบัตรสหประชาชาติ

“ถึงแม้เป็นเพื่อนกันก็ต้องเข้าใจว่า ผมไม่ได้ประณามคุณนะ แต่คุณควรจะเคารพกฎบัตรสหประชาชาติ การเจรจาทางการทูตเป็นสิ่งที่โลกต้องดำเนินการด้านนี้ต่อไปไม่ใช่สงคราม เพราะเมื่อเกิดสงคราม ผลตามมาคือ ความสูญเสีย คนพลัดถิ่น ความยากจนลำบาก”

นายทักษิณ กล่าวต่อด้วยว่า เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อไทย ในเรื่องเงินเฟ้อแน่นอน ค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า แพงขึ้น ต้นทุนของไทยที่ต้องนำเข้าพลังงาน สูงขึ้นแน่นอน การเงินที่แซงก์ชั่นของรัสเซียไป ก็อาจไม่มีผลโดยตรง แต่เป็นการทำให้ เร่งการเติบโตของคริปโต ไทยควรเป็นคริปโต เฟรนด์ลี่เนชั่น หลายที่เริ่มแล้ว สิ่งที่จะยิ่งใหญ่ที่สุด ที่จะเกิดขึ้นคือ Globla token exchange จะเกิดขึ้นแน่นอน

นายทักษิณ ยังเล่าให้ฟังว่า ตอนที่อเมริกาบุกอิรัก สมัยนั้นตนก็สนิทกับ จอร์จ บุช เขาเคยขอให้ตนส่งทหารไปช่วย ตนบอกว่าทำไม่ได้ เพราะไม่เห็นด้วยกับการเข้าไปรุกรานประเทศอื่น สิ่งที่ต้องทำคือส่งช่างและพยาบาลไปช่วยหลังจากที่สงครามสงบแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

ล่าสุดทางด้านของนายไพศาล พืชมงคล โพสต์ข้อความระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า ลุงโทนี่ขี้ลืม

1 เมื่อครั้งสหรัฐบุกยึดอิรัค ประธานาธิบดีบุชซึ่งสนิทกับคุณโทนี่ ได้ขอให้รัฐบาลไทยจัดส่งทหารไทยไปช่วยรบในอิรัก ซึ่งคุณโทนี่ก็รับปากจัดส่งทหารไปอิรัค กลับถึงเมืองไทยก็สั่งการให้ลุงจิ๋ว ซึ่งเป็นรองนายกด้านความมั่นคงและรัฐมนตรีกลาโหม จัดการตามที่รับปากกับสหรัฐ
2 ลุงจิ๋วทราบเรื่องก็แทบตกเก้าอี้ เพราะรู้ดีว่าเป็นแผนร้ายที่จะทำให้ไทยทะเลาะกับมุสลิมทั้งโลก ซึ่งเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของไทยอย่างยิ่ง ครั้นจะไม่ส่งทหารไปอิรักก็ไม่ได้เพราะนายกไปรับปากเขาแล้วและเขาก็กดดันอย่างหนัก เหมือนกับที่ถูกกดดันให้ประณามรัสเซียตอนนี้แหละ แต่จะส่งทหารไทยไปรบก็ไม่ได้เพราะไทยจะเป็นศัตรูกับมุสลิมทั้งโลก( เพราะอิรัก เป็นดินแดนแห่งอิสลาม เป็นที่ตั้งศาสนสถานสำคัญ 1 ใน 3 ที่ใครรุกรานแล้วจะเป็นเงื่อนไขให้มุสลิมทุกคนทำสงครามศาสนาหรือจีฮัด) ลุงจิ๋วจึงต้องแก้กลอำมหิตครั้งนั้นอย่างลึกซึ้ง
3 การแก้เกมอำมหิตนั้น ได้รับการช่วยเหลือจากท่านผู้นำสูงสุดชีอะอาเซียน คือท่านหุจลตุลเลาะห์ ซัยยิดสุไลมานฮูซัยนี ช่วยประสานงานกับท่านผู้นำสูงสุดแห่งอิหร่าน ท่านอะยาตุลเลาะห์ไซยิดอาลีคาเมนี ซึ่งปีนั้นท่านเป็น”ประธานสภาผู้นำศาสนาอิสลามโลก” โดยลุงจิ๋วต้องรับรองว่าทหารไทยไปอิรัก เพียงเพื่อไปช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
“ปืนทุกกระบอก อาวุธทุกชิ้นของทหารไทยจะไม่ทำร้ายชาวอิรัก” (เป็นหลักการทางศาสนาที่จะทำให้มุสลิมทำร้ายทหารไทยไม่ได้)
ท่านผู้นำสูงสุดจึงออกคำฟัตวาว่า ” ทหารไทยไปอิรักในฐานะอุ้งหัตถ์ของพระเจ้า ห้ามมุสลิมทุกคนทำร้ายทหารไทย”
คำฟัตะวานี้ได้ประทับด้วยหัวแหวน ของพระศาสดานบีมูฮัมหมัดที่ตกทอดมายังท่านผู้นำสูงสุด(ซึ่งเท่ากับ
ตราลัญจกร)
ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามข้อตกลง ลุงจิ๋วจึงต้องตั้งให้นายทหารคนสนิทที่ไว้วางใจจากหน่วยรบพิเศษลพบุรี( ผมจำชื่อจริงแกไม่ได้แล้ว-ช่วยรายงานตัวหน่อย) เป็นผู้บังคับบัญชาของทหารไทยไปอิรักครั้งนั้น ทหารไทยจึงปลอดภัยและนายกไทยก็ไม่เสียคำสัญญากับท่านประธานาธิบดีบุชด้วย
ดังนั้นที่คุณโทนี่บอกว่า ไม่ได้ส่งทหารไทยไปอิรัค จึงคลาดเคลื่อนจากความจริง และในครั้งนั้นเราก็ไม่ได้ส่งวิศวกร และ หมอ ไปอิรัค นอกจากทหารเสนารักษ์ และทหารช่าง ประจำหน่วย คุณโทนี่คงจำไม่ได้หรอกว่าได้สั่งการรัฐมนตรีต่างประเทศ สุรเกียรติ์ ให้จัดงบประมาณ เป็นค่าเครื่องบินและใช้จ่ายให้คณะประสานงานในการเดินทางไปประสานงานกับอิหร่านในการประสานงานครั้งนั้น!!!
เรื่องนี้ เป็นความจริงในประวัติศาสตร์ของชาติไม่ใช่เรื่องที่พูดเอาสวยได้ ดังนั้นใครทำอะไรไว้กับบ้านเมืองในตอนนี้ก็จงสำเนียกไว้เถิดว่า วันหนึ่งคนข้างหลังเขาจะก่นด่าสาปแช่งอย่างไร