อยู่ๆจอร์จ โซรอสก็โผล่มาคั่นรายการชูยูเครนปั่นสงครามสหรัฐ-รัสเซียในภูมิภาคยุโรป ประกาศเรียกร้องให้ตะวันตกเร่งจัดการจีนเพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครองในจีนอย่างไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน สะท้อนมุมมองเชิงลึกของชนชั้งสูงทางการเมืองของสหรัฐว่าคิดอย่างไรกับศัตรูที่เป็นก้างขวางคออำนาจเบ็ดเสร็จของสหรัฐอย่างรัสเซียและจีน
โซรอส ไม่เคยปิดบังว่าเป็นผู้สนับสนุนหลักของพรรคเดโมแครต เหตุใดจึงส่งสารอย่างเปิดเผยให้โจมตีจีนก่อน อาจเป็นด้วยแค้นฝังหุ่นส่วนตัวที่เจ๊งยับกรณีจีนปราบทุนยักษ์ให้ลดระดับขูดรีดคนจีน ทำให้เงินที่ลงทุนซื้อหุ้นรายใหญ่ๆไว้หายวับในพริบตาเมื่อราคาหุ้นฟินเท็คยักษ์ของจีนหลายตัวตกระนาว และเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีความคิดตรงกับวุฒิสมาชิกของพรรครีพับลิกันที่เห็นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของปธน.โจ ไบเดนควรติดเบรคเรื่องวิวาทกับรัสเซียไว้และควรมุ่งหน้าจัดการกับจีนก่อน
วันที่ 3 ก.พ.2565 สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีเชื้อสายยิว-อเมริกัน เรียกร้องให้โค่นปธน.สี จิ้นผิง ของจีนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวสุนทรพจน์ที่สถาบันฮูเวอร์อนุรักษ์นิยม โซรอสเรียกจีนว่าเป็น“รัฐเผด็จการที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก และเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อสังคมเสรีประชาธิปไตยที่เผชิญอยู่ทุกวันนี้”
โซรอสเรียกสีจิ้นผิงว่าเป็น “ผู้มีความเชื่อที่แท้จริงในลัทธิคอมมิวนิสต์ซึ่งแตกต่างจากอดีตผู้นำจีน เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้แนะนำการปฏิรูปตลาดเสรี และชี้ว่าเหมา เจ๋อตง และเลนินเป็นไอดอลของสี”
โซรอสปิดท้ายคำปราศรัยของเขาด้วยการเรียกร้องให้เปลี่ยนระบอบการปกครองในจีน โค่นล้มสี จิ้นผิง ซึ่งสะท้อนแนวความคิดปัจจุบันของพรรคขวาจัดอเมริกันหลายคน ซึ่งต่อต้านความเป็นผู้นำของสี จิ้นผิงอย่างเอาการเอางาน
โซรอสเป็นผู้ก่อตั้งและประธาน Open Society Foundation ซึ่งประกาศสนับสนุนแนวคิดฝ่ายซ้ายแบบสังคมนิยมในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ซึ่งรวมถึงขบวนการ Black Lives Matter, Planned Parenthood และการปฏิรูปการย้ายถิ่นฐาน นอกจากนี้ เขายังสนใจในการแข่งขันอัยการเขตของสหรัฐฯ โดยทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าร่วมการแข่งขันเหล่านี้ โดยผู้สมัครที่ได้รับการสนับสนุนจากโซรอสเหล่านี้บางส่วนกำลังดูแลการดำเนินคดีในเมืองใหญ่ของอเมริกา เพื่อทรงอิทธิพลในการจัดการกับฝ่ายตรงข้ามอย่างโจ่งแจ้ง และนี่เป็นเหตุหนึ่งถึงเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ในทุกเวทีการเมืองภายในประเทศ แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันเห็นเหมือนกันคือ “จีน” เป็นศัตรูที่อันตราย
กว่ารัสเซียที่สหรัฐมองว่า ยังอ่อนแอเพราะถูกแซงก์ชั่นทางเศรษฐกิจมานานกว่าทศวรรษและพันธมิตรยุโรปยังแน่นแฟ้นกับสหรัฐโดยภาพรวม
