แกะรอยคนสนิทนายกเข้า “รวมไทยสร้างชาติ”-ดึงส.ส.-นักการเมืองเกรดเอ พปชร.ซบ!จับตาพีระพันธุ์นั่งหน.พรรค?

1823

จากกรณีที่มีรายงานข่าวแพร่สะพัดตลอดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า “แรมโบ้” ได้โบกมือลาพรรคพลังประชารัฐแล้ว โดยจะเข้าสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมทั้ง “ปรพล” ที่จะเดินทางตามไปอยู่พรรคใหม่ด้วย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าของวันที่ 7 กุมภาพันธ์  นายปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี จะมอบหมายตัวแทนเดินทางไปยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โดยมีรายงานข่าวว่า นายปรพล จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามคำเชิญชวนของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสข่าวว่านายเสกสกล ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐไปก่อนหน้านี้แล้ว และวันเดียวกันนั้นช่วงบ่ายนายปรพล จะยื่นหนังสือสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ

อย่างไรก็ตามถือเป็นการขยับของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นอีก 1 พรรคที่ถูกจับตามอง ว่าอาจเป็นพรรคสำรองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ล่าสุดวันนี้ 7 กุมภาพันธ์ 2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับการยืนยันแล้วว่า นายเสกสกล ได้มีหนังสือถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่มีรายงาน นายเสกสกล​ จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ถูกจับตามองว่าจะเป็นพรรคสำรอง ของพล.อ.ประยุทธ์ และมีรายงานด้วยว่าในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ วันเดียวกันนี้​ นายปรพล​ จะยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐด้วยเช่นกัน และจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามคำเชิญของนายเสกสกล

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ จะมีการประชุมพรรค เวลา 15.00 น.วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ทำการพรรค รัชดาภิเษก โดยมีการแจ้งพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรี​ และหัวหน้าพรรค จะเข้าร่วมประชุมด้วยขอความร่วมมือส.ส.ทุกคนเข้าร่วมการประชุม

สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ  ทางทีมข่าวเดอะทรูธ  ตรวจสอบไปก็พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบให้นายทะเบียนพรรคการเมืองรับจดทะเบียนจัดตั้ง พรรครวมไทยสร้างชาติ ตามที่เสนอก่อนที่จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา

“พรรครวมไทยสร้างชาติ มีชื่อ ว่าที่ ร.ท.ไกรภพ นครชัยกุล เป็นหัวหน้าพรรค โลโก้ใช้เครื่องหมายหกเหลี่ยมสีน้ำเงิน มีแถบ 3 เส้นสีทอง ขาว บนเครื่องหมายหกเหลี่ยม และมีตัวอักษรภาษาไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ อยู่ใต้เครื่องหมาย

มีความหมายถึงการหลอมรวมประชาชนชาวไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าให้มั่นคงยั่งยืน สร้างความสามัคคีของคนไทยทุกคนและทุกภาคส่วนของสังคมไทย ในการร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองและมั่นคง โดยยึดถือหลักความมั่นคง และศรัทธาสูงสุด ต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

ต่อมาทางด้านนายเสกสกล ให้สัมภาษณ์ถึงการลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อไปทำการเมืองในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ความจริงตนจดทะเบียนพรรครวมไทยสร้างชาติมาเป็นปีแล้ว ก่อนที่พรรคพลังประชารัฐจะมีปัญหา ซึ่งคำว่า “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นคำที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชื่นชอบและตั้งคำนี้ขึ้นมาเอง แต่ตนเกรงว่าคนอื่นจะนำชื่อนี้ไปใช้ ตนได้ส่งทีมงานไปจดทะเบียนเป็นชื่อพรรคไว้ก่อน นายกฯ จะใช้หรือไม่ก็แล้วแต่ ซึ่งตนได้แจ้งให้นายกฯ รับทราบแล้ว ซึ่งนายกฯ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งขณะนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ มีความเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมากแล้ว มีการตั้งสาขาและหาสมาชิก แจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นไปตามระเบียบทุกอย่าง ซึ่งเดือนมีนาคม จะมีการประชุมใหญ่และเปิดตัวผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง มีประวัติดี โปรไฟล์ดี

