สื่อออนไลน์ชื่อดังสหรัฐที่ประกาศตัวเป็นประชาธิปไตยจ๋า รายงานข่าวการอนุมัติงบประมาณของสภาคองเกรสสหรัฐเพื่อโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านจีน อย่างภูมิใจนำเสนอมาก แต่เรื่องนี้คอลัมนิสต์ชื่อดังนำมาเผยแพร่ตีแผ่ความไร้สำนึกของประเทศต้นแบบประชาธิปไตยว่า การรู้เห็นเป็นใจจนกำหนดเป็นนโยบายอย่างโจ่งแจ้ง สะท้อนธาตุแท้นักประชาธิปไตยจอมปลอมของสหรัฐอย่างล่อนจ้อนว่า จะทำชั่วอย่างไรก็ได้ภายใต้คำโฆษณาสวยหรูสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตยขอเพียงแต่ชนะก็พอ
เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2565 คอลัมนิสต์ดังแองเจโล กูลิอาโน(Angelo Giuliano)เปิดเผยลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าสภาคองเกรสสหรัฐได้อนุมัติงบประมาณ500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับการรายงานข่าวเชิงลบของจีน และกล่าวว่า ความพยายามที่จะตอบโต้ ‘อิทธิพลที่เป็นอันตรายของจีนต่อผลประโยชน์สหรัฐ’ จะช่วยสนับสนุนการรายงานข่าวเชิงลบพุ่งเป้าไปที่แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน ขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มการปล่อยเงินกู้ระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ด้วย
รายละเอียดของการอนุมัติงบฯก้อนนี้มีเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ของสหรัฐ พรอสเพ็คด็อทโออาร์จี ที่ประกาศเป็นริเบอรัลจ๋าอย่างภูมิใจนำเสนอ
ร่างกฎหมายด้านเทคโนโลยีและการผลิตผ่านรัฐสภาสหรัฐฯได้จัดสรรเงิน 500 ล้านดอลลาร์สำหรับสื่อต่างๆ เพื่อผลิตวารสารสำหรับผู้ชมในต่างประเทศที่มีความสำคัญต่อจีน มีจุดมุ่งหมายเพื่อ “ต่อสู้กับจีน” ร่างกฎหมายดังกล่าวจะจัดหาเงินทุนโดยตรงให้กับหน่วยงานสำหรับสื่อทั่วโลกของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นบริการสื่อต่างประเทศที่ดำเนินการโดยสหรัฐฯ ตลอดจนองค์กรและโครงการในท้องถิ่นเพื่อฝึกอบรมนักข่าวต่างประเทศโดยเฉพาะ
พระราชบัญญัติการแข่งขันของอเมริกาเพิ่งผ่านสภาเป็นแผนนโยบายอุตสาหกรรมสำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน โดยจัดสรรเงินลงทุนด้านเทคโนโลยีสำหรับทุกอย่างตั้งแต่การวิจัยระดับสูงไปจนถึงวิทยาการคอมพิวเตอร์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
เนื้อหาเป็นร่างกฎหมายการผลิตในประเทศ แต่ยัดไส้สำหรับการใช้จ่ายในการผลิตข่าวในต่างประเทศ ความเห็นของฝ่ายสนับสนุนกล่าวว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากความจำเป็นในการกระตุ้นการผลิตในอเมริกาเป็นเรื่องของการแข่งขันกับปักกิ่งด้านการค้าขาย เพื่อฟื้นความสามารถในการแข่งขันระดับโลกมีความชัดเจน
แนนซี เปโลซี ประธานรัฐสภาฯสังกัดพรรคเดโมแครต(Nancy Pelosi) กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในการกล่าวสุนทรพจน์ในร่างกฎหมายว่า “ต้องพุ่งเป้าไปที่ประเด็นการใช้แรงงานบังคับในค่ายซินเจียง เพราะทำร้ายคนงานชาวอเมริกันที่ต้องแข่งขันกับแรงงานทาสที่ค่าแรงถูกกว่า” เรียกว่าเปิดเผยเจตนาอย่างไม่ต้องละอายกันโจ่งแจ้ง
