ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจใหญ่ในโลก สหรัฐและพันธมิตรตะวันตกกับ รัสเซียและจีน เต็มไปด้วยกระแสข่าวปลุกปั่นสงครามเชิงพื้นที่เกิดขึ้นอย่างร้อนระอุ บนหน้าหนังสือพิมพ์ของฝั่งตะวันตกปักหมุดที่โหมกระพือกระแสรัสเซียกำลังจะบุกยูเครน แต่ปิดบังไม่มิดว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของสหรัฐลูกพี่ใหญ่คือการลากรัสเซียเข้าสู่สงครามใหญ่ในยุโรป ขณะที่กลบกระแสการเปิดงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งของจีนอย่างจงใจ
วันเสาร์ที่ 5 ก.พ.2565 สำนักข่าวเอพีและทาซซ์รายงานว่า รัสเซียได้ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์พิสัยไกล 2 ลำ บินลาดตระเวนเหนือท้องฟ้าเบลารุส ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่ลุกลามบานปลายจากข้อพิพาทชายแดนยูเครน-รัสเซียเป็น ความขัดแย้งสหรัฐ-นาโตกับรัสเซีย
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่าเครื่องบินทิ้งระบิดทียู- 22เอ็ม3 (Tu-22M3) จำนวน 2 ลำ ทำการฝึกซ้อมร่วมกับกองทัพอากาศและกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของเบลารุส ระหว่างภารกิจที่ใช้เวลา 4 ชั่วโมง และจากนั้นได้มีเที่ยวบินลาดตระเวนแบบเดียวกันตามมาอีกหลายเที่ยวเหนือท้องฟ้าเบลารุส ซึ่งมีชายแดนติดกับยูเครน
ภารกิจครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่รัสเซียเคลื่อนทหารจากไซบีเรียและตะวันออกไหลเข้าไปยังเบลารุส เพื่อซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความกังวลเพิ่มแก่บรรดาชาติตะวันตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะยกพลรุกรานยูเครน
ก่อนหน้านี้รัสเซียได้จัดส่งระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-400 มาถึงเบลารุสตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมาเพื่อฝึกซ้อมรบร่วมกัน ก่อนที่จะส่งบินรบขึ้นฟ้าลาดตระเวน
ตามที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงาน ในระหว่างการฝึกซ้อมร่วมกัน กองทหารจะฝึกการเสริมกำลังส่วนชายแดนของรัฐในพื้นที่ที่อาจเป็นไปได้ของการเจาะกลุ่มอาชญากรที่ผิดกฎหมายในดินแดนของเบลารุส
กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานก่อนหน้านี้ว่า กองพันสองกองพันของระบบป้องกันภัยทางอากาศไทรอัมป์เอฟ เอส-400 (Triumf’ S-400) ของกองทัพอากาศและกองทัพป้องกันทางอากาศของเขตทหารตะวันออก ถูกส่งไปยังเบลารุเพื่อตรวจสอบกองกำลังตอบโต้ของรัฐสหภาพรัสเซีย-เบลารุส
โดยจะดำเนินการในสองขั้นตอน ในระยะแรกก่อนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ กองทัพเบลารุสและรัสเซียจะฝึกการวางกำลังทหารและสร้างกองกำลังเฉพาะกิจในทิศทางที่อันตรายในอาณาเขตของเบลารุสภายในระยะเวลาอันสั้น ในระหว่างขั้นตอนนี้ กองทหารจะฝึกปกป้องและปกป้องรัฐที่สำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกทางการทหาร และปกป้องชายแดนของรัฐในน่านฟ้า และตรวจสอบความพร้อมและความสามารถของกองกำลังแจ้งเตือนปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรวดเร็วในการป้องกันทางอากาศ เพื่อบรรลุภารกิจในการป้องกันสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญ
