เจาะลึก “กองทุนเงินม็อบ 3 นิ้ว” เบื้องหลังส่อหนุนยุคนทำผิด 112 เทียบ “ทะลุแก๊ส” สงบ เพราะไร้เงินก้อนโตช่วยประกันตัว!?

853

สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 28 ก.พ.2565 นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธาน กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องกองทุนราษฎรประสงค์เปิดรับบริจาค และประกาศระดมทุนเพื่อเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวผู้ต้องขังคดีอาญามาตรา 112 ต่อ กองบัญชาการตำรวจนครบาล

 

 

โดยมีความต้องการให้ตำรวจตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวโดยเฉพาะอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เป็นเจ้าของบัญชี ว่าเข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่าให้ยุติการกระทำ กรณีเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันว่าเป็นการล้มล้างการปกครองก่อนหน้านี้ ซึ่งคำวินิจฉัยผูกพันกับทุกองค์กร และหากตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่า เข้าข่ายเป็นผู้สนับสนุน ก็ให้ดำเนินการเพื่อให้ยุติการกระทำตามกฎหมาย

ต่อมาในโลกโซเชียล ได้มีผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์รายหนึ่ง คาดว่าเป็นกลุ่มคนในม็อบ ที่มีการร่วมบริจาคเงินสมทบ ได้แชร์ภาพข่าวของนายสนธิญา และเขียนข้อความระบุว่า “ผิดกฎหมาย​มาตราใด? คนอื่น ๆ ที่ระดมทุนช่วยเหลือคนที่ลำบากโครม ๆ ก็ผิดด้วยใช่ไหม” จนทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้จำนวนมาก ว่าคนโอนด้วยอาจจะผิดร่วม หรือตั้งคำถามว่า หากโดนตรวจสอบแล้ว กองทุนจะโดนอายัดเงินหรือไม่ พร้อมทั้งมีการวางแผนว่า หากบัญชีโดนปิดจริง ๆ จะไปตั้งกองทุนกันใหม่ ก็จะตามไปบริจาค รวมทั้งมีเสียงวิจารณ์ต่อว่านายสนธิญาด้วย ว่าทำไมต้องเข้ามายื่นตรวจสอบเรื่องนี้ หรือเพราะเห็นว่าระดมเงินได้ทีละหลายล้านบาท

 

 

ทั้งนี้ทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่า การที่กองทุนเงินม็อบ หรือกองทุนราษฎรประสงค์นั้น อาจจะมีส่วนร่วม ทำให้เกิดผู้ต้องหาคดี 112 หรือผู้กระทำความผิดทางกฎหมาย รวมทั้งมีการพาดพิงสถาบันหรือไม่ เนื่องจากเงินในกองทุนบางส่วน นอกจากจะใช้ประกันตัวแกนนำหลัก ๆ ที่ตอนนี้ออกมาพ้นเรือนจำกันหมดแล้ว ทางกองทุนยังมีการชี้แจงรายละเอียดการใช้เงิน ที่หมดไปกับการประกันตัวผู้ต้องหารายเล็ก ๆ ทั่วไป ที่โพสต์ข้อความหมิ่น มีกลุ่มทะลุแก๊สที่โดนคดีบ้าง ที่กองทุนยังต้องจ่ายเงินค่าประกันตัวให้ต่อเนื่อง ราว ๆ 70,000 -100,000 บาท

แต่เราจะเห็นว่า ในทุก ๆ วัน จะยิ่งปรากฎรายชื่อผู้ทำผิดมากขึ้น เมื่อเทียบกับกลุ่มทะลุแก๊ส ที่เป็นเยาวชนจำนวนมาก โดนดำเนินคดี แล้วไม่มีเงินจ่ายประกันตัว ต้องระดมทุนกันเอง และยอมติดคุก จนทำให้ม็อบทางฝั่งดินแดงเงียบลงไปได้ ไม่มีใครอยากออกมาทำผิด เพราะไร้เงินหนุนช่วยเหลือคดี ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่น่าคิดว่า หากกองทุนม็อบจะมีความผิด อาจจะรวมถึงการสนับสนุน ช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ตามที่ศาลรัฐธรรมได้วินิจฉัยแล้วว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ทำให้น่าจับตามองต่อไปว่า การแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชีนั้น ต่อไปจะเป็นเช่นไรกันแน่