จากที่แกนนำกลุ่มราษฏรหลายคนต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ กับการถูกดำเนินคดีหลายข้อหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามความผิดมาตรา 112 ซึ่งสำหรับอานนท์มฐานะเป็นทนายความด้วย ขณะที่กำลังถูกสอบสวนถอดพ้นจากสภาทนายความนั้น
ล่าสุดวันนี้ 04 กุมภาพันธ์ 2565 เฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ออกมาโพสต์ข้อความพร้อมแบนเนอร์แจ้งถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า
“3 ก.พ. 2565 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นัดพร้อมกรณีการตั้งเรื่องสอบมรรยาททนายความของอานนท์ นำภา เหตุจากการปราศรัยเสนอข้อเรียกร้องเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน โดยในวันนี้ รัษฎา มนูรัษฎา ผู้รับมอบอำนาจของอานนท์ เข้าร่วมนัดหมาย แต่ อภิวัฒน์ ขันทอง ผู้กล่าวหาไม่มาตามนัด โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง
รัษฎา มนูรัษฎา ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการสอบสวนว่า อานนท์ขอต่อสู้คดีด้วยตนเอง แม้ตัวจะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ แต่ประสงค์จะร่วมการไต่สวนของคณะกรรมการสอบสวนทุกนัด เพื่อให้ตนได้แถลงแนวทางการต่อสู้คดีและนำพยานหลักฐานเข้าไต่สวนได้อย่างเต็มที่
คณะกรรมการสอบสวนจึงกำหนดนัดพร้อมใหม่เป็นวันที่ 7 เมษายน 2565 เวลา 10.00 น. โดยจะใช้วิธีการประชุมทางจอภาพทางไกล หรือ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับอานนท์ จากภายในเรือนจำ หากเขายังไม่ได้รับการปล่อยตัว
ทั้งนี้ หากอานนท์ถูกวินิจฉัยว่ามีความผิดมรรยาททนายความจริง ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 กำหนดโทษไว้ 3 แบบ คือ (1) ภาคทัณฑ์ (2) ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนดไม่เกิน 3 ปี หรือ (3) ลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ”
ทั้งนี้ทีมข่าวเดอะทรูธ ตรวจสอบย้อนไปพบว่าเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ บางเขน กทม. นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง เข้ายื่นเรื่องขอให้สภาทนายความฯลบชื่อ นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ และทนายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกจากทะเบียนทนายความ
“เนื่องจากมีพฤติกรรมเข้าข่ายละเมิดข้อบังคับสภาทนายความฯ จากการปราศรัยที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 3 ส.ค.63 มีเนื้อหายุยง ปลุกปั่น บิดเบือน และล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมี นายเกียรติศักดิ์ เหลืองอังกูร อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย และ นายปัญญา จารุมาศ เลขานุการคณะกรรมการมรรยาททนายความ เป็นผู้รับเรื่อง”
ด้านนายอภิวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตนได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ นายอานนท์ ที่ สน.สำราญราษฎร์ ไว้แล้ว จากกรณีที่ได้ขึ้นปราศรัยล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและเคารพของคนไทย การปราศรัยดังกล่าว เป็นการบิดเบือนความจริง หมิ่นประมาท เสียดสี ยุยงปลุกปั่น ก่อให้เกิดความเสียหาย และความชิงชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อหวังผลให้ประเทศเกิดความแตกแยกความสามัคคี ความวุ่นวายปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน
“ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว ในฐานะที่นายอานนท์เป็นทนายความ แต่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ต่อศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของวิชาชีพ อีกทั้งสภาทนายความ ก็อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดังนั้นจึงควรมีมาตรการลงโทษ โดยการลบชื่อนายอานนท์ ออกจากทะเบียนทนายความโดยเร็วที่สุด” นายอภิวัฒน์ ระบุ
นอกจากนี้ นายอภิวัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า การดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับ นายอานนท์ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ และต่อสภาทนายความฯนั้น เป็นการดำเนินการในฐานะส่วนตัวที่รักและเทิดทูนสถาบัน ไม่ได้มีใครมอบหมายมาทั้งสิ้น และไม่เกี่ยวข้องใดๆกับทางรัฐบาล แม้ตนจะมีตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีก็ตาม อีกทั้งตนก็ไม่ได้ต้องการปิดกั้นการแสดงออกของประชาชน แต่ยอมรับไม่ได้กับพฤติกรรมของนายอานนท์ ที่เข้าข่ายความผิดกฎหมายบ้านเมืองหลายข้อหา