พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ชี้ชัด ม็อบปลดแอก กำลังหาทางลงอย่างสวยงาม โดยใช้สถาบันเป็นเครื่องมือ ขณะเดียวกันแนวร่วมกำลังหมดศรัทธา
จากกรณีที่กลุ่มที่อ้างตัวว่า เป็นกลุ่มคณะราษฎร ได้ออกมากประกาศว่า จะมีการชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคมที่จะถึงนี้ และเมื่อวานได้มีการแถลงซึ่งวันชุมนุมว่า พวกเขาต้องการที่จะให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้น และต้องการที่จะปฏิรูปสถาบัน โดยหลายคนมองว่า การชุมนุมในครั้งนี้ น่าจะมีการพูดขึ้นปราศรัยโจมตีสถาบันอย่างแน่นอน
และในวันที่ 14 ตุลาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินทรงตั้งเปรียญธรรม 9 ประโยคและเปรียญธรรม 6 ประโยค แก่พระภิกษุสามเณรที่สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยคและเปรียญธรรม 6 ประโยค ประจำปี 2563 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 เวลา 17.00 น ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ซึ่งตรงกับวันที่กลุ่มคณะราษฎรได้จัดชุมนุมพอดี
ล่าสุดทางด้าน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตกรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีการชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ โดยระบุข้อความว่า
ม็อบปลดแอก กำลังหาทางลง
เนื่องจากใกล้วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 13 ตุลาคมนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกฝ่าย ต้องการความร่วมมือจากประชาชนชาวไทยทุกท่าน ตามเหตุผล ดังนี้
ม็อบที่อ้างว่ามี 30 องค์กร หรือม็อบปลดแอก นั้น ปัจจุบัน กำลังดิ้นรนเอาตัวรอดจากวิกฤติศรัทธาของประชาชน
ที่มีต่อม็อบกลุ่มนี้ จึงเตรียมหาเหตุในการลงแบบสวยงามอยู่ โดยน่าจะอ้างหรือกระทำใน 3 ลักษณะ ดังนี้
(1) หาทางก่อเหตุรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ หรือ ประชาชนฝ่ายตรงข้ามโดย หาเหตุผลอ้างว่า “ถูกรังแกก่อน” จึงจำเป็นต้องยุติการเคลื่อนไหว
(2) การกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ใช้กฏหมายเพื่อหาทางยุติการชุมนุมของพวกตน
(3) การกล่าวหาว่าหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินทำขึ้นมาที่หลังการชุมนุมของพวกตน ทั้งที่หมายกำหนดการมีมาล่วงหน้าเกือบ 2 เดือน ซึ่งเมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมานั้น กลุ่มม็อบปลดแอกยังไม่รู้เลยว่าจะใช้สถานที่ไหนเคลื่อนไหว
การเตรียมเคลื่อนไหวเพื่อหาเหตุยุติการชุมนุมอย่างสวยงาม

ทั้ง 3 ลักษณะนั้น จะทำได้ยากมาก ถ้าทำต่อเจ้าหน้าที่ นอกจากพอเริ่มก็ใช้ความรุนแรงจริงๆขึ้นมาเองก่อน เช่น การใช้สีหรือวัตถุเน่าเสีย สาดเจ้าหน้าที่ที่รักษาการ หรือบุกฝ่าแนวกั้นจุดสำคัญๆ ซึ่งกรณีนี้ม็อบปลดแอกไม่น่าจะกล้าทำ
เพราะคราวนี้เจ้าหน้าที่ต้องจัดการอย่างเด็ดขาดแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่ม็อบปลดแอกน่าจะทำมากที่สุด คือ การอ้างถึงการเคลื่อนไหวของ “กลุ่มประชาชนที่ออกมาต่อต้าน” การออกมาต่อต้านม็อบ หรือแกนนำม็อบ ของประชาชนบางกลุ่ม
ในห้วงเวลาใกล้ๆนี้ น่าจะส่งผลในทางลบต่อฝ่ายรัฐบาล และส่งผลดีต่อม็อบปลดแอก เช่น
(1) ทำให้ม็อบปลดแอกมีความชอบธรรมมากขึ้น
(2) เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานลำบาก เพราะม็อบปลดแอกจะอ้างว่าทำไมฝ่ายต่อต้านถึงทำแบบนั้นได้ แต่ฝ่ายตัวทำไม่ได้
(3) ถ้าเกิดการปะทะกันขึ้น ในบางสถานที่ จะทำให้มีผู้เห็นใจม็อบปลดแอกได้

(4) การดำเนินงานทางกฏหมายต่อความผิดของแกนนำกลุ่มม็อบปลดแอก ซึ่งจะมีขึ้นหลายคดีต่อจากนี้ไป จะได้รับผลกระทบอาจทำให้ต้องเลื่อนเวลาต่อไปอีก ดังนั้น ผมจึงไม่เห็นด้วยกับการออกมาต่อต้านกลุ่มม็อบปลดแอกของประชาชน บางกลุ่มในระยะนี้ แต่เห็นด้วยกับการออกมาร่วมชุมนุมถวายความอาลัยอย่างสงบ ทั้งที่ท้องสนามหลวง และโรงพยาบาลศิริราช และเห็นด้วยถ้าจะออกมาต่อต้าน กลุ่มม็อบปลดแอก ในห้วงเวลาที่เหมาะสม ต่อไปครับ
ในกรณีที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่ออกมาต่อต้านกลุ่มม็อบปลดแอก ในห้วงเวลา 2-3 วันนี้ ผมจึงขอยืนยันว่า ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผม แต่อย่างใด
พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ / 10ตุลา63
🔻ม็อบปลดแอก กำลังหาทางลง🔻เนื่องจากใกล้วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช…
Posted by พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ on Saturday, October 10, 2020