ข่าวร้ายของรัฐบาลปธน.โจ ไบเดนทำคนมะกันและนักลงทุนสหรัฐช็อกอีกแล้ว ข้อมูลกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ พบว่าราคาผู้บริโภค(CPI)พุ่งขึ้นถึง 7.5% ในเดือนที่แล้วเมื่อเทียบเป็นรายปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะอยู่ที่ 7.3% และถือเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีของอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 40 ปี ขณะเดียวกันหนี้ครัวเรือนสหรัฐเพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2021/2564 สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007/2550
วันที่ 11 ก.พ.2565 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงหนักขึ้น หลัง เจมส์ บุลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาเซนต์หลุยส์ แสดงความเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวทำให้เขามีมุมมองเชิงก้าวร้าวขึ้นอย่างมาก และเขาต้องการให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเต็ม 1.0% ภายในวันที่ 1 กรกฎาคมปีนี้
ด้านราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ปิดในกรอบแคบๆ แม้คาดการณ์อุปสงค์พลังงานแข็งแกร่ง นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกมากกว่าคาดหมายเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 89.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 14 เซนต์ ปิดที่ 91.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนผลักให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดีที่ 10 ก.พ.2565 ทำสถิติขยับขึ้นต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 1,837.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ในช่วงเวลาเดียวกันด้านภาระหนี้ภาคครัวเรือนของสหรัฐ เพิ่มสูงขึ้นในปี 2021/2564 เป็นจำนวนสูงสุดในรอบ 14 ปี เนื่องจากผู้คนเพิ่มการกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน รถยนต์ และสินค้าอื่น ๆ ที่มีราคาแพงขึ้น ตามรายงานของธนาคารกลางสหรัฐในนิวยอร์กเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา การกู้ยืมที่สูงขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาสินค้าและบริการที่สูงขึ้นเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อกระฉูดในรอบสี่ทศวรรษ แต่ครัวเรือนมีเงินออมเพิ่มขึ้นจากการมีรายได้ที่สูงขึ้น ดูเหมือนว่าจะจัดการกับภาระหนี้ที่มากขึ้นได้ดีจนถึงขณะนี้ เป็นมุมมองทางบวกของนักวิจัยของเฟด
วิลเบิร์ต ฟาน เดอร์ คลอว์ รองประธานอาวุโสของเฟดนิวยอร์ก กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ยอดรวมของการจดจำนองบ้านที่เพิ่งเปิดใหม่ และสินเชื่อรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2021/2564 ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับราคาบ้านและรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น หนี้ครัวเรือนทั้งหมดเพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในหนี้โดยรวมนับตั้งแต่ปี 2007/2550 ตามรายงานประจำไตรมาสของเฟดในนิวยอร์ก เกี่ยวกับหนี้ครัวเรือนและสินเชื่อ ยอดหนี้ทั้งหมดขณะนี้อยู่ที่ 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปี 2019/2562
จากข้อมูลของเฟดยอดสินเชื่อรถยนต์เพิ่มขึ้น 15,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สี่ และเพิ่มขึ้น 84,000 ล้านดอลลาร์ในระหว่างปี สินเชื่อรถยนต์เปิดใหม่มีจำนวน 73,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2021/2564 ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุด โดยเป็นหนี้เงินกู้รถยนต์รวมทั้งสิ้น 1.46 ล้านล้านดอลลาร์
การจำนองสินทรัพย์มูลค่ามากกว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์เกิดขึ้นในปี 2021/2564 ซึ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สถานการณ์โดยรวมที่เงินเฟ้อยังพุ่งไม่หยุด ทำให้เจ้าหน้าที่เฟดเริ่มออกอาการว่าจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดยมีแนวโน้มจะเริ่มในเดือนมีนาคมนี้ และเริ่มลดจำนวนการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯในปลายปีนี้ การกระทำทั้งสองอย่างอาจเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมได้ เนื่องจากเฟดพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และยกเลิกการสนับสนุนที่จัดให้ในช่วงการระบาดใหญ่ นักวิจัยของเฟดในนิวยอร์กกล่าวว่า ผู้กู้บางรายที่อาการไม่ดีในช่วงการระบาดใหญ่อาจทำให้ธนาคารยากลำบากมากขึ้นในการติดตามการชำระหนี้ในภายหลัง
ด้าน Bank of America เรียกร้องให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7ครั้งในปีนี้ หมายความว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมแต่ละครั้ง ซึ่งจะเริ่มในเดือนมีนาคม แต่หลังจากรายงานเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงเกินคาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คาดว่าเฟดอาจจำเป็นต้องมีขั้นตอนที่ก้าวร้าวมากขึ้นเพื่อให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม และนี่เป็นสัญญาณร้ายของเศรษฐกิจสหรัฐที่พยายามปิดบังเท่าไหร่ก็ปิดไม่มิด??