นายเสกสกล ระบุว่า การที่จดทะเบียนพรรครวมไทยสร้างชาติ มีความชัดเจนว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อไป และคิดว่าอนาคตการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน หากพรรคพลังประชารัฐมีปัญหาก็จะได้มีพรรคการเมืองที่เป็นทางเลือกใหม่ให้นายกฯ ได้พิจารณา และพรรคนี้ถือว่าเป็นพรรคที่มีความชัดเจนในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และที่สำคัญเป็นการเดินตามแนวทางของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตนในฐานะเป็นผู้ก่อตั้งก็ได้ประกาศไว้ว่า พรรครวมไทยจะสร้างชาติ จะเป็นพรรคที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าจะมีพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ หรือมีพรรคอื่นที่จะเสนอพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ แต่พรรครวมไทยสร้างชาติก็จะยืนยันที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์

“นี่ถือจุดยืนของผม และพร้อมทำงานร่วมกับพรรคอื่นๆ ที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ถือเป็นพรรคที่เป็นทางเลือกหนึ่งให้นายกฯ ถ้าคิดว่าพรรคที่อยู่ไม่มีความสุข ผมไม่ต้องการให้นักการเมืองบางคน รุ่นเก่าๆ หรือพรรคเดียวมาบีบ หรือกดดันนายกฯ วางแผนเล่นเกมการเมืองกับนายกฯตลอดเวลา อย่าคิดว่าคนอย่างนายกฯ ไม่มีที่ไปหรือไม่มีที่ยืน ยังมีพรรคการเมืองใหม่อีกหลายพรรคที่พร้อมสนับสนุนนายกฯ ผมในฐานะที่อยู่เคียงข้างนายกฯมาตลอดจะไม่ยอมให้นายกฯ โดดเดี่ยวเดียวดายแน่นอน” นายเสกสกล กล่าว

นายเสกสกล กล่าวว่า สำหรับพรรคพลังประชารัฐที่ตนลาออกมานั้น ปกติก็ไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมใดๆอยู่แล้ว และเขาก็ไม่เคยเรียกใช้ตนอยู่แล้ว ดังนั้นตนก็ต้องหาทางของตนในการหาพรรคการเมืองใหม่และยึดคติที่ว่า “เป็นหัวหมา ดีกว่าเป็นหางราชสีห์” ทำพรรคเอง เชิญผู้หลักผู้ใหญ่ และคนรุ่นใหม่ เยาวชนทั้งหลาย อดีตนักการเมืองรุ่นเก่า รุ่นใหม่ มาช่วยกันสร้างพรรคให้เป็นประโยชน์แต่ต้องเป็นคนดี ภาพพจน์ดีไม่มีสีเทาหรือประวัติด่างพร้อย

เมื่อถามว่า ในพรรคพลังประชารัฐ จะมีคนอื่นๆออกมาตามมาอีกหรือไม่ นายเกสกล กล่าวว่า มีแน่นอน ตอนนี้หลายคนยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็มั่นใจว่าจะออกมาอีกหลายคนแน่นอน

อย่างไรก็ตาม พรรครวมไทยสร้างชาติ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งพรรคที่น่าจับตามองในศึกการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งพรรคที่มีจุดยืนชัดเจน นั่นก็คือ สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับยึดถือหลักความมั่นคง และศรัทธาสูงสุด ต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

นอกจากนี้ จากที่นายเสกสกล ได้ออกมายืนยันอย่างหนักแน่นว่า จะมีอีกหลายคนที่จะออกจากพรรคพลังประชารัฐและเข้าร่วมกับพรรคใหม่นั้น ก็มีกระแสข่าวว่า ผู้ใหญ่อีกหลายคนเริ่มเดินสายทาบทามนักการเมืองเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยพบความเคลื่อนไหวของ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร และการเคลื่อนไหวของพรรคก็มีรูปแบบคล้ายกับพรรคพลังประชารัฐ ก็คือใช้วิธีการดึง ส.ส.และนักการเมืองเกรดเอ เข้าสังกัดให้ได้มากที่สุด และคาดว่าจะมีนักการเมืองอีกหลายคนในพรรคพลังประชารัฐ อาจจะเข้ามาสมทบกับพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย

สำหรับนายพีระพันธุ์ ที่ขณะนี้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่แล้ว ซึ่งทำงานเข้าขากับนายกฯ โดยในช่วงที่มีปัญหาวุ่นวายภายในพรรคพลังประชารัฐ ก็มีกระแสว่า ถูกส่งมาช่วยงานที่พรรค เพื่อประสานงานกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า นายพีระพันธุ์ จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่