ท่ามกลางความตึงเครียดวิกฤตยูเครน สหรัฐยังคงเคลื่อนไหวผลักดันแผนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกเพื่อต้านจีนอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลปักกิ่งประกาศคว่ำบาตรบริษัทอาวุธรายใหญ่สองแห่งของสหรัฐ คือ “ล็อกฮีด มาร์ติน” และ “เรย์เธียน” จากกรณีขายอาวุธรอบใหม่ให้ไต้หวัน พร้อมเตือนสหรัฐฯ ว่าไม่ควรเพิ่มไต้หวันเข้าไปในแผนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก หวังต่อต้านจีนถึงอย่างไรก็ไม่สำเร็จ
เมื่อวันที่ 22 ก.พ.65 สำนักข่าวรอยเตอร์และโกลบัลไทมส์รายงาน อ้างแถลงของนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนว่า ทางการจีนได้แจ้งเตือนนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐฯ และทางการสหรัฐฯ ว่า ไม่ควรเพิ่มไต้หวันซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจีนเข้าไปในแผนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างของสหรัฐฯ เพื่อที่จะต่อต้านจีน
หลังจากสหรัฐฯ ประกาศว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตและความร่วมมือด้านความมั่นคงกับไต้หวัน เพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณช่องแคบไต้หวัน ซึ่งจีนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดพลาด อย่างไรก็ตาม จีนยังคงเต็มใจที่จะแก้ไขปัญหาความเห็นต่างร่วมกับสหรัฐฯ และรักษาความสัมพันธ์ทวิภาคีจีน-สหรัฐฯ ให้มีเสถียรภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยว่ารัฐบาลปักกิ่งตัดสินใจ “ใช้มาตรการตอบโต้” ต่อบริษัทผลิตอาวุธรายใหญ่สองแห่งของสหรัฐ ได้แก่ ล็อกฮีด มาร์ติน และเรย์เธียน โดยอาศัยอำนาจตามความในกฎหมายต่อต้านมาตรการคว่ำบาตรของต่างชาติ เนื่องจากบริษัททั้งสองแห่งยังคงมีความเกี่ยวข้องโดยตรง กับการจำหน่ายอาวุธให้แก่ “ภูมิภาคไต้หวันของจีน”
นับเป็นครั้งที่สามแล้ว ซึ่งล็อกฮีด มาร์ติน และเรย์เธียน ต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรของจีน ต่อจากเมื่อปี 2562 และ 2563 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปักกิ่งไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดของมาตรการทั้งสามครั้ง ทว่านับเป็นครั้งแรก ที่ผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ของสหรัฐทั้งสองแห่ง ต้องอยู่ในบัญชีดำตามกฎหมายต่อต้านการคว่ำบาตรฉบับใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อกลางปีที่แล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้น นายหวังกล่าวว่า ล็อกฮีด มาร์ติน และเรย์เธียน เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายอาวุธมูลค่ารวม 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,219.55 ล้านบาท) ให้แก่ไต้หวัน เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน เสถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน และเป็นการบ่อนทำลายผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีนอย่างโจ่งแจ้ง
หวังกล่าวว่าจีนจะยังคงดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดตามการพัฒนาของสถานการณ์ และปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีนอย่างเด็ดเดี่ยว
กฎหมายต่อต้านการคว่ำบาตรจากต่างประเทศ ซึ่งรับรองในการประชุมปิดการประชุมของคณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ทำให้จีนสามารถใช้มาตรการตอบโต้ผู้ที่แทรกแซงกิจการภายในของจีนได้ อ้างจากสำนักข่าวซินหัว .
ทั้งนี้มาตรการตอบโต้รวมถึงการปฏิเสธการออกวีซ่า การห้ามเข้าประเทศจีน การทำให้วีซ่าเป็นโมฆะ และการเนรเทศ การปิดผนึก การยึดและแช่แข็งการเคลื่อนย้าย อสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สินประเภทอื่นๆ ในประเทศจีน การห้ามมิให้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับองค์กรหรือบุคคลภายในประเทศ และที่จำเป็นอื่นๆ มาตรการตามกฎหมาย
ล่าสุดด้านไต้หวันทำการซ้อมดับไฟที่เกาะเล็กๆ ใกล้จีนแผ่นดินใหญ่บนเกาะตงหยิน และคีมอย( Dongyin and Quemoy) ใกล้กับเมืองฟูโฉวและเซียะเหมิน(Fuzhou and Xiamen)ของจีน โดยมีการจำลองซ้อมปฎิบัติการต่อต้านการบุกรุกด้วย