ในระยะเวลรใกล้เคียงกัน สื่อแอ็กเซียส(Axios)ของสหรัฐได้เปิดเผยว่าวุฒิสมาชิกจอช ฮาวเลย์(Josh Hawley)แห่งพรรครีพับลิกัน ได้ส่งจดหมายถึงแอนโทนี บลิงเคน (Antony Blinken) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯลงวันที่ 1 ก.พ.2565 ระบุว่าทำเนียบขาวควรพิจารณาละทิ้งความพยายามในการช่วยเหลือยูเครนให้เข้าร่วมกลุ่มทหารนาโต
เนื้อหาในจดหมายระบุว่า “ความสนใจของเราไม่ได้เน้นหนัก ที่จะให้เหตุผลว่าสหรัฐฯ ต้องทำสงครามกับรัสเซียเกี่ยวกับชะตากรรมของยูเครน เพราะความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของชาวอเมริกันขึ้นอยู่กับความสามารถของเรา ในการลดอิทธิพลและอำนาจที่เพิ่มขึ้นของจีน วอชิงตันต้องทุ่มทรัพยากรและมุ่งไปยังอินโดแปซิฟิกเพื่อขจัดอิทธิพลของจีนในการครอบงำภูมิภาคนั้น”
วุฒิสมาชิกแนะนำว่าการส่งทหารสหรัฐไปยังยุโรปในกรณีที่มีการบุกโจมตียูเครน เป็นการกระจายกำลังโดยไม่เหมาะสม ควรเปลี่ยนไปเพิ่มความสามารถของกองทัพสหรัฐและปรับปรุงกองกำลังให้ทันสมัยเพื่อขัดขวางจีนอย่างจริงจังมากกว่าโดยนัยสำคัญนาโตก็มีแนวโน้มจะรับยูเครนเป็นสมาชิกอยู่แล้ว
เมื่อเดือนธันวาคมปีกลาย ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยปธน.วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปิดเผยว่า ปธน.สี จิ้นผิง ของจีน สนับสนุนความต้องการค้ำประกันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากนาโตของรัสเซีย อีกทั้งตระหนักดีและเข้าใจปัญหาหลักที่นาโตขยายสมาชิกปิดล้อมชายแดนเป็นข้อกังวลที่รัสเซียมีต่อพรมแดนตะวันตกของตน”
ปักกิ่งสนับสนุนมอสโกว์ในความพยายามที่จะได้รับการรับรองจากวอชิงตันและกลุ่มทหารที่นำโดยสหรัฐฯ โดยรมว.ต่างประเทศจีนหวัง ยี่ (Wang Yi) ยืนยันกับ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ แอนโทนี บลิงเคน(Anthony Blinken) ในระหว่างการโทรสายตรงพูดคุย เมื่อเดือนม.ค. 2565ที่ผ่านมา ว่า”ข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่ถูกต้องตามกฎหมายของรัสเซียควรต้องได้รับการจัดการอย่างจริงจัง”
อย่างไรก็ตาม การที่วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยุติการสนับสนุนความทะเยอทะยานที่มีมายาวนานของยูเครนในการเข้าร่วม NATO โดยย้ำว่าความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นกับรัสเซียทำให้วอชิงตันเสียสมาธิจากการต่อต้านการครอบงำของจีนที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการส่งสัญญาณของ จอร์จ โซรอส นายทุนหลักรายสำคัญของพรรคเดโมแครตอย่างมีนัยสำคัญ
คงต้องจับตาสถานการณ์นับจากนี้ ว่าสหรัฐจะให้น้ำหนักในการทุ่มเทบีบคั้นไปทางใดระหว่างแนวรบยุโรปเผชิญหน้ากับรัสเซีย หรือแนวรบอินโดแปซิฟิกเผชิญหน้ากับจีน ขณะเดียวกันก็ไม่อาจมองข้ามแนวรบตะวันออกกลาง แหล่งทรัพยากรน้ำมันที่สหรัฐผูกพันและเป็นต้นทางแห่งอำนาจปิโตรดอลลาร์ที่ครอบงำและควบคุมโลกตลอดมาด้วย เพราะสันติภาพที่แท้จริงไม่เคยเกิดขึ้นในภูมิภาคแห่งนี้??