พปชร.ลาออกอีกซบพรรคแรมโบ้! อดีตรองหน.ไทยรักไทยมาด้วยช่วยบิ๊กตู่นั่งนายกอีกสมัย

1564

จากที่เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี หนึ่งในทีมงานคนสนิทของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เมื่อ27 มกราคมที่ผ่านมาสร้างความฮือฮาอยู่ไม่น้อยนั้น

ทั้งนี้โดยนายเสกสกล ได้เข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคที่นายเสกสกล มอบหมายให้คนในทีมไปจดทะเบียนไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564

ล่าสุดวันที่ 2 มีนาคม 2565 ภายหลังจากที่นายเสกสกล ได้ชักชวนนายปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส. สระบุรี สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก็มีรายงานข่าวว่า นายปองพล อดิเรกสาร บิดาของนายปรพล ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติแล้วเช่นกัน ตั้งแต่เมื่อช่วงปลายเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดยนายปองพล เป็น อดีต ส.ส.สระบุรี 4 สมัย อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ทั้งอดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ทั้งยังเคยเป็นถึงรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และอดีตสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังมีรายงานข่าวอีกว่า นายสิทธิศักดิ์ พัฒนชัย อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 กาฬสินธุ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ มาเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยเช่นกัน ซึ่งนายสิทธิศักดิ์ เข้ามาดูแลเรื่องของการจัดหาสมาชิก ตัวแทนเขตในพื้นที่อีสาน

สำหรับคำว่ารวมไทยสร้างชาติ เป็นคำที่ พล.อ.ประยุทธ์ คิดขึ้นมาเอง นายเสกสกล จึงขออนุญาต พล.อ.ประยุทธ์ นำไปตั้งชื่อพรรค ซึ่งพรรคการเมืองนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกสมัย ซึ่งการประชุมพรรคในเดือน มีนาคมนี้ จะมีการเปิดตัวคีย์แมนคนสำคัญของพรรคด้วย

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายเสกสกล ได้ให้สัมภาษณ์ ภายหลังยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ได้มีการพูดคุยกับ พลเอก ประยุทธ์ มาก่อนแล้ว ตั้งแต่ยื่นขอจดทะเบียนพรรคต้นปี 2564 ก่อนที่พรรคพลังประชารัฐจะมีปัญหา ซึ่งชื่อนี้เป็นคำที่พลเอก ประยุทธ์ ชื่นชอบ ตนจึงส่งทีมงานไปจดทะเบียนไว้ก่อนเพราะกลัวคนอื่นจะนำชื่อไปใช้ ซึ่งนายกฯ ไม่ได้ว่าอะไร และดำเนินการตามขั้นตอน กกต. ขณะนี้สำนักงานอยู่ที่ จังหวัดนครราชสีมา แต่กำลังทำเรื่องย้ายมาที่ กทม.

“เดือนมีนาคมนี้จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคนัดแรก เพื่อปรับโครงสร้างพรรค จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ล็อตแรกออกมาก่อน และจะทยอยเซอร์ไพรส์เรื่อยๆ แต่ขอไม่เปิดเผยว่ามีใครร่วมงานบ้าง แต่มี ส.ส. อดีตส.ส. อดีตรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรี มาร่วมด้วย ส่วน นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จะมาเป็นหัวหน้าพรรค ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ ยังบอกไม่ได้ เพราะขณะนี้เจ้าตัวยังเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอยู่ แต่ยืนยันจะมีสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลายคนทยอยลาออกตามมา” นายเสกสกล กล่าว

นอกจากนี้ นายเสกสกล ยังกล่าวอีกว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้เป็นนอมินี หรือเป็นพรรคสำรองของใคร ที่สำคัญผู้สมัครสมาชิกพรรคต้องไม่มีประวัติด่างพร้อย สีเทาสีดำ ต้องทำงานเพื่อบ้านเมือง ยึด 3 สถาบันหลักของชาติ เป็นทางเลือกใหม่ และสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกสมัย แต่ พลเอก ประยุทธ์ จะตัดสินใจเลือกให้พรรคใดเสนอชื่อ ก็เป็นสิทธิ

“การลาออกของตนไม่ได้แจ้งให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รับทราบ เพราะตนเป็นเพียงสมาชิก ไม่ได้มีบทบาทในพรรคแต่อย่างใด และยังคงเคารพ พลเอก ประวิตร เช่นเดิม

แม้ พลเอก ประยุทธ์ จะไม่ได้เก่งกาจทางการเมือง แต่เป็นคนตั้งใจทำงาน ดังนั้นตนจะไม่ยอมให้ พลเอก ประยุทธ์ ถูกกระทำหรือโดดเดี่ยวเดียวดาย” นายเสกสกล กล่าวทิ้งท้าย