นายกซัดกลับมิ่งขวัญเงิบ! เปิดหลักฐานมติพรรคร่วมรบ.แฉเจ้าตัวก็รู้มา2ปีแล้ว

2014

จากที่ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ประกาศลาออกระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 โดยโจมตีเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจผิดพลาดของ นายกรัฐมนตรีนั้น

โดยในช่วงท้ายของการอภิปราย นายมิ่งขวัญ ได้ประกาศลาออกจากส.ส. กลางสภาฯ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ โดยนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานฯ ได้ขอให้นายมิ่งขวัญไม่ต้องร้อง ไม่ต้องเศร้าขนาดนั้น

ทั้งนี้ทำให้นายมิ่งขวัญ ตอบมาว่า ผมจะให้ท่านทำแบบผม ถ้าท่านกล้าดี ผมก็จะท้าพนันกับท่าน ขอบอกเลยว่า สิ่งที่ผมจะขอพูดต่อไปนี้คือ ขออภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ไปทำอะไร หรือให้ใครไปทำอะไร ทำไมพวกเขาเหล่านั้นจึงเปลี่ยนจุดยืน ยืนยันว่าสัญญาที่ ให้ไว้กับประชาชนไม่สามารถทรยศได้ 2 ปีเศษ ผมไม่มีความสุขกับการทำงาน

“ขอขอบคุณประธานสภา และรองประธานสภาทั้งสองคนและครูแก้ว ขอบคุณทุกคะแนนเสียง ประเทศไม่ต้องเสียงบประมาณ ผมเป็นส.ส. บัญชีรายชื่อ ลาออกวันนี้เขาก็เลื่อนลำดับขึ้นมา มีความสุขด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นผมอยากจะบอกว่า ขอยื่นใบลาออก สักครู่จะเดินไปตรงนั้นยอมที่จะสละความเป็นส.ส. เพื่อให้มันจบ เพราะผมได้ขอให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ขับผมออกจากพรรค เพราะเห็นพรรคอื่นก็ขับออกกันเยอะแยะสนุกสนาน ส่วนผมกับพรรคอุดมการณ์ไม่ตรงกัน

และขอฝากข้อความไปยังพลเอกประยุทธ์ และลูกน้องท่าน ไปทำอะไรเขาถึงเปลี่ยนจุดยืน และต้านกระแสสังคมเช่นนั้นและสิ่งสุดท้ายที่อยากจะฝากไปประชาชนคนไทยทุกคนยืนยันว่าจะยังดำเนินกิจกรรมทางการเมืองจะใช้องค์ความรู้ความสามารถที่ผมมีอยู่ทำงานให้พ่อแม่พี่น้องประชาชน สิ่งที่สำคัญที่สุดผมจะออกไปพิสูจน์ว่า แม้ผมไม่ได้เป็นรัฐบาล ความเหลื่อมล้ำจะถูกแก้ไขหรือไม่ โปรดติดตามและก็จะไปเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งสมัยต่อไปด้วย เราได้เจอกันแน่นอน”

ต่อมาในวันเดียวกัน ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายมิ่งขวัญ กล่าวหาว่า นายกฯ ส่งคนไปเปลี่ยนอุดมการณ์ให้สมาชิกพรรคหันมาสนับสนุนนายกฯ

ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า อะไรเปลี่ยนไป “พรรคของลุงมิ่งเหรอ ก็ไปถามลุงมิ่งเขาสิ ผมจะไปรู้ได้อย่างไร” พร้อมถามกลับว่า แล้วไปเข้าข้างใครละ เมื่อถามย้ำว่า ส.ส.ของพรรคนายมิ่งขวัญ ไปโหวตสนับสนุนนายกฯ

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เขาอาจจะเห็นนโยบาย หรือ สิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องเขาก็เลยมา ก็นายกฯ ไม่มีอะไรกับใครนี่จ๊ะ ไม่ได้เป็นศัตรูกับใครเลยนะ”

