เดือดระอุ!!รัสเซียว๊ากเมกา ส่งทหารเข้ายุโรปต.อ.ตุ้นสงครามไม่สนเจรจา ขณะยูเครนสั่งระดมเพิ่มทหาร

758

พอจับได้ไล่ทัน สหรัฐก็เปิดเผยความต้องการที่แท้จริงออกมาว่าต้องการก่อสงครามลากยุโรปเป็นสนามรบ โดยล่าสุดปธน.โจ ไบเดน ออกคำสั่งให้ส่งทหาร 3,000 นายไปยังโปแลนด์และโรมาเนียเพื่อปิดล้อมรัสเซียจากด้านยุโรปตะวันออก อ้างเผื่อกรณีความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับโลกตะวันตกกรณีวิกฤติยูเครนบานปลาย รัฐมนตรีรัสเซียจวกสหรัฐเดินเกมทำลายล้างเพิ่มความตึงเครียดทางทหารลดโอกาสทางการเมือง

วันที่ 3 ก.พ.2565 สำนักข่าวเอพีและรัสเซียทูเดย์ รายงานว่าปธน.โจ ไบเดน ของสหรัฐ ประกาศวางกำลังทหารอเมริกันเพิ่มเติมในยุโรปตะวันออก ไบเดนกล่าวว่า“ตราบใดที่รัสเซียยังคงทำตัวก้าวร้าว เราก็จะทำให้แน่ใจว่า เราสามารถสร้างความมั่นใจต่อพันธมิตรร่วมนาโตของเราในยุโรปตะวันออกว่าเราอยู่ที่นั่น”

ด้านอเล็กซานเดอร์ กรุชโก(Alexander Grushko) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ออกมาตอบโต้ในทันทีว่า การดำเนินการของสหรัฐจะทำให้การประนีประนอมระหว่างสองฝ่ายทำได้ยากขึ้น “การวางกำลังของสหรัฐเป็นก้าวย่างที่ทำลายล้าง ที่เพิ่มความตึงเครียดทางทหารและลดขอบเขตสำหรับการตัดสินใจทางการเมือง”

การเคลื่อนไหวของสหรัฐเป็นการตอกย้ำคำพูดของปธน.ปูตินที่ว่า สหรัฐใช้ยูเครนเป็นเครื่องมือ ล่อรัสเซียเพื่อจุดชนวนสงครามใหญ่ในยุโรปอย่างเด่นชัด

ดมิทรี เพซคอฟ(Dmitry Peskov) โฆษกเครมลินกล่าวย้ำว่าการประกาศส่งกำลังทหารไปยังยุโรปตะวันออกยืนยันว่า รัสเซียอยู่ภายใต้การคุกคามของกลุ่มทหารที่นำโดยสหรัฐฯอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ “พฤติกรรมของสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มความตึงเครียดในยุโรปอย่างต่อเนื่อง เป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุดว่าเราในฐานะรัสเซียมีเหตุผลที่ชัดเจนที่จะต้องกังวล”

เมื่อเดือนที่แล้ว สหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายตอบอย่างเป็นทางการต่อข้อเรียกร้องของรัสเซีย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินโดยเครมลิน แม้ว่าวอชิงตันจะเปิดกว้างต่อข้อตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธ และส่งเสริมความโปร่งใสของขบวนการสร้างกองทหาร แต่ได้ปฏิเสธข้อเสนอให้ยุติการขยายเพิ่มสมาชิกนาโต

การตัดสินใจของสหรัฐเกิดในช่วงยามที่หลายชาติตะวันตกดำเนินความพยายามทางการทูตอย่างเคร่งเครียด ควบคู่กับการขู่คว่ำบาตรบุคคลวงในของปูติน เพื่อยับยั้งแผนการรุกรานยูเครนตามที่โลกตะวันตกกำลังหวั่นเกรงกัน แม้ว่ารัสเซียจะปฏิเสธเสียงแข็งก็ตาม

เมื่อวันพุธ นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี ประกาศว่า เขาจะเดินทางไปกรุงมอสโกเพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตินี้ ขณะที่ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เผยว่าเขาอาจเดินทางไปมอสโกเช่นกัน ขึ้นอยู่กับผลการเปิดเจรจานอร์มังดีกับผู้นำประเทศอื่นๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า

ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยแผนการกระจายกำลังทหารของสหรัฐว่า กองทัพสหรัฐจะส่งกองทหารหน่วยสไตรเกอร์ประมาณ 1,000 นายที่ประจำฐานทัพในเมืองวิลเซ็กของเยอรมนีไปวางกำลังที่โรมาเนีย ส่วนทหารอีกราว 1,700 นาย ส่วนใหญ่จากกองพลส่งทางอากาศที่ 82 จากฟอร์ตแบร็กก์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา จะถูกส่งไปวางกำลังที่โปแลนด์ อีก 300 นายจากฟอร์ตแบร็กก์จะถูกส่งไปเสริมที่เยอรมนี

จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการเสริมกำลังทหารในยุโรปตะวันออกครั้งนี้เพื่อส่ง “สัญญาณที่หนักแน่น” ถึงปูติน และบอกต่อโลกตรงๆ ว่า นาโตมีความสำคัญต่อสหรัฐ และมีความสำคัญต่อพันธมิตรของเรา เรารู้ว่าปูตินหงุดหงิดกับนาโต เกี่ยวกับเรื่องนาโต เขาไม่เคยปิดบัง เราจึงทำให้ชัดเจนว่า เรากำลังเตรียมพร้อมที่จะปกป้องพันธมิตรของนาโต หากถึงเวลา 

เขาย้ำด้วยว่า การเคลื่อนไหวด้านกำลังพลของสหรัฐเพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นต่อนาโต และสหรัฐจะไม่ส่งทหารไปสู้รบในยูเครน ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกของนาโตรัฐมนตรีกลาโหม มาริอุสซ์ บลาซแช็ก ของโปแลนด์ กล่าวว่า การวางกำลังทหารเพิ่มเติมของสหรัฐเป็นสัญญาณหนักแน่นของความสามัคคี 

ส่วนเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ยินดีกับการตัดสินใจของสหรัฐ โดยกล่าวว่าการตอบสนองของนาโตต่อรัสเซียเป็นไปในเชิงป้องกันและสมน้ำสมเนื้อ

ด้านยูเครน แม้ว่าปธน.โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้จะมีท่าทีไม่เห็นด้วยที่สหรัฐและตะวันตกโหมข่าวสงครามชายแดนรัสเซีย-ยูเครนจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ทำให้เศรษฐกิจยูเครนสาหัสกว่าที่เป็นอยู่ แต่กระทรวงกลาโหมและสมาชิกรัฐสภาจำนวนไม่น้อยยังคงคัดค้านการเจรจาสันติภาพภายใต้กรอบนอร์มังดีที่ฝรั่งเศสและเยอรมนีร่วมผลักดัน

เมื่อเป็นเช่นนี้รัสเซียจึงไม่ยอมถอนกำลังทหารจากแนวชายแดนยูเครน และมีความเคลื่อนไหวในการตรึงกำลังชายแดนติดยุโรปตะวันออกตอบสนองการยั่วยุของสหรัฐและนาโตอย่างเสมอกัน