3 นิ้วระวังดีใจเก้อ! “เพนกวิน-อานนท์” พ้นคุก แต่อาจไม่รอด งานนี้มีเอี่ยว โดนสาวไส้กดดันจับ 4 บิ๊ก เบื้องหลังม็อบ!?

1158

หลังจากที่นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ได้โพสต์ข้อความทางบัญชีทวิตเตอร์เมื่อ 17.54 น ของวันที่ 22 ก.พ. 65 ระบุว่า “ข่าวดี ศาลอาญา ให้ประกันตัวอานนท์ นำภากับเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ทุกคดีแล้ว แต่ติดปัญหาเงินกองทุนราษฎรประสงค์ไม่เพียงพอสำหรับวางศาล ขอแรงทุกคนระดมช่วยกันครับ”

จนต่อมาเพจกองทุนราษฎรประสงค์ ได้โพสต์ข้อความระดมบริจาค จนยอดเงินทะลุหลัก 10 ล้านในเวลารวดเร็ว จนทำให้มีกลุ่มมวลชน 3 นิ้วด้วยกันเอง เคยตั้งข้อสังเกตว่า ทุกครั้งที่เพจกองทุนม็อบมีการโพสต์ระดมบริจาค ในบางเคสของแกนนำ กลับได้รับความสนใจในเวลารวดเร็ว และไม่มีข้อกังขาที่จะช่วยเหลือ เหมือนเทียบกับเคสของ “ไบร์ท ชินวัตร” ที่ได้รับการช่วยเหลือวางเงินประกันตัว แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือด้วยดีทุกครั้ง เป็นเพราะไร้ประโยชน์กับม็อบแล้วหรือไม่ แต่งานนี้ทำเอาบรรดามวลชนต่างดีใจกันยกใหญ่ ที่แกนนำทั้ง 2 คน คือ เพนกวิน และอานนท์ จะได้ออกพ้นเรือนจำ กลับมาใช้ชีวิตปกติ

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่มีใครรู้เบื้องลึกของการที่แกนนำได้รับการปล่อยตัว เพราะจากที่ไม่มีหวังจะได้รับการประกันตัวด้วยซ้ำ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางสำนักข่าว The truth ได้ทราบข้อมูลจากวงใน ที่ยืนยันได้ว่า การปล่อยตัวแกนนำทั้ง 2 คน รวมไปถึงแกนนำราษฎรคนอื่น ๆ ที่ได้รับการปล่อยตัวออกมาก่อนหน้านี้ อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง ถูกโยงไปสืบต้นตอของเบื้องหลังม็อบ

เพราะหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่​ 10​ พ.ย.​ 2564​ ว่าการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 แต่อย่างที่ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ศาลฯยืนยันชัดเจน แต่การเคลื่อนไหวของเครือข่ายดังกล่าว ยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่ทางด้านดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ พร้อมด้วย ศปปส​. ศชอ. ได้ขยับตัว หลังจากเรื่องนี้นิ่งเงียบ เนื่องจากทราบว่า “เครือข่าย” ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กล่าวถึง ในคำวินิจฉัย เป็นบุคคลที่มีเส้นสายภายในไม่ธรรมดา สังเกตได้ชัดจากที่หลายคนในเครือข่ายนี้เคลื่อนไหวโจ่งแจ้ง แต่ไม่เคยมีความผิดตามกฎหมาย หรือโดนสั่งฟ้องดำเนินคดี แต่อย่างใด

 

ทั้งนี้อ้างอิงจากรายการ The truth Deep Rerort ได้กล่าวว่า มีการรับทราบมาบางส่วน ถึงหลักฐานจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งไหลเข้ามาจากทุกทิศทาง ทั้งแหล่งข่าวจากภายในและภายนอก ได้ถึงมือ ดร.อานนท์ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ ส่วนใหญ่ชี้เป้าไปที่บุคคลในระดับหัวแถวเครือข่าย เป็นตัวหลักในการเคลื่อนไหว รวมทั้งสิ้นในเบื้องต้น 4 คนด้วยกัน

โดยมี ผู้เฒ่าวัย 80 , ส.ส.หญิงจอมซ่า , อดีตหัวหน้า และอดีตเลขาธิการพรรคการเมือง พรรคหนึ่ง ที่คอยขยับรับลูกกันเป็นทอด ๆ บางคนคอยทำหน้าที่นักวิชาการหัวโบราณ อ้างตนรักสถาบันฯ รู้เรื่องในอดีตลึกซึ้ง เพื่อชักจูงแนวคิดเด็กรุ่นใหม่ ให้คล้อยตามได้ง่าย โดยใช้ประวัติศาสตร์ที่บิดเบี้ยว บางคนรับหน้าที่ลงไปมีส่วนร่วมแบบเต็มตัว แต่มักแอบหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ข้างหลัง คอยเป็นกำลังใจ เพื่อปลุกความหึกเหิม ว่ามีคนในระดับผู้ทรงคุณวุฒิคอยสนับสนุน ส่วนอีกคนก็มีเงินมากมายมหาศาล คอยเติมเต็มเรื่องทุนทรัพย์ที่ขาดเหลือ ในการเคลื่อนไหว เพราะเงินที่ได้รับบริจาคมา หักที่โกงกันเองภายในจำนวนกว่า 100 ล้านแล้ว โดยทั้งหมดนี้ มีรายชื่อขีดด้วยเส้นสีแดง ในบัญชีภัยความมั่นคง และการเคลื่อนไหวของ ดร.อานนท์ เรียกได้ว่าน่าสนใจ เพราะข้อมูลต่าง ๆ ที่วงในได้สืบทราบมา แน่นมากตามที่บอกไว้


งานนี้จึงอาจจะทำให้กลุ่มมวลชน 3 นิ้ว พลอยดีใจเฮลั่น ที่เหล่าแกนนำที่ชื่นชอบ ได้รับการปล่อยตัว ซึ่งจะได้อิสรภาพตามที่เฝ้าเรียกร้อง แต่ก็ไม่อาจจะดีใจไปได้ตลอดรอดฝั่ง ด้วยยังไม่รู้ชะตาว่า ครั้งนี้จะมีการไล่เช็คบิลระดับบิ๊กเบื้องหลังม็อบ และอาจจะต้องการพยานหลักฐานรายบุคคล เพื่อแฉเรื่องราวต่าง ๆ ในก๊วนชุมนุม โยงใยสาวไปถึงคนบงการ ทำให้ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ว่าทิศทางของเหล่าแกนนำราษฏรต่อจากนี้ คงไม่ได้กลับไปเคลื่อนไหวม็อบได้อย่างที่ต้องการแน่นอน แต่อาจจะต้องมีใครสักคน ถูกกันตัวไว้เป็นพยานในการจับกุมบิ๊กเบื้องหลังม็อบ ก็มีความเป็นไปได้สูงทีเดียว