“โหรฟองสนาน” เปิดแล้วยุบสภาเดือนไหน? ฟันธง! ล็อคถล่ม ได้ผู้นำทรงอิทธิพล

2495

จากที่วันนี้ 5 กุมภาพันธ์ 2565 แม่หมอสมัครเล่น ฟองสนาน จามรจันทร์ ได้ทำนายเกณฑ์ชะตา พล.อ.ประยุทธ์ ช่วง กลางเมษา-กลางพฤษภา จะเป็นด่านแรกของปีที่นายกฯ ต้องตีฝ่าทางการเมืองนั้น

ทั้งนี้สำหรับคำทำนายระบุไว้ว่า ตามที่ผู้เขียนได้ทำนายดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2565 ไว้ในไทยโพสต์ เผยแพร่ประมาณปลายเดือนธันวาคม 2564 ว่า ปีนี้คือ 2565 เป็นปีแห่งดาวใหญ่ย้ายราศี-ลางเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโผล่และยังมีเรื่องอื่นๆอีกยืดยาวนั้น

คราวนี้มาเน้นกันเนื้อๆเรื่องการเมืองที่กำลังร้อนมาก เพราะไม่ทันไรเรื่องกวนการเมืองก็โผล่นำมาเป็นระยะๆ เริ่มตั้งแต่ปัญหาหมูแพง-นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งกรรมการแก้สลากกินแบ่งรัฐบาลแพงที่อาจถูกมองว่าไปทะลายผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม

พลังประชารัฐแพ้เลือกตั้งซ่อมสงขลา และชุมพรตามด้วยขับส.ส.ออกจากพรรคยี่สิบกว่าคน ที่ยังไม่สะเด็ดน้ำว่าอะไรเป็นอะไรก็มาถึงเรื่องแพ้เลือกตั้งยับเยินที่กรุงเทพฯเขตเก้า และส.ส.ใต้ปชป.ทวงเก้าอี้คืนจากคุณจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสภาผู้แทนราษฎรล่มติดกันบ่อยครั้งฯลฯ

ในทางโหรนั้นคำทำนายที่ผู้เขียนได้เขียนทำนายไว้ก่อนหน้านี้เรื่องการเมืองคือ 1.ตั้งแต่ 29 มีนาคม 2565 -สิ้นปีเริ่มต้นเข้าสู่ลางเปลี่ยนใหญ่ผู้นำทางการเมือง-การเมืองหรือผู้นำสำคัญ-องค์ประกอบพรรคร่วมของรัฐบาลและผู้นำองค์กรต่างๆที่สำคัญ (พระราหูจรทับลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง)

ถ้าเป็นคนจะเป็นไปตามโฉลก..ราหูมาต้องลัคน์ แม้นสูงศักดิ์สุราลัย จะจากพรากยศไกร ลำบากใจไฟเผาผลาญ…นั่นคือมีโอกาสตกจากตำแหน่ง หรือ ได้ตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี-หรือรัฐมนตรี หรือผู้นำในองค์กรต่างๆเป็นระยะๆให้ตื่นเต้นเร้าใจตลอดถึงสิ้นปีอาการคือ

1.1 ด้านนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ 21 เมษายน 2565-สิ้นปี ไม่ว่าจะมีความผันผวนในการเมืองเพียงใด หากจะมีการเปลี่ยนแปลงจะมีโอกาสตกผลึกเลือกทางเปลี่ยนแปลงเองว่าจะสู้ต่อ หรือเปลี่ยนแปลง (ทั้งยุบสภา หรือลาออก หรือปรับคณะรัฐมนตรี-เปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาล) แทนการถูกบีบให้เปลี่ยนแปลงแบบหน้าเขียวหน้าเหลือง

อาการของนายกรัฐมนตรีนี้พอจะเปรียบเทียบได้กับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่สามารถฟันฝ่าแรงกดดันของนปช.แดงทั้งแผ่นดินได้แล้วตัดสินใจยุบสภาด้วยตัวเอง หลังจากนั้น แตกต่างคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุบเพราะแรงกดดันอย่างหนัก (ยุบขณะดวงเมืองแตกสองชั้น)

