จากที่ ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก หลังอภิปรายจบ กุ้งได้เขียนใบลาออกไว้ให้แล้ว รอคุณประยุทธ์เซ็นอย่างเดียว รีบเซ็นก่อนที่ประชาชนจะหมดความอดทน เมื่อถึงเวลานั้น แม้แต่เวลาที่จะเซ็นใบลาออก ท่านก็จะไม่มี
สำหรับใบลาออกออกที่ นางสาวทัศนีย์ หรือ กุ้ง เขียนนั้นเป็นการระบุเอาเองว่า “ตามที่ข้าพเจ้า ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้บริหารราชการแผ่นดินมา 8 ปี แต่กลับล้มเหลวในทุกมิติ ทำให้ประเทศพังไม่มีชิ้นดี ทำให้ประชาชนยากจนข้นแค้น เศรษฐกิจของประเทศเสียหายเกินกว่าจะประเมินค่าได้
เพื่อเป็นการรักษาเกียรติของตระกูล เกียรติของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เกียรติยศของประเทศชาติ และแสดงความซึ่งเคารพต่อประชาชนผู้ถือครองอำนาจอธิปไตย ข้าพเจ้านายประยุทธั จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงขอลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีขอแสดงความเคารพต่อประชาชน”
ทั้งนี้น่าสนใจว่า น.ส.ทัศนีย์ มีเรื่องราวอะไรมาก่อนกับพลเอกประยุทธ์หรือไม่ ทางทีมข่าวเดอะทรูธ ก็พบว่า เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภามีนัดหมายลงมติใน วาระที่ 1 (ขั้นรับหลักการ) ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. ซึ่ง ตัวแทนกลุ่ม Re-solution และผู้ริเริ่มในการเสนอร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมกับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 135,247 คน เป็นผู้เสนอ
กระทั่งนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้แจ้งผลการนับคะแนน ที่ประชุมร่วมรัฐสภาลงมติ ปรากฏว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนดังกล่าว ถูกตีตกลงไปโดยปริยาย ตั้งแต่วาระแรก
ขณะที่ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เขต 1 พรรคเพื่อไทย อดีตผู้ต้องหาคดี ม.116 ฐานยุยงปลุกปั่นฯ เพราะรณรงค์ให้มีการ “ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2560” ในยุครัฐบาล คสช. ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก หลังมติที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา “ไม่รับหลักการ” ร่างดังกล่าว โดยมีข้อความดังนี้
“หยุดเอาประชามติอัปยศ อ้างความชอบธรรมให้รัฐธรรมนูญเผด็จการสืบทอดอำนาจ ดิฉันคือคนที่ถูกทหารจับกุม เพียงแค่เห็นต่างเรื่องประชามติไปจากคณะรัฐประหาร กลับถูกตั้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร และต้องเข้าไปอยู่ในคุกถึง 21 วัน ดิฉันทนนั่งฟัง ส.ส.รัฐบาล และ ส.ว. อภิปรายยกเรื่องประชามติอัปยศในครั้งนั้น ที่คนเห็นต่างไปจากผู้มีอำนาจถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก ว่ารัฐธรรมนูญปี 60 ผ่านประชามติของประชาชน 16 ล้านเสียง ไม่สมควรถูกแก้ไข
ประชามติแบบนี้ พวกท่านยังกล้าอ้างความชอบธรรมกันอยู่อีกเหรอคะ? ประชามติที่ไม่ต่างอะไรจากการเอาปืนจี้หัวคนเห็นต่าง ไม่ควรได้รับความชอบธรรม รัฐธรรมนูญที่มาจากเผด็จการและเขียนมาเพื่อสืบทอดอำนาจต้องได้รับการแก้ไข ให้เป็นประชาธิปไตย ให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง
ดิฉัน รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ถูก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว. ปัดตกไป และผิดหวังที่หลายคนใช้ประชามติอัปยศในครั้งนั้น มาเป็นเหตุผลในการไม่ให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจ
ดิฉันอยากให้เพื่อนสมาชิกทุกคนระลึกไว้เสมอว่า การเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยนั้น เราต้องเคารพและปกป้องประชาชน ไม่ใช่ปกป้องผู้มีอำนาจ จนลืมประชาชนที่เลือกพวกเราเข้ามาทำหน้าที่ค่ะ”
นอกจากนี้ ทีมข่าวเดอะทรูธ ยังพบว่าต่อมา วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 น.ส.ทัศนีย์ โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่า “ดิฉันเชื่อว่าผู้มีอำนาจทุกคนมีลูก ท่านลองใช้หัวใจคิดดูว่า หากลูกของท่านต้องเข้าไปอยู่ในนั้น แล้วต้องไปเยี่ยมลูกทุกวัน
ความรู้สึกพ่อแม่เหมือนตายทั้งเป็น ดิฉันโดนแค่ 23 วัน แต่เยาวชนบางคนโดนนับ 100 วันแล้ว ขอเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษทางความคิด คืนความเป็นธรรมให้พวกเขาด้วยค่ะ”