ร่างกฎหมาย ฉบับ ของสภาฯซึ่งผ่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นส่วนหนึ่งของร่างกฎหมายการแข่งขันกับจีนที่วุฒิสภาเรียกว่า USICAซึ่งผ่านสภาฯในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว แผนคือการรวมร่างกฎหมายทั้งสองผ่านคณะกรรมการการประชุมในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
คณะกรรมาธิการต่างประเทศเสนอให้รวมกฎหมายทั้งสองหัวข้ออ้างเป็นการสนับสนุนสื่ออิสระและต่อต้านการบิดเบือนข้อมูล
แม้ว่าร่างกฎหมายทั้งสองฉบับจะกำหนดว่าการรายงานข่าวของสื่อที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหรัฐฯจะต้อง “เป็นอิสระ” แต่ความจริงอาจขัดแย้งในตัวเองอย่างชัดแจ้ง อย่างน้อยประเด็นที่อาจย้อนแย้ง เช่น ร่างกฎหมายของวุฒิสภามีเป้าหมายเพื่อขจัดการลงทุนของจีนในประเทศกำลังพัฒนา และสนับสนุนการวิพากษ์วิจารณ์โครงการของจีนในตลาดเหล่านั้นด้วย ก็ขัดกับข้อแรกที่ระบุว่าให้สื่อเป็นอิสระ
โทบิตา โขว์(Tobita Chow) ผู้อำนวยการ Justice Is Global ซึ่งเป็นกลุ่มที่สนับสนุนเศรษฐกิจโลกให้มีความเท่าเทียมกัน กล่าวว่า“เรายินดีรับการสนับสนุนด้านวารสารศาสตร์” “แต่หากรัฐบาลกำหนดล่วงหน้าในการออกกฎหมายว่ารัฐบาลสามารถกำหนดบทสรุปและประเด็นข่าวว่าจะต้องเป็นอย่างไร ก็ไม่ถือว่าเป็นวารสารศาสตร์อย่างแท้จริง แต่มันจะเป็นเอกสารโฆษณาชวนเชื่อ”
รัฐบาลได้ให้ทุนสนับสนุนมาอย่างยาวนาน (ค่อนข้าง) และอ้างว่าสนับสนุนให้สื่อเป็นอิสระและเสนอข่าวอย่างเป็นกลาง แต่ความจริงสวนทางอย่างชัดแจ้ง
หน่วยงานรัฐบาลที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง USAGM เป็นหน่วยงานดูแลองค์กรสื่อต่างๆ รวมถึง Voice of America, Radio Free Europe, Radio Free Asia (RFA) และ Office of Cuba Broadcasting (OCB)
องค์กรสื่อต่างๆ ไม่ได้ทำเส้นแบ่งให้ชัดเจน ระหว่างการรายงานข่าวที่เป็นกลางและการโฆษณาชวนเชื่อของสหรัฐ ซึ่งเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยของอดีตปธน.ทรัมป์
นักวิจารณ์กล่าวว่า“กฎพื้นฐานของการส่งข้อความทางการเมืองที่ประสบความสำเร็จและการตลาดสมัยใหม่คือการโน้มน้าวผู้คน คุณต้องสร้างความเห็นอกเห็นใจกับพวกเขาก่อน สื่อที่ได้รับทุนในฐานะส่วนหนึ่งของการแข่งขันเชิงกลยุทธ์กับคู่แข่งรายอื่น ย่อมสูญเสียความเป็นกลางหรืออย่างน้อยก็รูปลักษณ์ของความเป็นกลางอย่างไม่อาจปฏิเสธได้”
ปรากฏการณ์การเปิดเผย ที่ทางการสหรัฐสนับสนุนให้ทุนการสร้างข่าวต่อต้านฝ่ายตรงข้าม เป็นภาพสะท้อนมาตรฐานในการทำสงครามข่าวสาร หรืออาจกล่าวได้ว่าได้เปิดเผยว่าสื่อที่อ้างว่าอิสระของสหรัฐละตะวันตกที่จริงคือเครื่องมือ สงครามไฮบริด หรือสงครามพันทางของสหรัฐอย่างโจ่งแจ้ง โดยไม่ต้องแอบๆซ่อนๆอีกต่อไป