ดังนั้นเองที่ทำให้ทีมข่าวเดอะทรูธ ตรวจสอบถึงความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ก็พบว่าเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้ทำหนังสือถึง ผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฏร แจ้งผลมติในการประชุมกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่ ระบุว่า เนื่องด้วยการประชุมกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่ เมื่อวันที่ 30 มกราคม มีมติให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ดำเนินกิจกรรมการเมือง โดยถอนตัวจากพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อทำงานตามอิสระ ตามแนวทางของพรรค

“เนื่องด้วยการประชุมกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 มีมติที่ประชุมในพรรคเศรษฐกิจใหม่ ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองโดยถอนตัวจากพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อทำงานอิสระตามแนวทางของพรรค ดังนั้นจึงขอแจ้งผลมติดังกล่าว ให้ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อโปรดทราบ

พร้อมลงชื่อ สุภดิช อากาศฤกษ์ รักษาการหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่”

ขณะที่มีข้อน่าสังเกตว่า การถอนตัวออกจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ เกิดขึ้นภายหลังการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อพิจารณาเรื่องการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ สาเหตุการถอนตัวออกมาจึงน่าจะเกิดจากความไม่พอใจอะไรบางอย่างในการอภิปรายฯหรือไม่

นอกจากนี้ทีมข่าวเดอะทรูธ ยังพบว่าวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563  นายมิ่งขวัญ ได้แถลงถึงกรณีพรรคเศรษฐกิจใหม่ส่งหนังสือขอถอนตัว จากการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า หลังจากรักษาการหัวหน้าพรรคส่งหนังสือแล้วได้โทรหาตนเอง ถามว่าเห็นข่าวเรื่องถอนตัวจากฝ่ายค้านหรือยัง ซึ่งได้ตอบไปว่าเพิ่งเห็น แต่เมื่อถามถึงเหตุผลและยังไม่ทันได้คำตอบ ก็บอกว่าติดสายผู้ใหญ่แล้ววางสายไป จนถึงขณะนี้ยังไม่ติดต่อกลับมา

นายมิ่งขวัญ กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในสภาพ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก ได้หาเสียงประกาศว่าไม่อยู่ฝั่ง คสช. และได้หาเสียงเช่นนี้ และเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเสียงไม่พอ จึงเป็นฝ่ายค้าน ยืนยันว่า รักษาคำพูด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการไม่รักษาคำพูดกับตนเอง ดังนั้นจึงขอประกาศ แยกทางกับพรรคเศรษฐกิจใหม่โดยเด็ดขาด

“ยืนยันจะรักษาคำพูดว่ายังทำงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน แม้จะเหลือคนเดียวก็ตาม ไม่ทำตามมติพรรค จึงได้ประสานนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไว้แล้วว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะขอร่วมอภิปราย 2 ช่วง ช่วงละ 2 ชั่วโมง ขอให้รอฟังการอภิปราย ซึ่งจะมีข้อมูลในเรื่องของความไม่โปร่งใสในการบริหารงานของรัฐมนตรี”

ส่วนจะลาออกจากพรรคเศรษฐกิจใหม่หรือไม่นั้น นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า คนครึ่งล้านที่เลือกพรรคเศรษฐกิจใหม่เข้ามา เพราะตนเองหรือไม่ แล้วถ้าลาออกประชาชนจะคิดอย่างไร แต่ก็ไม่ยึดติดกับตรงนี้ จะลาออกวันไหนก็ได้ แต่วันนี้เห็นว่ายังสามารถทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนได้ และตามกฎหมายตอนนี้มีวิธีที่จะให้ออกจากพรรคได้คือ พรรคเศรษฐกิจใหม่ขับออกจากพรรค หากลงมติฝืนมติพรรค และถ้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ไม่ขับจนออก ก็อยู่กันอย่างนี้ หากสิ้นสุดอายุสภาฯ ก็จะขอไปอยู่ที่อื่นที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน

นายมิ่งขวัญ ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่า เหตุใดพรรคเศรษฐกิจใหม่จึงตัดสินใจขอแยกตัวจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน และไม่ทราบว่ามีอะไรเป็นแรงจูงใจหรือไม่ มีคนบอกว่าเพราะ กล้วยหรือไม่ ก็ไม่ทราบ และไม่รู้ว่าแรงจูงใจอะไรที่ทำให้คนเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