“ก้าวไกล” หางานให้ “ปวีณ” อาจถูกขับออกจาก “ออสเตรเลีย” หากทางการตรวจสอบ “ลี้ภัยเป็นเท็จ”

1550

น่าสงสัย อีกแล้ว! “ก้าวไกล” หางานให้ “ปวีณ” อาจถูกขับออกจาก “ออสเตรเลีย” หากทางการตรวจสอบ “ลี้ภัยเป็นเท็จ”

กำลังเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึง และสังคมต่างตั้งคำถามกันเป็นอย่างมาก ว่าอาจจะมีความผิดปกติ ทั้งเอกสารการสมัครเข้าหน่วย สนง.นรป.904 ของ ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ที่ นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้นำมาอภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรแบบไม่ลงมติ วันที่ 18 ก.พ.65 อาจเป็นของปลอม

ล่าสุดก็ได้มีการตั้งข้อสงสัยอีกด้วยว่า วีซ่าลี้ภัย ที่ นายปวีณ อ้างนั้นเป็นของจริงหรือไม่ เพราะ ออสเตรเลียไม่เคยออกวีซ่าลี้ภัยให้กับคนไทยมาก่อน

โดยในวันที่ 23 ก.พ.65 ทางด้านของ นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” ถึงการตั้งคำถามชวนคิดตาม ว่า วีซ่าลี้ภัยของ “ปวีณ พงศ์สิรินทร์” เป็นของจริงหรือไม่ โดยมีรายละเอียดว่า

“ขายชาติขายแผ่นดิน เพื่อตนเอง”
ผมไม่เคยบอกว่าออสเตรเลียไม่มีวีซ่าลี้ภัย แน่นอนว่าออสเตรเลียมีวีซ่าลี้ภัยเหมือนนานาอารยประเทศ

แต่สิ่งที่ผมบอกคือ เท่าที่ทราบตลอดเวลา 20 ปีที่ผมอยู่ที่นี่ มีคนไทยถูกหลอกจากทนายหรือตัวแทนผู้มีใบอนุญาติขอวีซ่า หลอกให้ทำเรื่องขอวีซ่าลี้ภัยอยู่เนื่องๆ แต่ออสเตรเลียไม่เคยออกวีซ่าลี้ภัยให้กับคนไทยมาก่อน
แต่อย่าลืมว่าตอนนี้ไทยกำลังถูกโลก(ตะวันตก)ล้อม เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้น มันจะเกิดขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้อยู่ดีๆ เมื่อก้าวไกลลากคุณปวีณมาอภิปรายในสภาเรื่องขบวนการค้ามนุษย์จนทำให้นายตำรวจกลัวโดนยัดข้อหา ม.112 ต้องขอลี้ภัยในออสเตรเลีย
ก็มีสื่อตะวันตกสอดรับเรื่องนี้ในทันควัน ด้วยการทำข่าวการค้ามนุษย์ในประเทศไทยเพื่อตีข่าวไปทั่วโลก ซึ่งผมมีโอกาสได้สนทนากับเจ้าหน้าที่ระดับสูง จึงถือโอกาสถามท่านเรื่องนี้ จนได้ความว่า ท่านเคยอ่านข่าวนั้นเมื่อนานมาแล้ว แต่เหมือนว่าข่าวเก่านั้นถูกนำมาปัดฝุ่นแล้วเติมเรื่องคดีค้ามนุษย์เข้าไป แล้วนำออกมาเผยแพร่ใหม่

นี่มันอะไรกันครับ
ไทยกำลังถูกโลก(ตะวันตก)ล้อม ใช่มั้ย
เพราะฉะนั้นจะแปลกอะไร ถ้าออสเตรเลียจะเปลี่ยนใจให้วีซ่าลี้ภัยกับคนไทยทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีคนที่ทำธุรกิจในวงการทำวีซ่าในออสเตรเลียเขารู้กับหมดว่า ถ้ามีคนพูดเรื่องทำวีซ่าลี้ภัยให้กับคนไทย นั้นคือการหลอกลวง
……………………………………………………………………

