หลังจากที่นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจําพิเศษกรุงเทพฯ โดยบริเวณหน้าเรือนจำ เจ้าตัวได้เปิดเผยว่า ขอบคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่มาต้อนรับ ตนซาบซึ้งอย่างมาก ยืนยันว่าจะเคลื่อนไหวอีกแน่นอน แต่ขอเวลาทำการบ้านในช่วงสถานการณ์ 6 เดือนที่ผ่านมาก่อน ว่าตนไม่ทราบเรื่องใดบ้าง เหตุการณ์ไปถึงไหน จากนั้นจะปรึกษากับเพื่อน ๆ อีกครั้ง ว่าจะเคลื่อนไหวกันอย่างไรต่อ ทั้งนี้คาดว่า “ไมค์ ภาณุพงษ์” จะได้รับการปล่อยตัวออกมาในเร็ว ๆ นี้ หากไม่ติดเงื่อนไขอื่น
ต่อมาภายหลังจากที่มีการประกันตัวแกนนำบางรายออกมาแล้วนั้น ก็ได้มีกระแสดราม่าเกิดขึ้นทันที ในเรื่องของเงินบริจาค โดยกองทุนราษฎรประสงค์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เรียนราษฎรที่เคารพ
หลังจากที่เมื่อวานนี้เราได้มีการโพสต์ระดมทุนครั้งแรกในเวลาประมาณ 08.00 น. ซึ่งตอนนั้นเรามีเงินในบัญชี 1,101,872.29 บาท (ยอด ณ เวลา 05.52 น. ของวันที่ 10 ก.พ.) และต่อมาในเวลา 16.44 น. หลังจากวางประกันไป 740,000 บาท เราได้แจ้งแก่ทุกท่านว่าแม้จะมีผู้ทยอยโอนสมทบเพิ่มเข้ามา แต่เรายังเหลือเงินในบัญชีเพียง 585,238.01 บาท
ครั้นแล้วปรากฏว่า ในเวลา 08.00 น. ของเช้าวันนี้ ยอดเงินในบัญชีกลับฟื้นขึ้นมาอยู่ที่ 1,433,442.60 บาท เท่ากับว่า ภายในเวลาเพียง 1 วัน ทุกท่านสามารถระดมเติมกลับเข้ามาได้ถึง 1,071,570.31 บาท หรือราวหนึ่งล้านเจ็ดหมื่นบาท! เท่าที่ผู้ดูแลบัญชีกวาดตาดูคร่าว ๆ เราพบว่าเงินที่เติมเข้ามาเหล่านั้นยังคงเป็นยอดโอนเล็กบ้างใหญ่บ้างอันยิบย่อยหลากหลาย ที่หลั่งไหลกันเข้ามาแม้ในยามยากไปเสียทุกด้านของการดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้องด้วยลำแข้งของตัวเองอยู่เช่นนี้
มันสะท้อน “ศักดิ์ศรีและเจตจำนงของราษฎรสามัญ” จำนวนมหาศาล ที่ต้องการยืนยัน “สิทธิที่จะได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดตามกฎหมายในการพิจารณาคดีที่เปิดเผยซึ่งตนได้รับหลักประกันที่จำเป็นทั้งปวงสำหรับการต่อสู้คดี” ไม่ว่าทั้งสองหลักการนี้จะยังเหลือความหมายอยู่แค่ไหนในดุลพินิจของศาลและในกระบวนการทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ขอแสดงความนับถือราษฎร”
จากกรณีดังกล่าวทำให้เห็นว่ายังมีกลุ่ม 3 นิ้วที่พร้อมจะสนับสนุนช่วยเหลือกองทุนทุกครั้งที่มีการระดมทุน เมื่อเงินในบัญชีเหลือไม่เพียงพอ แต่ก็พบว่าอีกมุมหนึ่งนั้น ก็มีกลุ่ม 3 นิ้วที่เริ่มไม่ไหวกับการช่วยบริจาคเช่นกัน เช่นบางรายบอกว่า เดือนนี้คงช่วยได้น้อยหน่อย รวมถึงบ่นว่ามีการประกันตัวเยอะ ใช้เงินเยอะ จนทำให้ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์รายหนึ่ง โพสต์ข้อความดังนี้ว่า ถ้ารำคาญการระดมทุนหรือรู้สึกตั้งรับไม่ไหว เราก็ยิ่งต้องช่วยกันกดดันให้มีการ #ยกเลิก112 ในเร็ววัน ดันให้มีปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมค่ะ ไม่ใช่มากล่าวโทษราษฎรที่อยู่ข้างราษฏรด้วยกันหรือแม้แต่ปล้อยเฟคนิวส์เรื่องกองทุนราษฎรประสงค์ที่มีไว้เพื่อประกันตัวมวลชน ประชาชนทุกคน พร้อมกับมีกลุ่ม 3 นิ้วบางรายเข้ามาตั้งคำถามด้วยว่า ประกันตัวบ่อย ๆ แล้วใครได้ประโยชน์