ในขั้นตอนที่สองของการตรวจสอบซึ่งจะเริ่มในวันที่ 10-20 กุมภาพันธ์ จะมีการจัดซ้อมรบร่วม Union Resolve 2022 ซึ่งกองทหารจะฝึกการต่อสู้และขับไล่การรุกรานจากภายนอก การต่อต้านการก่อการร้าย และการปกป้องผลประโยชน์ของรัฐสหภาพ
รัสเซียยังคงยืนยันว่าไม่มีแผนโจมตีใดๆ ต่อยูเครนแต่เป็นไปเพื่อเตรียมรับการคุกคามของสหรัฐและนาโตที่เคลื่อนกำลังรบในยุโรปตะวันออกติดชายแดนรัสเซีย ทั้งนี้รัสเซียได้เรียกร้องสหรัฐฯ กับพันธมิตรให้มอบคำสัญญาแบบมีข้อผูกมัดทางกฎหมายว่า พวกเขาจะไม่รับยูเครนเป็นสมาชิกนาโต้ จะไม่ประจำการอาวุธนิวเคลียร์ และจะถอนประจำการกองกำลังนาโต้ในยุโรปตะวันออก ข้อเรียกร้องที่ทางวอชิงตันและนาโต้ปฏิเสธพร้อมยืนยันว่า “ไม่อาจยอมรับได้”
แต่สหรัฐและตะวันตกเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารราวๆ 100,000 นายออกจากพื้นที่ต่างๆในประเทศรัสเซียใกล้ยูเครน ซึ่งเครมลินตอบโต้ว่าจะประจำการทหารทุกหนทุกแห่งที่จำเป็นในเขตดินแดนของรัสเซีย เมื่อการเจรจาโดยสหรัฐและนาโตจัดขึ้นล้มเหลว กองทัพรัสเซียได้ทำการซ้อมรบหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่มหาสมุทรอาร์กติกไปจนถึงทะเลดำ สมน้ำสมเนื้อกันกับที่สหรัฐและยุโรปบางประเทศส่งการสนับสนุนทางทหารไปยังยูเครน และสหรัฐส่งทหารมาประจำการในยุโรปตะวันออกอย่างโจ่งแจ้ง
ทหารรัสเซียที่ประจำการในเบลารุสเพิ่มความกังวลแก่ตะวันตกว่ารัสเซียอาจลงมือโจมตียูเครนจากทางเหนือ ในขณะที่กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน อยู่ห่างจากชายแดนเบลารุสเพียงแค่ 75 กิโลเมตร
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัสเซียทำการซ้อมรบร่วมกับเบลารุสหลายต่อหลายครั้ง และได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ลาดตระเวนเหนือท้องฟ้าเบลารุสบ่อยครั้ง ในขณะที่เบลารุสนั้นมีชายแดนติดกับสมาชิกนาโต้อย่างโปแลนด์ ลิทัวเนียและลัตเวีย ด้วยเช่นกัน
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ค่ายตะวันตก บลูมเบิร์ก, นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐและบิลด์ของเยอรมนี รายงานอ้างว่ารัสเซียจะโจมตียูเครนจากหลายทิศทาง บุกยึดเมืองใหญ่ๆ และแต่งตั้งรัฐบาลหุ่นเชิด โฆษณาชวนเชื่อปั่นสถานการณ์ให้ร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง แม้ยูเครนจะพยายามลดกระแสว่า สงครามยังไม่เกิดและไม่มีหลักฐานบ่งชี้ทั้งทางข่าวกรองและพื้นที่ว่ารัสเซียจะบุกแต่อย่างใด
ด้านยุโรปนำโดยฝรั่งเศสและเยอรมนีเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง เตรียมมุ่งหน้าสู่มอสโกและเคียฟในวันจันทร์ที่ 7 ก.พ.และวันอังคาร 8 ก.พ. ตามลำดับ ส่วนนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ แห่งเยอรมนี จะเดินทางไปยังเคียฟและมอสโก ในวันที่ 14 และ 15 กุมภาพันธ์
บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับมาครง และเปิดเผยว่าพวกเขาเห็นพ้องกันว่า ความพยายามหาทางออกในสถานการณ์ปัจจุบันด้วยหนทางด้านการทูตยังต้องเป็นเป้าหมายที่มีความสำคัญที่สุด แต่อังกฤษเป็นคนแรกที่ส่งอาวุธและหน่วยพิเศษให้ยูเครน พร้อมทั้งให้ยูเครนกู้เงินเพื่อนำมาซื้ออาวุธของอังกฤษ พฤติกรรมย้อนแย้งหน้าตาเฉย