จากกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้นำมาอภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรแบบไม่ลงมติ วันที่ 18 ก.พ.65 ซึ่งมีการถกเถียงกันว่า เอกสารดังกล่าวอาจเป็นของปลอม
ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางด้านของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า… ผมขออนุญาตตอบนาย Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม และถามกลับไปว่า นายรังสิมันต์ โรม กำลังโกหกแหกตาประชาชนด้วย “ใบสมัครหน่วย สนง.นรป.๙๐๔” อยู่หรือไม่?
1.เอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลียของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ไม่ได้มีการระบุถึง “ใบสมัครหน่วย สนง.นรป.๙๐๔” แต่อย่างใด
2.ใครๆ ก็สามารถตั้งหัวแฟกซ์ของเครื่องแฟกซ์ต้นทางเป็น FROM ROYAL POLICE AMPORN. ได้ จะตั้งว่าส่งมาจาก THE WHITE HOUSE ก็ยังได้
3.สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ (สง.นรป.) ซึ่งปัจจุบันได้ถูกยุบไปแล้ว เดิมมีที่ตั้งอยู่ที่วังสวนจิตรลดา โดยในเอกสารราชการตำรวจทั่วไป “สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ” ใช้ตัวอักษรย่อ “สง.นรป.” ไม่ใช่ “สนง.นรป.”
4.เรื่องใบสมัครที่ถูกส่งมาทางแฟกซ์ นับได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญมาก แต่ทำไม พล.ต.ต.ปวีณ ถึงไม่ได้ระบุไว้ในเอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลีย?
5.คลิปวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อ (propaganda) ของนายรังสิมันต์ โรม เล่าว่า “…มีสายโทรศัพท์มาเสนอความช่วยเหลือพร้อมกับมีการส่งแฟกซ์ใบสมัคร สนง.นรป.๙๐๔ มาให้เขากรอกข้อมูลและถูกเรียกเข้าไปรับข้อเสนอ…”
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว (ไม่ได้ระบุถึงการส่งแฟกซ์ใบสมัคร สนง.นรป.๙๐๔) เกิดขึ้นในวันที่ 10 พ.ย. 2558 ตามเอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลียของ พล.ต.ต.ปวีณ ใน ข้อ.48 แต่ข้อมูลการส่งแฟกซ์บนใบสมัครดังกล่าวกลับระบุเป็นวันที่ 11 พ.ย. 2558 ซึ่งขัดแย้งกันเองอย่างชัดเจน
6.เอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลีย ข้อ.50 ระบุ พล.ต.ต.ปวีณ ได้เข้าพบทั้ง พล.อ.อ.”ส” กับ พล.ต.อ.”จ” ในวันที่ 10 พ.ย. 2558
7.เอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลีย ข้อ.51 ระบุ พล.ต.ต.ปวีณ ได้เข้าพบ พล.อ.อ.”ส” อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 11 พ.ย. 2558
8.ในเมื่อ พล.ต.ต.ปวีณ ได้เข้าพบ พล.อ.อ.”ส” ในวันที่ 11 พ.ย. 2558 อีกครั้ง แล้วทำไม พล.อ.อ.”ส” ถึงต้องส่งแฟกซ์ใบสมัครดังกล่าวไปให้กับ พล.ต.ต.ปวีณ ที่เบอร์ 029382574 เวลา 13.24 น. ในวันเดียวกัน? ตลอดจนคลิปวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อของนายรังสิมันต์ โรม เอง ก็ได้เล่าไว้เองว่า มีการโทรศัพท์และส่งแฟกซ์ใบสมัครมาให้ ก่อนมีการเข้าพบ มิใช่หรือ?
9.เอกสารที่ถูกนำมาอ้างว่าเป็น “ใบสมัครหน่วย สนง.นรป.๙๐๔” น่าจะถูกทำขึ้นในภายหลัง เพราะไม่ได้ถูกระบุไว้ในเอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลียของ พล.ต.ต.ปวีณ เอง ทั้งๆ ที่เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญมาก อีกทั้งวันที่ 10-11 พ.ย. 2558 พล.ต.ต.ปวีณ มีโอกาสได้เข้าพบ พล.อ.อ.”ส” ด้วยตัวเอง แล้วจะส่งทางแฟกซ์เพื่ออะไร?
10.นายรังสิมันต์ โรม จงใจแอบอ้างเอกสารใบสมัครดังกล่าว ทั้งๆ ที่ขัดแย้งกับเอกสารขอลี้ภัยต่อทางการออสเตรเลียของ พล.ต.ต.ปวีณ เสียเอง เพื่อกุเรื่องเชื่อมโยงในการบิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ใช่หรือไม่?
#ปลอมไม่เนียนไปเรียนมาใหม่
ต่อมา ทางด้านของ ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) ได้โพสต์ข้อความท้านายรังสิมันต์ โรม มาดีเบต โดยบอกว่า ก่อนที่จะถูกดำเนินคดี ปลอมแปลงเอกสารทางราชการเพื่อหมิ่นเบื้องสูงอันเป็นส่วนหนึ่งของคดีกบฎล้มล้างการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขก็ขอเชิญ @Rangsiman Rome มาดีเบตในประเด็นเอกสารปลอมนี้ ออกทางสถานีโทรทัศน์ก่อนให้สาธารณชนประจักษ์ชัดเจน
ในขณะที่ทางเพจ ทนายคลายทุกข์ ซึ่งมี ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เป็นเจ้าของเพจ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวว่า
#ถ้าคิดว่าเป็นเอกสารปลอมจะรออยู่ทำไม? ไปแจ้งความดำเนินคดีได้นะครับ อย่ารอช้าไม่ต้องมาตอบโต้ผ่านสื่อ
ถ้ามั่นใจว่าของปลอมก็ดำเนินคดีได้ทันที เพราะเป็นอาญาแผ่นดิน บุคคลทุกคนสามารถกล่าวโทษได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เสียหาย สอบถามข้อกฎหมาย 02-94857xx
ล่าสุดทางดร.อานนท์ ได้โต้กลับว่า กราบขอบพระคุณนะครับ คุณทนายคลายทุกข์ เดี๋ยวผมจะช่วยจัดคนไปแจ้งความให้ ระดับที่ทนายคลายทุกข์จะอ้าปากค้างครับ คนต้องการปกป้องสถาบันมีเยอะครับ ใครมีหน้าที่อะไรก็ช่วยกันทำไปเพื่อส่วนรวม ขอบคุณที่ยินดีให้คำแนะนำด้านกฎหมาย คนที่ผมจะให้ไปแจ้งความก็มีความรู้ด้านกฎหมายดีมากครับ ไม่ต้องห่วงครับผม