ประเทศออสเตรเลียมีวีซ่าด้านมนุษยธรรมที่ลงนามไว้กับประเทศต่างๆทั่วโลก โดยผู้ลี้ภัยที่ไม่มีทางเลือกอื่นในชีวิต หรือไม่มีประเทศอยู่ และไม่สามารถกลับเข้าประเทศของตนได้ สามารถหาเหตุผลมาอ้างเพื่อขอวีซ่าลี้ภัยได้

ทั้งนี้เหตุผลนั้นต้องตรงตามกฎหมาย Migration Act 1958 ของออสเตรเลียที่ว่าด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบสากลของประเทศออสเตรเลียที่จะไม่ส่งคนที่เสี่ยงต่อการถูกทำร้ายกลับไปเสี่ยงภัยรุนแรง หรือเสียชีวิตในประเทศตน

ออสเตรเลียได้รับผู้ลี้ภัยเข้ามาอยู่ในประเทศแล้วกว่า 880,000 คนนับแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา ล่าสุดเท่าที่ค้นพบคือ ในปี 2018-2019 ประเทศออสเตรเลียรับผู้ลี้ภัยมาแล้ว 18,750 คน

หลักเกณฑ์เบื้องต้นในเรื่องคุณสมบัติของผู้ลี้ภัยที่อาจมีสิทธิ์ขอความคุ้มครองจากรัฐบาลออสเตรเลียคือ จะต้องเป็นผู้ที่อยู่นอกประเทศที่ตนเองอาศัยอยู่โดยปกติ (ประเทศบ้านเกิดของตน) และต้องมีความหวาดกลัวอย่างรุนแรงว่ากลับไปแล้วจะมีภัยเกิดกับตัวอาจถึงชีวิตได้ (well-founded fear of persecution) หรือไม่ปรารถนาที่จะกลับเข้าไปอยู่ประเทศของตนเองอีกได้ เพราะมีความเสี่ยงภัยต่ออันตรายที่อาจได้รับหากกลับเข้าไปในประเทศของตนอีก ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางเชื้อชาติ ศาสนา สัญชาติ สมาชิกกลุ่มในสังคม หรือเหตุผลทางการเมือง ก็ตาม ทั้งนี้ ข้ออ้างดังกล่าวต้องสามารถพิสูจน์ได้

หากต่อมาภายหลังรัฐบาลออสเตรเลียพิสูจน์ได้ว่าข้ออ้างดังกล่าวเป็นเท็จตัวผู้ขอวีซ่าลี้ภัยจะถูกขับออกจากประเทศและอาจไม่ได้วีซ่าใดๆ กลับเข้าสู่ออสเตรเลียตลอดชีวิต รวมทั้งผู้ที่รับเดินเรื่องให้ต้องรับโทษทั้งจำทั้งปรับหนักมาก
……………………………………………………………………

ข้ออ้างที่คุณปวีณใช้ทำเรื่องขอลี้ภัยในออสเตรเลีย นั้นเป็นการโยนบาปว่าถูกสถาบันพระมหากษัตริย์คุกคาม และยกตัวอย่างว่ามีคนที่ต้องตายเพราะถูกคนที่รับใช้ใกล้ชิดใต้เบื้องพระยุคลบาทยัดข้อหาตามมาตรา 112

ทั้งที่ปัญหาของคุณปวีณคือการฉ้อฉลของระบบราชการ ซึ่งมีข้าราชการและนักการเมืองร่วมมือกันกระทำการฉ้อฉล ซึ่งเป็นปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นที่เกาะกินสังคมไทยมาโดยตลอดนับตั้งแต่คณะราษฎร์ปล้นพระราชอำนาจและเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475

ซึ่งระบบราชการที่ล้มเหลว เน่าเฟะนี้คือผลพวงจากโครงสร้างราชการที่ถูกออกแบบมาจากคณะราษฎร์
มิได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัติย์เลย
การยกตนว่าเป็นคนดี เป็นข้าราชการที่ทำงานถวายชีวิตมีจริงหรือไม่ คุณธรรมสำนึกในบ้านเกิดหายไปไหนหมด
อยากรู้ว่ามีคนดีที่ไหน ที่….
ขายชาติขายแผ่นดิน เพื่อตนเอง