หลังจากจบการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่หลักสี่-จตุจักร ถือว่าคะแนนของพลังประชารัฐนั้น น้อยที่สุดในบรรดาการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา รวมถึงเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2565 ที่ชุมพรและสงขลาด้วย จึงทำให้กระแสกดกันอย่างหนักเกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง และต่อมามีการเปิดเผยจากแหล่งข่าววงในว่า ขณะนี้พลเอกประวิตร หัวหน้าพรรค มีความกดดัน และอาจจะนำไปสู่การปรับโครงสร้างของพรรคพลังประชารัฐ และยังมีกองเชียร์ของบิ๊กตู่ที่หนุนให้เปลี่ยนหัวหน้าพรรค เป็นพลเอกประยุทธ์ขึ้นแทน
ล่าสุดนายวิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า ถ้าผมเป็น พปชร. โดยเฉพาะลุงป้อม ผมจะยินดีอย่างมากที่มีเสียงวิจารณ์กันขรม ทั้งซ้ำเติม ทั้งให้กำลังใจ ทั้งแจกแจงเหตุปัจจัยต่าง ๆที่ทำให้ พปชร.แพ้ เพราะทุกความเห็นและทุกคำด่านั้นคือข้อมูลที่ พปชร.ควรนำไปพิจารณา เพื่อปรับปรุงแก้ไขพรรคของตนต่อไป นักการเมืองนั้นไม่ว่าจะได้อำนาจมาด้วยวิธีไหน สุดท้ายจะอยู่หรือไปก็ขึ้นอยู่กับประชาชน (ไม่เกี่ยวกับถูกหรือผิด ดีหรือชั่ว) เพราะฉะนั้นอย่าดูแคลนเสียงของประชาชน หรือคิดว่าประชาชน “ไม่รักประเทศชาติ” ที่ไม่เลือกพวกตน เพราะนักการเมืองไม่ใช่ประเทศชาติ ตรงกันข้ามนักการเมืองคือคนที่แสวงหาอำนาจและผลประโยชน์จากประเทศชาติเสมอมา เช่นเดียวกับการใช้คำว่า “ทำเพื่อประชาชน-สู้เพื่อประชาชน”
อย่าหลอกตัวเองว่า คนที่ไม่ได้ออกมาเลือกตั้งนั้นคือเสียงส่วนใหญ่ของตน เพียงแต่รอเวลา-อารมณ์ที่เหมาะสมก็จะออกมาเลือกตนในที่สุด เพราะความจริงก็คือใจคนเปลี่ยนได้ทุกเวลา เรือหลุดลอยออกไปจากท่าแล้ว จะกู่อย่างไรมันก็ไม่ลอยกลับเข้าเทียบท่าอย่างเดิมหรอกลุง นักการเมืองนั้นฉลาดกันทั้งนั้น แต่ฉลาดที่จะเล่นเกมชิงอำนาจกันจนลืมไปว่า คนตัดสินคือประชาชน ไม่ใช่เกมของนักการเมือง