ท่ามกลางการกดดันของสหรัฐและตะวันตก ส่งระเบิดนิวเคลียร์เศรษฐกิจถล่มรัสเซีย หวังทำลายเศรษฐกิจรัสเซียให้ล่มสลาย หลังจากที่คว่ำบาตรมา 101 ครั้งยังไม่สำเร็จ ช่วงเวลานี้ปากีสถานมองโกเลียและจีนต่างเป็นพันธมิตรที่ไม่ทอดทิ้งรัสเซียด้านเศรษฐกิจ เท่ากับสวนทางสหรัฐอย่างไม่ต้องเกรงใจกัน
วันที่ 3 มี.ค.2565 สำนักข่าวปากีสถานทูเดย์และเอเนอร์ยีคอนเน็คส์รายงานว่า นายอิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรีปากีสถานสั่งซื้อข้าวสาลีจากรัสเซีย 2 ล้านตันและสั่งซื้อก๊าซธรรมชาติโดยไม่ระบุปริมาณพร้อมร่วมมือรัสเซียโครงการวางท่อก๊าซอีกด้วย ข่าวดีนี้ยังไม่ทันจ่าง ข่าวดีใหม่ก็มา หลังจากเยอรมนีแช่แข็ง NordStream2 มองโกเลียก็ได้ตอบตกลง อนุญาตให้ท่อก๊าซเส้นโซยุซวอสต็อก(Soyuz Vostok) จากรัสเซียวางท่อเข้าสู่จีน รัสเซียจะต้องขายก๊าซให้จีนคิดต่อปีเฉลี่ยแล้วประมาณ 5 หมื่นล้านคิวบิกเมตร แน่นอนว่าสามารถชดเชยรายได้ที่เยอรมนีแช่แข็งได้สบาย
อิมราน ข่าน กล่าวในการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ของเขาไปยังประเทศเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า “อิสลามบัดได้ลงนามข้อตกลงกับรัสเซียในการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากก๊าซสำรองของปากีสถานกำลังหมดลง”
ปากีสถานและรัสเซียได้ลงนามในข้อตกลงสองฉบับในปี 2558 และ 2564 สำหรับการก่อสร้างท่อส่งก๊าซระยะทาง 1,100 กิโลเมตรหรือ 684 ไมล์หรือที่รู้จักกันในชื่อโครงการท่อส่งก๊าซปากีสถาน จากการาจีถึงปัญจาบโครงการมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์มีกำหนดจะเริ่มในปีหน้า
นอกจากนี้ข่านยังได้กล่าวถึงการมีส่วนร่วมของปากีสถานในสงครามต่อต้านการก่อการร้ายของวอชิงตัน ได้ทำลายชีวิตและเศรษฐกิจของประชาชนปากีสถาน
เขากล่าวว่า “เราเสียชีวิต 80,000 คนและต้องยอมรับการสูญเสียงบประมาณจำนวน 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการเข้าร่วมในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย แม้ว่าเราจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวเลยก็ตาม เพราะไม่มีชาวปากีสถานมีส่วนร่วมในการโจมตีของผู้ก่อการร้าย 9/11 ในกรุงวอชิงตันและนิวยอร์กแต่อย่างใด”
เขายังได้กล่าวโดยถึงการโจมตีด้วยโดรนของสหรัฐฯ กว่า 400 ครั้งในพื้นที่ชนเผ่าทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานใกล้ชายแดนอัฟกานิสถานระหว่างปี 2547 ถึง 2559 ว่าเป็นผลจากการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ผิดพลาดของรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้
ทางด้านมองโกเลียได้ลงนามในข้อตกลงในสัปดาห์นี้ เพื่อสร้างโครงการส่งก๊าซข้ามชาติ โดยมุ่งเป้าที่จะส่งก๊าซรัสเซียจำนวน 5 หมื่นล้านคิวบิกเมตรไปยังจีน โดยท่อส่งก๊าซพาวเวอร์ออฟไซบีเรีย 2 (Power of Siberia 2)
อเล็กซี มิลเลอร์(Alexey Miller) ประธานคณะกรรมการบริหารก๊าซพรอม( Gazprom) และอุคนากิน คูเรลซุค (Ukhnaagiin Khurelsukh) นายกรัฐมนตรีมองโกเลีย ได้จัดการประชุมผ่านวิดีโอคอล โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงโอกาสของความร่วมมือในโครงการท่อส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังจีนทั่วประเทศมองโกเลีย และได้ลงนามสัญญาดำเนินการในที่สุด ทั้งนี้รัฐบาลมองโกเลียได้ลงนาม บันทึกความเข้าใจหรือ MOU มาก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคม 2563
มิลเลอร์กล่าวว่าท่อส่งก๊าซโซยุซ วอสต็อค จะเป็นส่วนต่อขยายของท่อส่งก๊าซรัสเซีย Power of Siberia 2 ซึ่งมีความสามารถในการขนส่งมากกว่า 1.3 เท่าของความจุของท่อส่งก๊าซ Power of Siberia เดิม
เมื่อเดือนที่แล้ว ในการจัดพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ปักกิ่ง 2022 รัสเซียและจีนได้ลงนามในข้อตกลงอายุ 30 ปี ให้รัสเซียทำหน้าที่จัดส่งก๊าซธรรมชาติให้จีนผ่านระบบท่อส่งที่ยังอยู่ในช่วงการก่อสร้างและมีกำหนดแล้วเสร็จใน 3 ปีข้างหน้า ขณะที่ จีนประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะอนุญาตให้มีการนำเข้าข้าวสาลีจากรัสเซียเป็นครั้งแรกด้วย
ข้อตกลงเกี่ยวกับการจ่ายก๊าซผ่านท่อส่งก๊าซ Power of Siberia บรรลุข้อตกลงในปี2014/2557 โดย Gazprom และ China National Petroleum Corporation (CNPC) ลงนามในสัญญา 30 ปี นับเป็นข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดของ Gazprom และเป็นท่อส่งก๊าซธรรมชาติแห่งแรกระหว่างรัสเซียและจีน
จะเห็นได้ว่า แม้สหรัฐและยุโรปจะพยายามตัดเส้นทางทำมาหากินของรัสเซียอย่างเต็มที่ และพยายามอัปเปหิรัสเซียให้ออกจากระบบการเงิน การค้าของโลกอย่างเบ็ดเสร็จ หวังบีบข่มให้ยอมจำนนอำนาจของวอชิงตันและตะวันตกให้จงได้ แต่ในวิกฤตมีโอกาสเสมอ เมื่อรัสเซียไม่ได้โดดเดี่ยวและเตรียมช่องทางการรับมือกับสงครามเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ที่ย่อมต้องคาดเดาไว้แล้วว่าจะโดนอะไรบ้าง เมื่อตัดสินใจเดินหน้าทางทหารแก้ปัญหาดุลกำลังรบกับนาโต อย่างที่ฝ่ายตะวันตกคาดไม่ถึง