คนไทยสงสัย “รับบริจาค” ประกันแกนนำ3นิ้ว เสียภาษีหรือไม่? เทียบ “แกนนำแดง” เปิดบัญชี เจอภาษีอ่วม-โดนฟ้องล้มละลาย
จากกรณีที่นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม โพสต์ข้อความทางบัญชีทวิตเตอร์เมื่อ 17.54 น ของ 22 ก.พ. ว่า “ข่าวดี ศาลอาญา ให้ประกันตัวอานนท์ นำภากับเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ทุกคดีแล้ว แต่ติดปัญหาเงินกองทุนราษฎรประสงค์ไม่เพียงพอสำหรับวางศาล ขอแรงทุกคนระดมช่วยกันครับ”
โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวอานนท์ นำภา และเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ กำหนดเงื่อนไข -ห้ามทำกิจกรรมที่อาจจะเสื่อมเสียต่อสถาบันฯและศาลในทุกด้าน ห้ามขัดขวางการพิจารณาคดี ห้ามชุมนุมที่อาจก่อความวุ่นวาย ห้ามออกนอกเคหสถานระหว่าง 21.00-06.00 น. ห้ามออกนอกประเทศ และให้ติดกำไลข้อเท้า EM
ซึ่งต่อมาก็ได้โพสต์ข้อความต่ออีกว่า ช่วงค่ำ ๆ ระหว่างรอวางเงินประกันตัวอานนท์ กับ เพนกวิน เจ้าหน้าที่ : น้องนรเศรษฐ์ฯ ได้เงินประกันครบหรือยัง ผม : ได้ครบแล้วครับ ตอนนี้พร้อมโอนวางเงินประกันครับ เจ้าหน้าที่ : โอโห้!! ทำไมได้เร็วจัง ผม : พี่เชื่อมั่นในพลังของประชาชนไหมครับ ……… ประชาชนจงเจริญ
ตอนนี้ผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง เราสามารถระดมทุนประกันเข้ากองทุนราษฎรประสงค์กว่า 10 ล้านบาท นี่คือพลังของราษฎร
ในขณะที่ทางด้านของนายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้โพสต์ข้อความว่า วันนี้ทนายยื่นคำร้องขอประกันเพนกวินและทนายอานนท์ไปทั้งหมด 17 คำร้อง (จากคดีจำนวนมาก) ได้ประกันแล้วทุกคดี แต่ต้องใช้เงินประกันรวมสูงถึง 2,079,000 บาท แต่ตอนนี้ทางกองทุนราษฎรฯ มีเงินอยู่เพียง 1 ล้านสอง จึงไม่เพียงพอ – ช่วยกันเท่าที่พอจะข่วยได้ครับ
ซึ่งเวลาผ่านไปไม่นาน ก็มีคนเข้ามาบริจาคเงินเป็นจำนวนมาก ทำให้หลายคนตั้งคำถามและข้อสงสัยว่า ว่า การเปิดรับบริจาคดังกล่าวนี้ จะต้องมีการเสียภาษีหรือไม่ และใครจะต้องเป็นคนจ่ายและต้องจ่ายจำนวนเท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านี้ ก็เคยมีกรณีของนายสมหวัง อัสราษี หนึ่งในอดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2562 ว่า
“ใครไม่โดนกับตัวเองจะไม่รู้ ว่า หนักแค่ใหนแบบเดียวกับผม ผมอยู่ นปช. มีแต่ใจเกินร้อยกับพี่น้องแต่หารู้ไม่ว่า ตัวเองกำลังมีชะตากรรมที่ต้องแบกรับแทนคนอื่น
สามเกลอใช้ผมไปเปิดบัญชี เพื่อรับเงินบริจาค และกิจกรรมอื่นๆ โดยที่พวกเขาไม่ยอมใช้ชื่อตัวเองไปเปิดบัญชีรองรับเงิน เพราะเขารู้ว่าจะถูกสรรพากร ประเมินเสียภาษี ทั้งหมดนี้ผมโดนสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากเงินเหล่านี้ เป็นเงิน 572 ล้าน ผมจะเอาที่ไหนไปจ่ายกHเลยโดนฟ้องล้มละลาย และตอนนี้โดนอายัดทรัพย์ และอายัดบัญชีทั้งหมดเหลือแต่ตัวแล้วคับ แถมเป็นบุคคลล้มละลายด้วย ไม่สามารถทำอะไรได้เลย นี่คือ สมหวัง อัสราษี ผมมันโง่เอง รักพวกจนไม่คิดถึงชีวิตและอนาคตตัวเอง บทเรียนที่แสนแพงในชีวิต ชิบหายทั้งตระกูล เพียงเพราะคำว่าเพื่อน”
ทั้งนี้ สามเกลอ แกนนำนปช. คือ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
