รัฐบาลญี่ปุ่นยืนยัน ไม่อนุญาตให้พลเมืองเดินทางไปยูเครนในตอนนี้ “ไม่ว่าด้วยเรื่องใดก็ตาม” หลังมีรายงานชายอย่างน้อย 70 คน สมัครเป็น “นักรบอาสา” ให้กับรัฐบาลเคียฟ
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.25675 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า นายฮิโรคาซึ มัตสึโนะเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น(Hirokazu Matsuno)กล่าวถึงการที่สถานเอกอัครราชทูตยูเครนประจำกรุงโตเกียวเผยแพร่ประกาศ การรับ “อาสาสมัคร” ซึ่งมีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ การสารสนเทศและการคมนาคม และประสบการณ์ทางทหาร ว่าแม้ยังไม่ชัดเจนว่า จะมีผู้ผ่านการคัดเลือกเท่าใด และทุกคนต้องเดินทางไปยังยูเครนหรือไม่ รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังตรวจสอบรายงานดังกล่าว
ขณะเดียวกัน มัตสึโนะกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นยังคงคำสั่งเดิม นั่นคือ ไม่ต้องการให้พลเมืองญี่ปุ่นเดินทางไปยังยูเครน “ทุกกรณี” และกำลังประสานงานกับทั้งสถานเอกอัครราชทูตยูเครน และรัฐบาลในกรุงเคียฟ เพื่ออพยพชาวญี่ปุ่นออกจากยูเครน
เขากล่าวในการแถลงข่าวว่า“กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นได้ออกคำแนะนำการอพยพสำหรับยูเครนทั้งหมด และเราต้องการให้ผู้คนหยุดการเดินทางไปยูเครนทั้งหมด โดยไม่คำนึงถึงจุดประสงค์ของการเยือนของพวกเขา”
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตยูเครนประจำกรุงโตเกียว โพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ขอบคุณความสนใจของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของผู้สมัคร คือการต้องผ่านประสบการณ์กับกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น (เจเอสดีเอฟ) หรือผ่านโครงการฝึกฝนทางยุทธวิธี
ด้านหนังสือพิมพ์ “ไมนิชิ” ของญี่ปุ่น รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า มีชายชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจสมัครเข้าโครงการนี้แล้วอย่างน้อย 70 คน ในจำนวนนี้ 50 คน ยืนยันมีประสบการณ์กับเจเอสดีเอฟ ส่วนอีกสองคนเคยเข้าร่วมกับกองกำลังทหารต่างด้าวของฝรั่งเศส
ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะอายัดทรัพย์สินทางการเงินของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และเจ้าหน้าที่คนสำคัญอื่นๆ ของรัฐบาลตามวาระวอชิงตัน
เขาระบุว่าญี่ปุ่นจะเข้าร่วมกับสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรปในการบล็อกธนาคารรัสเซียที่เลือกจากเครือข่ายการชำระเงินระหว่างประเทศของ SWIFTและเสริมว่าญี่ปุ่นจะมอบเงิน 100 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนชาวยูเครน นอกเหนือจากเงินกู้ยืมในรูปเงินเยนซึ่งมีมูลค่าประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ที่ได้ให้คำมั่นแล้ว