สถานการณ์ล่าสุดของวิกฤตยูเครน ยังคงวนเวียนอยู่ที่ รัสเซียจะรุกรานยูเครน โดยสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกยังคงโหมกระพือกระแสสงครามไม่สิ้นสุด แม้โลกจะได้เห็นการหลอกลวงของสหรัฐในวันดีเดย์ แต่การรุกคืบทางทหารของยูเครนต่อสาธารณรัฐโดเนสต์และลูฮานส์ เริ่มระอุขึ้นเมื่อยูเครนมั่นใจว่าสหรัฐและตะวันตกยืนยันสนับสนุนเป้าหมายปราบปรามและยึดคืนรัฐอิสระทั้งสอง เมื่อยูเครนส่งเรื่องร้องเรียนกรณีสภาดูมาของรัสเซีย ผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนรัฐโดเนสต์และลูฮานส์ รอให้ปธน.ปูตินลงนามว่า ละเมิดสนธิสัญญาสันติภาพมินส์ ยูเอ็นเอสซีรับลูกทันที โดยไม่สนใจว่า ยูเครนเป็นฝ่ายที่ละเมิดข้อตกลงมินส์มาโดยตลอด ดูเหมือนว่าคำท้วงติงของปธน.เช็คฯไร้ความหมายสำหรับสหรัฐและองค์กรโลกบาลอย่างยูเอ็นเอสซี
วันพฤหัสบดีที่ 17 ก.พ.2565 สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ไมลอส ซีแมน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็ก ประณาม สหรัฐและCIA ต่อกรณีอ้างว่ารัสเซียจะบุกยูเครน ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่เป็นความจริง และถือเป็นอีกครั้งที่หน่วยข่าวกรองอเมริกากำลังซ้ำเติมประวัติแห่งการทำนายเหตุการณ์สำคัญๆโลกอย่างผิดพลาดบ่อยครั้ง จะตั้งใจหรือแค่เพราะด้อยประสิทธิภาพสหรัฐย่อมรู้ดี
ผู้นำสาธารณรัฐเช็กให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นมลาดา ฟรอนตา ดเนสระบุว่า “ครั้งแรกในอิรัก ดินแดนที่ไม่พบอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง ครั้งที่สองคือในอัฟกานิสถาน พวกเขาอ้างว่าตอลิบานไม่มีทางพิชิตคาบูลและตอนนี้คือครั้งที่ 3 ที่สหรัฐลวงโลก” ประธานาธิบดีอธิบาย
ซีแมน พูดถึงการอ้างความชอบธรรมของสหรัฐฯ สำหรับยกพลบุกอิรัก เพื่อโค่นล้ม ซัดดัม ฮุสเซน ในปี 2003 และประเมินว่ารัฐบาลแห่งชาติของอัฟกานิสถานที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ จะสามารถป้องกันประเทศจากกลุ่มนักรบตอลิบาน หลังกองกำลังต่างชาติถอนทหารออกมา ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์นี้ข่าวกรองสหรัฐฯ ผิดพลาดอย่างร้ายแรง
วอชิงตันเตือนมานานหลายเดือนแล้วว่า รัสเซียกำลังเตรียมพร้อมรุกรานทางทหารโจมตียูเครน และหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขาบอกว่าปฏิบัติการโจมตีใกล้เข้ามาทุกขณะ สื่อมวลชนตะวันตกบางแห่งรายงานข่าวไปไกลกว่านั้น ถึงขั้นระบุว่าไม่วันอังคาร (15 ก.พ.) หรือวันพุธ (16 ก.พ.) ที่ผ่านมา อาจเป็นวันที่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน กระทั่งแจกแจงรายละเอียดด้วยว่า จะสังหารประชาชนยูเครนจำนวนเท่าใด
แม้แต่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนเองก็แสดงความเคลือบแคลงสงสัยต่อคำกล่าวอ้างภัยคุกคามจากรัสเซีย และประกาศให้ในวันพุธ 16 ก.พ.ที่ผ่านมาให้เป็นวันหยุดฉลองวันความสามัคคีแห่งชาติยูเครน
รัสเซียปฏิเสธมาตลอดว่าไม่มีแผนรุกรานใดๆ ต่อยูเครน นับตั้งแต่ถูกกล่าวหาอย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2021
ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็ก กล่าวว่าเขาได้รับแจ้งเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะลงมือโจมตียูเครนบนพื้นฐานข้อมูลข่าวกรองจากสหรัฐฯ และข่าวที่ได้รับแจ้งมานั้นพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง “ผมไม่ได้ถามซีไอเอว่าพวกเขามีแหล่งข้อมูลจากไหน แต่บนพื้นฐานของ 3 กรณีที่ผมพาดพิงถึง ผมสงสัยเหลือเกินกับคุณภาพของแหล่งข้อมูลเหล่านี้”
ผู้นำสาธารณรัฐเช็ก ขอทำนายเองว่าจะไม่มีสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยอ้างว่ามอสโกไม่มีโอกาสมากนักที่จะเป็นฝ่ายชนะและมีโอกาสมากที่จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ถ้าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น มันน่าจะเป็นรูปแบบความขัดแย้งอย่างที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาคดอนบาส แต่จะไม่ใช่สงครามเต็มรูปแบบ”
ซีแมน ยังปฏิเสธแนวคิดที่ว่ารัสเซียยกเลิกปฏิบัติการุกรานสืบเนื่องจากสหรัฐฯ และพันธมิตรยกระดับป้องปราม โดยเขามองว่าเหตุผลส่วนใหญ่คือ สหรัฐฯ พยายามปกปิดอับอายที่พิสูจน์ว่าพวกเขาทำนายผิดพลาดอีกครั้งมากกว่า
ฝ่ายสหรัฐ-ตะวันตกและเคียฟ ชูกระแสกล่าวหาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจรุกรานยูเครน และยังโหมกระพือข่าวรัสเซียจะบุกไม่เลิกรา แม้รัสเซียจะถอนกำลังทหารจากพื้นที่เมื่อซ้อมรบเสร็จสิ้นตามกำหนด
โฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ ตำหนิการกล่าวอ้างเหล่านี้ว่า “ว่างเปล่าและไม่มีมูล” แต่การปั่นกระแสสงครามทำหน้าที่เป็นอุบายที่จะเพิ่มความตึงเครียดในพื้นที่ภายใต้วาระซ่อนเร้นของวอชิงตันและเคียฟ
เปสคอฟย้ำว่ารัสเซียไม่ได้คุกคามใดๆ ต่อผู้ใดเลย แต่ไม่ได้ตัดทอนความเป็นไปได้ของการยั่วยุทางทหาร ที่มุ่งเป้าไปตามการเรียกร้องของเคียฟและสหรัฐฯ ทั้งเตือนว่าความพยายามที่จะใช้กำลังทหารเพื่อแก้ไขวิกฤตในยูเครนตะวันออกเฉียงใต้ จะส่งผลร้ายแรงต่อทุกฝ่าย
