วันที่ 22 ก.พ.2565 สำนักข่าวโกลบัลไทมส์รายงานว่าจาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำ UN กล่าวว่า จีนขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในยูเครนดำเนินการเจรจาและปรึกษาหารือกันต่อไป และแสวงหาแนวทางแก้ไขที่สมเหตุสมผลเพื่อจัดการกับข้อกังวลของกันและกันบนพื้นฐานของความเสมอภาคและความเคารพซึ่งกันและกัน ดีกว่าปั่นสงครามขยายความขัดแย้งจะบานปลายคุมไม่อยู่
สถานการณ์ปัจจุบันในยูเครนเป็นผลมาจากปัจจัยที่ซับซ้อนหลายอย่าง ประเทศจีนมักจะแสดงจุดยืนของตนอย่างชัดเจนโดยพิจารณาจากเรื่องนี้เอง เราเชื่อว่าทุกประเทศควรแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยวิธีสันติตามหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ จางกล่าวในระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงฉุกเฉินเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ลงนามในพระราชกฤษฎีกาสองฉบับที่รับรอง “สาธารณรัฐประชาชนลูกาสค์ (LPR)” และ “สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ (DPR)” ในฐานะรัฐอิสระและอธิปไตย
ในพิธีที่จัดขึ้นในเครมลิน ปูตินยังได้ลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพ ความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างรัสเซียกับ LPR และ DPR ตามลำดับกับผู้นำของ “สาธารณรัฐ” ทั้งสองแห่ง
ก่อนหน้านี้ หวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน วอนให้ทุกฝ่ายแก้ปัญหาด้วยการทูต ไม่ควรทำสงครามในยูเครน เขาเน้นย้ำเมื่อเข้าร่วมการประชุมความมั่นคงมิวนิกเมื่อวันเสาร์ ที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาโดยมีวูฟกัง อิสชิงเกอร์( Wolfgang Ischinger)เป็น ประธานในระหว่างการประชุม
เขากล่าวว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตยูเครนควรกลับไปสู่ข้อตกลงมินสก์ วางแผนปฏิบัติการและกำหนดเวลาในการแก้ปัญหา มากกว่าที่จะทำให้เกิดสงครามและสร้างความตื่นตระหนกไปทั่ว
ทุกฝ่ายสามารถแจ้งข้อกังวลด้านความปลอดภัยในยุโรป และข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่ถูกต้องตามกฎหมายของรัสเซียก็ควรได้รับการเคารพและรับฟัง
หวังเสริมว่ายูเครนควรเป็นสะพานเชื่อมระหว่างตะวันตกและตะวันออก แทนที่จะเป็นพรมแดนของการเผชิญหน้าของมหาอำนาจ
คำพูดของหวังทำให้ประชาคมระหว่างประเทศชัดเจนอีกครั้งว่าแนวทางของจีนในการแก้ไขปัญหาวิกฤตในยูเครนคือการส่งเสริมการปรองดอง แทนที่จะเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ
อย่างไรก็ตาม ไฟได้ถูกจุดขึ้นแล้วที่ดอนบาส ปัญหาเฉพาะหน้าของรัสเซียคือการรับมือกับผู้อพยพจากดอนบาสที่นับวันจะมากขึ้นเรื่อยๆ และการลอบก่อวินาศกรรมในเมืองชายแดนรัสเซียติดยูเครนที่ฝ่ายตะวันตกยังคงไม่ยอมรับรู้
ล่าสุดประชาชนรัสเซียรับรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากปธน.ปูตินแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ต่างแสดงการยอมรับและเห็นด้วยกับแนวทางของประธานาธิบดีเพราะการเจรจามินสก์ดำเนินมากว่า 8 ปี ไม่มีผลสำเร็จ ทำให้ผู้นำต้องตัดสินใจแม้จะต้องรับผลกระทบ จากการคว่ำบาตรของตะวันตก