1.2 ตั้งแต่ 21 เมษายน 2565-สิ้นปี แม้การเมืองจะอยู่ในบรรยากาศเปลี่ยนแปลงขนาดไหน เมืองก็มีโอกาสได้นายกรัฐมนตรีออกแนวดี (พระอาทิตย์เป็นศรีจร)

ส่วนรัฐบาล หน้าตาจะออกแนวร้าย-ไม่สวยสร้างความเครียดและน่าขมขื่นสำหรับประชาชน อีกทั้งคนในรัฐบาลก็จะทำพลาดหรือก่อกวน หรือ หักหลังกันเอง (พระเสาร์เป็นกาลกิณีจร-คล้ายรัฐบาลเคยพลาดคราวสปก.401) จนผู้นำรัฐบาลอาจต้องเลือกทางเปลี่ยนแปลง และแม้จะเปลี่ยนแปลงระดับไหนซีกรัฐบาลก็จะภาระก็จะหนักมากกว่าปีที่แล้ว

ฟากฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลไม่ว่าใครจะมาเป็นก็คงได้อาละวาดเป็นระยะๆ แต่ในที่สุดแล้วทำอะไรไม่ขึ้นเพราะสมาชิกเหมือนคนป่วยกระเสาะกระแสะไปอีกหนึ่งปี (พระเสาร์จร7เล็งพระจันทร์2ดวงเดิม)

2.ลีลาของการเข้าสู่โหมดของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเช่นยุบสภา-ลาออก-หรือปรับทีมงาน-ปรับนโยบายที่ผู้นำรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นใครต้องฝ่าด่านท้าทายเป็นระยะๆ เพียงแต่จะระดับใดเท่านั้นคือ

ช่วงแรกประมาณ 14 เมษายน – 15 พฤษภาคม 2565 ปรากฎการณ์นี้จะเริ่มด้วยมีแรงบีบในทางการเมือง เริ่มนำมาตั้งประมาณกลางมีนาคม 2565 นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปอย่างระทึก+ตื่นเต้นเร้าใจ-ล็อคถล่ม+แปลกประหลาดสุดๆ โดยจะเกิดขณะผู้นำรัฐบาลโดดเด่น ทรงอิทธิพล จนมีทางเลือกเองว่าจะเดินทางใด (พระอาทิตย์จร1เป็นศรี+อุจจ์) คาดสถานการณ์หนักสุดที่จะเกิดคือยุบสภา (สถานการณ์ใกล้เคียงกันนี้พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เคยยุบสภามาแล้วเมื่อ1พฤษภาคม 2529)

ช่วงนี้หากยังไม่ถึงขั้นยุบสภาจะถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ -แคล้วคลาดของผู้นำ โดยต่อไปยังมี ด่านการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองดักอยู่อีกเป็นระยะๆเพียงแต่จะระดับใดเท่านั้น(ซึ่งจะได้เขียนถึงเป็นคราวๆต่อไป)

ด้วยคำทำนายทั้งหมดนี้ที่ให้ไว้ ตอนหน้ามาดูกันว่า ดวงชะตาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี จะเป็นเช่นไร เพราะเจอหน้าใครๆระยะนี้ ผู้เขียนก็มักถูกถามว่าจะยุบสภาหรือไม่?นายกฯจะรอดหรือไม่

โดยขอทิ้งท้ายคำทำนายของผู้เขียนที่ให้ไว้ตั้งแต่ปลายปีแล้วที่ น้าเปลว สีเงิน เขียนถึงในคอลัมน์คนปลายซอย เมื่อเร็วๆนี้ว่าท่านเคยขำ และไม่รู้ว่าเจ๊ฟองเอาอะไรมาทำนาย แล้วก็หายขำแล้วคือคำทำนายที่ว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะถูกไล่จากตำแหน่งเป็นระยะๆมันเกิดขึ้นจริงแล้ว เพียงแต่จะไล่ได้หรือไม่ได้เท่านั้น รอฟังเฉลยตอนหน้าว่าชะตาจรของพลเอกประยุทธ์ มีแนวโน้มจะเป็นอย่างไร