ความคิดต่างกันลิบลับ! นร.มัธยม แห่มอบดอกไม้ให้กำลังใจ “ตรีนุช” ย้อน “กลุ่มนักเรียนเลว” ป่วนวันครู ยกพานดำไหว้!
จากกรณีที่วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2565) เวลา 08.30 น.ที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษา พร้อมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประมาณ 40 คน เดินทางมามอบดอกกุหลาบให้แก่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติงาน
โดยนางสาวตรีนุช กล่าวว่า ขอขอบคุณนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาที่มาให้กำลังใจตนในการทำงานด้านการศึกษา โดยขอย้ำว่าศธ.ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้เห็นผลการปฎิรูปการศึกษาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเรื่องใดที่เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการขับเคลื่อนการศึกษาตนพร้อมแก้ปัญหาให้
“ทั้งนี้ วันนี้ถือเป็นวันที่ดีเนื่องจากเป็นวันแห่งความรัก ดิฉันขอฝากถึงเด็กและเยาวชนอยากให้มองความรักเป็นสิ่งสวยงาม รักอย่างมีสติ เพราะความรักมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่เฉพาะความรักแบบหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังเป็นความรักจากครอบครัว และเพื่อน” รมว.ศธ.กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2565 ที่หน้าหอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามี กลุ่มนักเรียนเลวประมาณ 10 คน เดินทางมาพร้อมป้ายข้อความระบุว่า “พระคุณที่สามงดงามจริงหรือ!” , “ปาเจรา แต่การศึกษาไม่เจริญ” พร้อมพานสีดำมีรูป น.ส.ตรีนุช ประดับด้วยพวงมาลัย ดอกไม้จันทน์ ข้าวตอก และธูป เพื่อจะมาไหว้ น.ส.ตรีนุช เนื่องในวันครู
ตัวแทนนักเรียนเลว กล่าวว่า มีนักเรียนทักมาในเพจนักเรียนเลว ร้องเรียนว่าโดนละเมิดสิทธิจำนวนมาก แต่กลับพบว่าสายด่วน 1579 ของ ศธ. ที่เปิดเพื่อรับเรื่องร้องเรียนมีเพียงหลักสิบสายเท่านั้นที่ร้องเรียนเข้ามา ส่วนที่ น.ส.ตรีนุช ตั้งนโยบายการศึกษาขึ้นมา ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา และแก้ปัญหาไม่ตรงจุด จึงขอให้ น.ส.ตรีนุช กลับไปดูนโยบายการศึกษาที่เคยให้ไว้ ว่านโยบายขณะนี้ตอบโจทย์การเรียนออนไลน์ในเวลานี้หรือไม่
“ปัจจุบันมีเด็กกี่คนที่ออกระบบการศึกษา ศธ.กำลังทำอะไรอยู่ ขอให้รับฟัง และเข้าใจถึงปัญหา ไม่ใช่รับฟังแล้วแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ที่ผ่านมา น.ส.ตรีนุช ได้รับฟังปัญหาการศึกษามาบ้าง แต่ไม่แก้ปัญหาเลย วันนี้วันครู พวกเรานักเรียนเลวนำพานมาไหว้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ และขอให้ น.ส.ตรีนุช มารับฟังและแก้ปัญหาให้ตรงจุด ถ้าแก้ไม่ได้ขอให้หาคนที่แก้ไขปัญหาได้เข้ามาทำงานแทน หรือถ้าทำไม่ได้ก็ลาออกไป” ตัวแทนนักเรียนเลว กล่าว