สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพรตรุษจีนให้แก่ประชาชนจีนด้วยภาษาจีน พร้อมพระราชทานพรให้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
“ขอให้ทุกท่านมีความสุขในเทศกาลตรุษจีน โชคดีรับปีเสือ ข้าพเจ้าหวังว่าการแข่งขันกีฬาปักกิ่ง โอลิมปิก ฤดูหนาว จะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และหวังว่าทุกคนจะมาพบกันที่งานหิมะและน้ำแข็งในปักกิ่ง”
สืบเนื่องจากสำนักข่าวซินหัว ของจีน รายงานว่านายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่าจีนยินดีต้อนรับกรมสมเด็จพระเทพฯ จากประเทศไทย ผู้ซึ่งเป็นมิตรดั้งเดิมและมิตรสนิทของประชาชนชาวจีน ตลอดจนผู้ที่ได้รับ “เหรียญมิตรภาพ” จากจีน ในการเสด็จฯ เยือนประเทศจีนเพื่อร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาปักกิ่ง โอลิมปิก ฤดูหนาว 2565 ในครั้งนี้
นายจ้าวระบุว่า กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเคยเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาปักกิ่ง โอลิมปิก ฤดูร้อน ในปี 2551 และคราวนี้พระองค์จะเสด็จฯ เยือนปักกิ่งอีกครั้ง เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานแก่การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันของปักกิ่ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองจัดงานโอลิมปิกทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาวแห่งแรกของโลก โดยการเสด็จฯ เยือนปักกิ่งของพระองค์จะช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกระดับสากล และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แก่มิตรภาพอันดีงามระหว่างจีน-ไทย
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2565 สำนักพระราชวังประกาศแจ้งว่า ด้วย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 3 – 5 ก.พ. 2565 ในการนี้พระองค์ จะพระราชทานพระราชวโรกาสให้นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทและถวายพระกระยาหารเช้า ในวันที่ 4 ก.พ. 2565 ณ เรือนรับรองรัฐบาลเตี้ยวหยูไถ
มิตรภาพระหว่างไทยและจีนสัมพันธ์แน่นแฟ้นมายาวนานทุกระดับ และข่าวดีที่น่าปลื้มใจอีกเรื่องหนึ่งคือ ในงานโอลิมปิกฤดูหนาว2022 ที่ปักกิ่งซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 4 ก.พ.ที่จะถึงนี้ ธงชาติไทย หรือธงไตรรงค์ของเรา จะได้โบกสะบัดพริ้วในการแข่งขันระหว่างวันที่ 4-20 ก.พ.อย่างแน่นอน
เนื่องจากองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ “วาดา” ที่เสนอให้แบนการชักธงชาติไทยในกีฬาต่างๆนั้น ได้ยกเว้นไว้ให้สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกทั้งฤดูหนาวและฤดูร้อนดังนั้นจึงยกเว้นให้ในงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิดฤดูหนาวที่จีนครั้งนี้ด้วย ล่าสุดการกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท. ) เผยแพร่ข้อมูลว่า วาดา ได้ถอดประเทศไทยออกจากบัญชีดำ ยกเลิกบทลงโทษแล้ว ขณะนี้ “ธงชาติไทย” ได้ถูกนำขึ้นสู่ยอดเสาที่หมู่บ้านนักกีฬา อันเป็นสัญลักษณ์ของการรับรองประเทศไทย ต่อการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน
กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้ มีนักกีฬาไทยร่วมแข่งขัน 4 คน ประกอบด้วย มรรค จันเหลือง นักกีฬาสกี ประเภทครอสคันทรี(ชาย) , คาเรน จันเหลือง นักกีฬาสกี ประเภทครอสคันทรี(หญิง) , นิโคลา ซานอน นักกีฬาสกี ประเภทอัลไพน์(ชาย) และ มิดา ฟ้า ใจมั่น นักกีฬาสกี ประเภทอัลไพน์(หญิง)
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันเปิดโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้ตรงกับวัน “ชิวสี่” หรือวันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน ถือเป็นวันมงคลอีกวันหนึ่งของธรรมเนียมจีน โดยจะเป็นวันเริ่มต้นทำงานหลังหยุดตรุษจีน และเป็นวันรับ “เจ่าซิ้ง” คือเทพเจ้าเตาไฟและเทพเจ้าองค์อื่นๆที่กลับจากการเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ คนจีนเรียกวันนี้อีกอย่างว่า “วันซิ้งเลาะที”
ถ้ารัฐบาลจีนคิดแบบนี้จริงก็แสดงว่า แนวคิดเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติแต่ดั้งเดิมยังได้รับการยอมรับและไม่ได้ถูกลบเลือนจากสังคมจีนอย่างสิ้นเชิง แม้วันนี้จะปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม โดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนก็ตาม
การจัดงานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวของจีนในปีนี้มีความหมายอย่างมาก เพราะต้องจัดขึ้นภายใต้แรงกดดันบีบบังคับของมหาอำนาจสหรัฐและพันธมิตร ชูคว่ำบาตรทางการทูตก่อนงานจะเริ่ม แต่นานาชาติไม่เล่นด้วย กลับมาร่วมงานกันอย่างคึกคักในพิธีเปิด มีผู้นำประเทศและองค์กรต่างๆเข้าร่วมกว่า 32 ประเทศ
คงต้องจับตาวันที่น่าตื่นเต้น ที่ผู้นำตะวันออกที่ยิ่งใหญ่หลายคน จะมาพบกันอย่างเห็นหน้าในงานวันเปิดพิธีอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้!! แล้วสหรัฐจะแสดงทีท่าว่าอย่างไร??