กองทุนสามนิ้วให้ทนายคืนเงิน1.4 ล้านเบิกเกินใช้จริง ขณะคนทวงเงินคืนโอนผิดบัญชี

1343

จากที่กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความกลุ่มราษฏร เปิดเผยศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งยกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัวอานนท์ นำภา และ พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ในคดีการชุมนุมที่อยู่ในศาลอาญากรุงเทพใต้คนละ 1 สำนวนนั้น

ล่าสุดวันนี้ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เฟซบุ๊ก กองทุนราษฎรประสงค์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความแจกแจงถึงรายรับและรายจ่ายเกี่ยวกับการใช้เงินประกันอย่างละเอียดว่า

“ขอแสดงใบเสร็จและสรุปรายรับรายจ่ายที่มีการระดมในรอบวันที่ 22-23 ก.พ. ดังรายละเอียดที่แจกแจงพร้อมหลักฐานด้านล่าง ทั้งนี้เราขอแจ้งภาพรวมเบื้องต้นก่อนว่า เนื่องจากเมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) มีการเบิกสำรองเงินประกันเกินกว่าจำนวนที่ใช้จริงไป 1,430,000 บาทเพราะผิดคาด ไม่นึกว่าศาลจะยังคงไม่ให้ประกัน ดังที่ทุกท่านคงทราบแล้ว

จึงทำให้ทนายความและนายประกันต้องโอนเงินสำรองกลับคืนเข้ามา และทำให้ปนอยู่ยอดรายรับของวันที่ 23 ก.พ.เป็น 3,263,511.53 บาท ทั้งที่ในความเป็นจริง รายรับที่แท้จริงคือ 1,833,511.53 บาท ขณะที่ยอดรายจ่ายที่แท้จริงของวันที่ 23 ก.พ. คือ 272,000 บาท ไม่ใช่ 1,720,000 บาทซึ่งเป็นยอดที่มีเงินคืนสำรองปนอยู่ด้วย

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ยังมีผู้บริจาคบางท่านแจ้งมาว่าโอนเงินผิดบัญชีเนื่องจากเกิดการสับสนภาพคิวอาร์โค้ด และได้แสดงหลักฐานเพื่อขอรับเงินคืน เราจึงได้โอนคืนในวันที่ 23 ก.พ. จำนวน 20,000 บาท และเช้าวันนี้ (24 ก.พ.) อีก 500 บาท ดังหลักฐานตามที่แจกแจงด้านล่าง ความชุลมุนของการโอนผิดนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ และแม้จะทำให้แอดมินผู้งุ่มง่ามต้องยุ่งยากสักหน่อยในการตรวจสอบควานหาหลักฐานจากยอดบริจาคที่เข้ามาเป็นรายยิบย่อยจำนวนมาก

แต่ก็มีผลพลอยได้ตรงที่ได้ถือเป็นโอกาสในการนำหลักฐานนั้นมาเป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า เงินบริจาคที่เข้ามารอบสองวันนี้ที่รวมกันแล้วได้ถึง 15,295,165.74 บาทนั้น เป็นเงินที่เข้ามา “รายวินาที” ซึ่งเราใช้ตรวจสอบยอดเงินและวันเวลาของการโอนว่าตรงกับสลิปที่ผู้ขอรับเงินโอนผิดคืนแจ้งมาหรือไม่ จะเห็นว่าภายในนาทีเดียวกันมียอดเงินเข้ามาหลายยอดซ้อนกันเต็มไปหมด

และยังคงเป็นยอดยิบย่อยมหาศาล ทั้งนี้ เท่าที่แอดมินกวาดตาดูคร่าวๆ พบว่า ด้วยเหตุที่การระดมในรอบนี้มีเวลาจำกัดเพียงไม่กี่ชั่วโมง จึงทำให้มียอดบริจาคหลักพันและหลักหมื่นเข้ามาปนมากกว่าในรอบปกติก่อนๆหน้า ซึ่งเข้าใจได้เนื่องจากว่าทุกท่านมีความกังวลว่าจะระดมไม่ทัน จึงลงแรงลงขันกันมากกว่าที่เคย และทำให้กลายเป็นยอดเงินประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ที่ยังคงมาจากราษฎรสามัญสารพัดทิศอีกเช่นกัน

