“ดอน” เปิดลับ มีมือมืดต้องการให้ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อ

1396

การเมืองที่มองไม่เห็น!? “ดอน” เปิดลับ มีมือมืดต้องการให้ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อ หลัง UN บุกจี้ไทยให้ร่วมคว่ำบาตร!?

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ก.พ.65 ที่ผ่านมา ทางด้านคณะผู้แทนจากสหภาพยุโรป ได้เดินทางไปที่กระทรวงการต่างประเทศของไทย เพื่อเรียกร้องให้สมาชิก UN รวมถึงประเทศไทยออกมาแสดงท่าทีต่อการบุกยูเครนของรัสเซีย ซึ่งเป็นการละเมิดกฎบัตร UN และกฎหมายระหว่างประเทศ

รวมถึงเรียกร้องให้โหวตเห็นด้วยกับมติสมัชชาสหประชาชาติเพื่อแก้ไขปัญหาที่กระทบต่อประชาคมโลก จึงทำให้เกิดกระแสว่า ประเทศไทยต้องเลือกข้าง และจะอยู่ข้างไหน เพราะ ทั้ง 2 ประเทศ ก็เรียกได้ว่าเป็นมิตรที่ดีของประเทศไทย

ต่อมาในวันที่ 1 มี.ค.65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ว่า

“โดยหลักแล้วเราต้องดูสถานการณ์ที่เป็นจริง ขณะนี้ประเทศไทยอาจจะต้องปรับท่าทีนิดนึง เพราะเรารับรู้อยู่แล้วว่ามีการประณามเยอะอยู่แล้ว แต่เราต้องหาจุดที่ช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ต้องมาช่วยกันดูว่าจะทำอย่างไรให้สถานการณ์คลี่คลายได้ อย่านั่งประณามอย่างเดียว”

หลังจากนั้นทางด้านของผู้สื่อข่าวยังได้ซักถามต่อว่า ท่าทีของประธานาธิบดียูเครนที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป มองอย่างไร นายดอน กล่าวว่า “ตามหลักของการเจรจาเป็นการทำให้ท่าทีเข้มขึ้น แข็งขึ้น ไม่ใช่เจรจาแล้วจะอยู่ในท่าทีเดิมๆ แต่การเสริมท่าทีนั้นจะทำให้การคุยกันยากขึ้นไปได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น จะต้องชวนกันมาเอาจริงเอาจังที่จะหาทางออก มากกว่าการแสดงความแกร่ง”

ทางด้านผู้สื่อข่าวจึงได้ถามต่อว่า ยูเครนมีจุดยืนชัดเจนที่จะเข้าร่วมอียูใช่หรือไม่ นายดอน กล่าวว่า “ไม่เชิง เราต้องคิดว่ามีปัจจัยต่างๆ อีกเยอะ อาจจะไม่ได้แค่คิดเรื่องการเป็นสมาชิกอียูเท่านั้น แต่อาจจะมาจากที่อื่นก็ได้เพื่อให้เกิดการยืดเยื้อ คนที่ต้องการให้เกิดความยืดเยื้อมีอยู่เยอะ”

จากคำตอบของ นายดอน ก็ทำให้ผู้สื่อข่าวซักถามต่อว่า คนที่ต้องการให้เกิดความยืดเยื้อต้องการอะไร นายดอน จึงกล่าวว่า “ให้ช่วยคิดกันเองว่าชีวิตจริงเป็นอย่างไร คนที่ต้องการให้ยืดเยื้อก็ได้ประโยชน์จากหลายๆ อย่าง”

หลังจากนั้นทางด้านของผู้สื่อข่าวยังได้ถามต่ออีกว่า ต้องกดดันคนที่ต้องการให้ยืดเยื้อหรือไม่ นายดอน กล่าวว่า “มันมีคนที่ได้ประโยชน์ แต่คนเสียผลประโยชน์คือคนทั้งโลก เราจึงต้องหาวิธีการที่จะช่วยกัน ให้การหารือเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ต้องไม่มานั่งด่ากัน ไทยโชคดีอย่างหนึ่งที่เป็นเพื่อนและสามารถคุยกับคนทั้งโลก แต่ว่าคุยแล้วมีน้ำหนักแค่ไหนนั้นอีกเรื่องหนึ่ง เราสามารถพูดได้กับทั้งอียู สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย”

ก่อนจะจบการสัมภาษณ์ นายดอน ยังได้เสริมต่ออีกด้วยว่า ทางรัสเซียก็อยากเจรจา ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 ก.พ.คงไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีสิ่งแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้เสมอ ต้องตามกันให้ดี เพราะเป็นเรื่องระดับโลกของการเจรจาและการเมืองที่ไม่สามารถมองเห็นได้ผิวเผิน เพราะข้างล่างมีอะไรเยอะแยะเต็มไปหมด