ถือเป็นครั้งแรกในการกลับมาเคลื่อนไหวตอบประเด็นการเมืองร้อน หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกักตัวครบ 7 วัน จากการเดินทางกลับจากการเยือนราชอาณาจักรซาอุอาระเบีย โดยได้ทักทายกับสื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า “สวัสดีนะจ๊ะ ตรุษจีน ปีใหม่ ประเทศไทยก็ปีใหม่ได้ตลอดอยู่แล้ว เพราะเรามีคนหลายเชื้อชาติในประเทศไทย
โดยใจความสำคัญของการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ตอบปมเรื่องการยุบสภา ระบุดังนี้ว่า ตนติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องที่ตนต้องติดตามสถานการณ์ ปรึกษาหารือกับคนที่เกี่ยวข้องทุกคน เพราะฉะนั้นถ้าจะบอกว่านายกฯตัดสินใจเพียงผู้เดียว มันต้องตัดสินใจบนพื้นฐานเอาข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้ ยังไม่มีอะไร สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้รัฐบาลต้องการทำงานให้ได้ บ้านเมืองมีปัญหา ประชาชนเดือดร้อนก็ต้องทำงานให้ได้ไปก่อนการเมืองก็ต้องไปว่าทางการเมืองต่อไป สิ่งที่ต้องเผชิญในวันนี้คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ก็เตรียมความพร้อมในการชี้แจงก็แล้วกัน หลายๆอย่างได้ชี้แจงไปแล้ว ซึ่งตนให้เกียรติในการที่จะมีการอภิปราย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงการเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจและการรับมือจากฝ่ายค้าน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ไม่เห็นมีอะไรในญัตติ เป็นการถามรายวันอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าตอนนี้คิดว่าเสียงในรัฐบาลมีเพียงพอหรือไม่ ต้องดึงพรรคใหม่มาร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคที่แยกออกไป 21 เสียง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาก็อยู่ร่วมรัฐบาลอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เพราะเขายังยืนยันว่าร่วมรัฐบาลอยู่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐบอกมาอย่างนั้น และยืนยันว่ายังไม่มีความคิดที่จะปรับครม. สถานการณ์ยังไม่มีความจำเป็นขนาดนั้น
ส่วนความจำเป็นต้องที่ไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น หลังมีกระแสกองเชียร์เรียกร้องมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ยังไม่ได้คิดอะไรตรงนั้น อย่างที่บอกแล้วไง อะไรจะเกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ที่จะเลวร้ายจนกระทั่งมันแย่ไปทั้งหมด อย่างที่บอกไปแล้ว ก็คือการเลือกตั้งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นเพียงการเลือกตั้งซ่อม และตนก็ยังเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจอยู่ ไม่เป็นไรหรอก ไว้คอยดูเมื่อมีการเลือกตั้งใหญ่ก็ค่อยว่ากันอีกทีแล้วกันเมื่อถึงตอนนั้น
และท้ายสุด ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า กรณีที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่า”ศัตรูของศัตรูคือมิตร”จะทำให้เศรษฐกิจไทยกลายเป็นหนามที่คอยทิ่มตำรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครจะพูดกล่าวอะไรก็แล้วแต่ ตนไม่ใช่คนเจ้าคารี้สีคารมอะไรแบบใครทั้งสิ้น ใครพูดอะไรก็ฟังไปก็แล้วกัน
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำตอนท้ายอีกด้วยว่า ตอนนี้นายกฯมีไม้เด็ดอะไรในมือบ้างหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีกระดาษนี่ไง พร้อมชูกระดาษขึ้นมา ก่อนกล่าวว่า ไม่มีอะไรหรอก มีแต่ความมั่นใจ มีความตั้งใจจริงและทำเพื่อประชาชนประเทศชาติมีแค่นั้น และไม่มีความกังวลอะไร