นางยุริโกะ โคอิเกะ(Yuriko Koike) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น คว้าคะแนนเสียงถล่มทลาย ในการเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงโตเกียว เป็นสมัยที่ 2 ด้วยคะแนนสูงถึง 3,661,371 ล้านคะแนน โดยทิ้งห่างผู้สมัครรายอื่นแบบขาดลอย และยังทำสถิติได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงโตเกียว หลังได้รับชัยชนะประกาศ เตรียมรับมือไวรัสโควิด-19 ระบาดรอบสอง
ทั้งนี้ ชาวกรุงโตเกียวออกมาใช้สิทธิ์ร้อยละ 55 ซึ่งน้อยกว่าเมื่อครั้งก่อนหน้า การเลือกตั้งนี้อยู่ระหว่างการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้นางโคอิเกะ งดเว้นการปราศรัยหาเสียงในสถานที่สาธารณะ โดยใช้การปราศรัยผ่านทางออนไลน์แทน
ญี่ปุ่นจัดการเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงโตเกียว เมื่อวันอาทิตย์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวนมาก ในเมืองหลวงช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ขณะเดียวกันกรุงโตเกียวยังต้องเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีหน้าอีกด้วย
นางโคอิเกะวัย 67 ปี เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีของพรรค LDP ที่เป็นรัฐบาลญี่ปุ่น แต่เมื่อ 4 ปีก่อน เธอได้ลาออกมาเล่นการเมืองท้องถิ่น และเอาชนะผู้สมัครจากพรรค LDP อดีตต้นสังกัดของเธอได้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เธอได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั้งกลุ่มที่สนับสนุนพรรครัฐบาล และกลุ่มอิสระ ประชาชนส่วนใหญ่ให้คะแนนเธอในการรับมือวิกฤตโควิด ได้ดีกว่ารัฐบาลของนายชินโซ อาเบะ
ผลสำรวจก่อนหน้าการเลือกตั้ง ระบุว่า นางโคอิเกะ มีคะแนนนำเหนือผู้ลงสมัครแข่งขันคนอื่นๆ รวมทั้งนายเคนจิ อุสึโนมิยะ อดีตประธานสหพันธ์สภาทนายความของญี่ปุ่น คาดว่าเธอจะคว้าชัยชนะอย่างง่ายดาย โดยนางโคอิเกะ เป็นสตรีคนแรก ที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการกรุงโตเกียวในปีพ.ศ. 2559 คะแนนนิยมของเธอพุ่งขึ้นในปีนี้ เนื่องจากเธอพูดจาอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และยังทุ่มเททำงาน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด และในที่สุดก็ได้รับชัยชนะตามคาด
กรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อโควิดรายวันสูงกว่า 100 คนต่อเนื่อง 4 วันแล้ว ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียวเพิ่มขึ้นเป็น 6,765 คน แต่รัฐบาลญี่ปุ่นยังยืนกรานว่า “นี่ไม่ใช่การระบาดระลอก 2 “ และยังไม่จำเป็นต้องมีมาตรการฉุกเฉินแต่อย่างใด
นางโคอิเกะ กล่าวหลังได้รับเลือกตั้งว่า เธอจะจัดตั้งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ แบบเดียวกับ CDC ของสหรัฐ ในแบบของกรุงโตเกียว และยอมรับเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า “ต้องเตรียมรับมือการระบาดระลอก 2”
……………………………………….
Cr:japantimes,