แม้ว่าเพื่อนของเราจะยังคงไม่ได้รับอิสรภาพออกมาในวันนี้ แต่อย่างน้อยเราก็ค่อยๆ แง้มประตูเปิดออกมาให้พวกเขาได้แล้วหลายบาน คงเหลืออีกเพียงไม่กี่บานที่ขวางกั้นไว้ เหลืออีกไม่กี่ชั่วอึดใจของการวัดใจ ว่าใครกันแน่คือผู้ที่กำลังทำทุกอย่างเพื่อยืนยันให้หลักการของกฎหมายยังคงดำรงอยู่

วันที่ 22 ก.พ. 65

  1. ยอดบริจาครวมทั้งสิ้น คือ 13,461,654.21 บาท
  2. ยอดรายจ่ายรวมทั้งสิ้น คือ 2,370,000 บาท แบ่งเป็น

2.1 วางประกัน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ศาลอาญารัชดาฯ 8 คดี ยอดรวม 980,000 บาท

2.2 วางประกัน อานนท์ นำภา ที่ศาลอาญารัชดาฯ  9 คดี ที่ศาลอาญา ยอดรวม 1,090,000 บาท

3.3 เงินวางประกันประชาชน 1 คน ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ในคดี 112 จากการสาดสี จำนวน 2 คดี ยอดรวม 300,000 บาท

วันที่ 23 ก.พ. 65

  1. ยอดรายรับรวมทั้งสิ้นของวันที่ 23 ก.พ. 65 คือ 1,833,511.53 บาท
  2. ยอดเบิกเงินสำรองจ่าย รวม 1,720,000 บาท แต่ใช้จ่ายจริง 272,000 บาท ดังนี้

2.1 วางประกัน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 150,000 บาท

2.2 วางประกัน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ศาลแขวงพระนครใต้ 20,000 บาท

2.3 วางประกัน ประชาชน 1 คน ที่ถูกยื่นฟ้องที่ศาลอาญารัชดา ในคดี 112 จากเหตุชุมนุมที่ดินแดงช่วง 13-14 ก.ย. 64 เงินประกัน 100,000 บาท

2.4 คืนเงินบริจาคที่ผู้บริจาคแจ้งหลักฐานยืนยันมาว่าเป็นการโอนผิดบัญชี จำนวน 20,000 บาท ดูหลักฐานสลิปและหลักฐานหน้าเคลื่อนไหวบัญชี

  • รับคืนเงินสำรองจ่ายประกัน รวม 1,330,000 บาท คืนจากทนายความ สำหรับเงินประกันที่ไม่ได้ใช้ เนื่องจากเดิมคาดว่าจะต้องมีการวางประกันที่พริษฐ์และอานนท์ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ และศาลหรือสน.อื่นใดหากพบว่ามีการรออายัดเพิ่มเติม แต่ปรากฎว่าศาลอาญากรุงเทพใต้ไม่ให้ประกัน ทนายความจึงโอนเงินคืนกลับเข้าบัญชีแล้ว
  • รับคืนเงินสำรองจ่ายประกัน จำนวน 100,000 บาทคืนจากนายประกัน ซึ่งไปรอวางประกันที่ สน.ทุ่งสองห้อง แต่ไม่ต้องวางประกัน เนื่องจากพริษฐ์ยังคงไม่ได้ประกันจากศาลอาญากรุงเทพใต้ แต่เจ้าหน้าที่ได้มาแจ้งข้อกล่าวหาที่เรือนจำแล้วและแจ้งถอนหมายจับได้แล้ว จึงไม่ต้องวางประกันอีก นายประกันจึงโอนคืนกลับเข้าบัญชีแล้วดังสลิป

24 ก.พ. 65

  1. โอนเงินคืนผู้บริจาคที่แจ้งหลักฐานการโอนผิดบัญชีมาให้ จำนวน 500 บาท ดูสลิปในภาพ 31 และหน้าหลักฐานความเคลื่อนไหวบัญชี ยอดเงินคงเหลือในบัญชี ณ เช้าวันที่ 24 ก.พ. 65 คือ 13,873,667.08 บาท ดังหลักฐานในภาพที่ 1 ดูหลักฐานสรุปรรายรับรายจ่าย”