ฝ่ายค้านโดนตบหน้า! ส.ส.EU แฉเอง NGOs เป็นเครื่องมือฟอกเงิน-ตะวันตกใช้โค่นประเทศอื่น ขณะ ทูตEU รีบท้วงไทย “ห้ามออก พรบ.ควบคุม”
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 มี.ค.65 ที่ผ่านมา ทางด้านของ นาย David Daly เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย คณะเอกอัครราชทูต คณะทูตานุทูต และ ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูต รวม 23 ประเทศ ได้เข้าพบคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร
โดยได้ได้อ้างว่า สหภาพยุโรปมีข้อกังวลเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร พ.ศ. …. หรือที่รู้จักกันในชื่อของ “พ.ร.บ.ควบคุม NGOs” ว่าอาจจะเป็นการควบคุมมากว่าการสนับสนุน และอาจจะส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชน สันติภาพ ประชาธิปไตย เศรษฐกิจ แรงงาน การศึกษา เฉพาะอย่างยิ่ง มีบทบัญญัติควบคุมการทำงานของภาคประชาสังคม อีกทั้งยังมีบทลงโทษที่ค่อนข้างรุนแรงเกินไป
ก็น่าสนใจว่าเหตุใด สหภาพยุโรป จึงต้องการให้องค์กรอิสระไม่ถูกลดทอน หรือถูกปิดกั้นการเคลื่อนไหว หรือแทบจะไม่ต้องการให้ประเทศต่างๆควบคุมการทำงานให้องค์กรอิสระต่างๆ อยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศนั้นๆ
ก็ต้องลองย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ทางด้านของ นายมิค วอลเลซ (Mick Wallace) สมาชิกสภาสหภาพยุโรป จากประเทศไอร์แลนด์ เคยให้ความเห็นและมุมมองเกี่ยวกับ NGOs ที่น่าสนใจ บนเวทีโลก ว่า
NGOs (Non-Governmental Organizations) สามารถช่วยผลักดันให้เกิดความมีส่วนร่วมและความเคลื่อนไหวภาคประชาชน (civil engagement and participation) แต่กลับกลายเป็นว่าองค์กร NGOs นำเรื่อง “สิทธิมนุษยชน” มาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการล่าอาณานิคมให้กับชาติตะวันตก (Western imperialism) และเพื่อโค่นล้มรัฐบาลประเทศอื่น (regime change) อีกทั้งยังเป็นแหล่งฟอกเงินเพื่อหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นการเพิ่มปัญหาความเหลื่อมล้ำให้มากยิ่งขึ้น จึงทำให้ NGOs เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา
Many NGO's + Non Profits are deeply politicised. There's a booming Human Rights industry that instrumentalises human rights for the purposes of Western Imperialism, to destabilise the Governments of Sovereign States + to facilitate Regime Change – they are part of the problem… pic.twitter.com/XEge2Ws71J
— Mick Wallace (@wallacemick) October 25, 2021
รวมถึงในวันที่ 2 มี.ค.65 ที่ผ่านมา ทางด้านของ ส.ส.มิค วอลเลซ ก็ยังได้ขึ้นอภิปรายถึงประเด็นการรัฐประหารในประเทศบูร์กินาฟาโซ ในทวีปแอฟริกาตะวันตก โดยระบุว่า ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา มีการรัฐประหารในภูมิภาคนี้ถึง 8 ครั้ง
ซึ่งกองทัพที่ก่อการยึดอำนาจนั้น ได้รับการสนับสนุนด้านการฝึกทางทหารจากทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ซึ่ง ส.ส.มิค วอลเลซ อธิบายว่า เป็นการรุกรานอย่างหนักของลัทธิล่าอาณานิคมสมัยใหม่ ซึ่งก็สอดคล้องกับที่เขาได้พูดไว้เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2564
New Coup leader of #BurkinaFaso was trained by the US – 8 successful coups in the region since 2008 were by #US + #EU trained soldiers – EU capacity building in action. Billions are being wasted militarising these Societies, while the boot of neo-colonialism stays pressed hard… pic.twitter.com/hsuXEFrnVn
— Mick Wallace (@wallacemick) March 2, 2022
ทั้งนี้ พ.ร.บ.ควบคุม NGOs ของประเทศไทย ยังอยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77
โดยทางด้านของ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ด้วยเช่นกันว่า ได้มีการสนทนากันถึงร่างกฎหมายคุม NGO ที่ทาง ครม. ให้ความเห็นชอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ
ทางคณะทูตทุกประเทศให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันถึงความกังวลว่า การพยายามผ่านร่างกฎหมายนี้ จะนำไปสู่การปิดกั้นการทำงานของประชาสังคม และองค์กรไม่แสวงผลกำไรจำนวนมาก ทั้งในและนอกประเทศ ที่ไม่ได้มีแค่องค์กรด้านากรเมือง แต่จะกระทบไปยังองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน หรือองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับภาคส่วนต่างๆ