จากกรณี มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ลาออกระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยโจมตีเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจผิดพลาดของ นายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมากนั้น
ทั้งนี้นายมิ่งขวัญ อภิปรายในช่วงหนึ่ง โดยได้ประกาศลาออกจากส.ส. กลางสภาฯ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทำให้นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานฯ ได้ขอให้นายมิ่งขวัญไม่ต้องร้อง ไม่ต้องเศร้าขนาดนั้น
ทำให้นายมิ่งขวัญ ตอบมาว่า ผมจะให้ท่านทำแบบผม ถ้าท่านกล้าดี ผมก็จะท้าพนันกับท่าน ขอบอกเลยว่า สิ่งที่ผมจะขอพูดต่อไปนี้คือ ขออภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ไปทำอะไร หรือให้ใครไปทำอะไร ทำไมพวกเขาเหล่านั้นจึงเปลี่ยนจุดยืน ยืนยันว่าสัญญาที่ ให้ไว้กับประชาชนไม่สามารถทรยศได้ 2 ปีเศษ ผมไม่มีความสุขกับการทำงาน
ต่อมาทีมข่าวเดอะทรูธ ตรวจสอบก็พบว่าเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้ทำหนังสือถึง ผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฏร แจ้งผลมติในการประชุมกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่ ระบุว่า เนื่องด้วยการประชุมกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่ เมื่อวันที่ 30 มกราคม มีมติให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ดำเนินกิจกรรมการเมือง โดยถอนตัวจากพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อทำงานตามอิสระ ตามแนวทางของพรรค
“เนื่องด้วยการประชุมกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 มีมติที่ประชุมในพรรคเศรษฐกิจใหม่ ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองโดยถอนตัวจากพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อทำงานอิสระตามแนวทางของพรรค ดังนั้นจึงขอแจ้งผลมติดังกล่าว ให้ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อโปรดทราบ
ล่าสุดนายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ กล่าวถึงกรณี นายมิ่งขวัญ ยื่นใบลาออกจาก ส.ส. กลางสภา ว่า พรรคให้เกียรติสมาชิกพรรคและ ส.ส. ทุกคน การจะขับใครออกต้องมีความผิดชัดเจน ไม่ใช่มาขอให้ขับออกก็จะขับได้ ถ้าอยู่ๆ มาขอร้องกันก็จะผิดกฎหมาย
“ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมาก็ทำหน้าที่พรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ แต่พอดำเนินงานไปแล้วมีปัญหาเรื่องจุดยืนในการปกป้องสถาบัน จึงกลับมาพูดคุยกับสมาชิกพรรค ถ้าเราเพิกเฉยจะไม่ถูกต้อง กรรมการบริหารพรรคจึงมีมติมาร่วมรัฐบาลเพื่อปกป้องสถาบัน
อีกเหตุผลหนึ่งคือการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่สามารถเอานโยบายมาปฏิบัติจริงได้ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่เป็นนโยบายของพรรค เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า, เรื่องรถยนต์ดัดแปลง, เขตเศรษฐกิจพิเศษ, และผู้ลี้ภัยสงคราม ซึ่งสามารถทำให้เสร็จเร็จได้หากอยู่ฝั่งรัฐบาล”
นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าตอนนี้การทำงานของรัฐบาลจะมีปัญหามาก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ การจัดเก็บภาษีลดลง รายได้ของประชาชนน้อยลง ตนได้ปรึกษากับนายกรัฐมนตรี ต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะถ้าเศรษฐกิจไม่กระเตื้อง เราก็เยียวยาไม่ไหว จุดยืนของพรรคคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่ด้วยข้อจำกัดในการเก็บรายได้ของรัฐบาล ก็พยายามเสนอให้แก้ไปปัญหากันต่อไป ประคับประคองเสถียรภาพของรัฐบาล ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องเจอกับปัญหาการจัดเก็บภาษี เราจึงพยายามผลักดันให้รัฐบาลส่งเสริมธุรกิจใหม่ๆ และพืชเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม นายมนูญ ยังกล่าวถึงนายมิ่งขวัญว่า จุดมุ่งหมายของท่านที่ต้องการประสบความสำเร็จทางการเมืองสูงสุดได้ พรรคไม่สามารถนำพาท่านไปถึงจุดนั้นได้ เพราะมี ส.ส. ไม่ถึง 20 คน พรรคมีจุดยืนด้านเศรษฐกิจ และการปกป้องสถาบัน แต่ตนไม่ขอเปิดเผยจุดมุ่งหมายทางการเมืองสูงสุดของนายมิ่งขวัญ ให้ไปถามเจ้าตัว
“ยืนยันว่าพรรคไม่ได้มีการรับกล้วย แต่มาเพื่อการปกป้องสถาบัน อย่างไรก็ตาม ตอนเป็นฝ่ายค้านก็ทำงานเต็มที่ แต่พอเจอปัญหาเรื่องการปกป้องสถาบัน จึงทำให้เปลี่ยนข้าง แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด” นายมนูญ กล่าว