ชาวอุดรฯสุดปลื้ม ขอบคุณ “บิ๊กตู่” ทำเพื่อประเทศและประชาชน ฟื้นสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ให้ชาวอีสานมีโอกาสไปทำงานตปท.อีกครั้ง!

1521

ชาวอุดรฯสุดปลื้ม ขอบคุณ “บิ๊กตู่” ทำเพื่อประเทศและประชาชน ฟื้นสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ให้ชาวอีสานมีโอกาสไปทำงานตปท.อีกครั้ง!

จากกรณีการเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตามคำเชิญของเจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในรอบ 30 ปี

ขณะที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานได้พบหารือทวิภาคีกับอาห์หมัด สุไลมาน อัลราจฮีรมว.ทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาทางสังคม ซาอุฯ ระหว่างการหารือ ฝ่ายซาอุฯแจ้งว่ามกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯทรงมีบัญชาให้ดำเนินการจัดการหาแรงงานดีมีฝีมือให้ได้ 8 ล้านคน ไทยสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ และประสงค์ผลักดันความร่วมมือด้านแรงงานระหวันกันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยเฉพาะแรงงานภาคบริการ โรงแรม สุขภาพ และอุตสาหกรรมก่อสร้าง นายสุชาติกล่าวว่า การเยือนครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยที่ประสงค์กลับมาทำงานในซาอุฯอีกครั้งซึ่งไทยมีแรงงานที่มีฝีมือสอดคล้องกับความต้องการของซาอุฯ

ล่าสุดวันนี้ (30 มกราคม 2565) ที่ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองแวงแก้มหอม ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทย และนางนิตยา นาโล อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน พบปะกับพี่น้องชาวอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียงที่เคยเดินทางไปทำงานต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศซาอุดิอาระเบีย

โดยมี นายทศวรรษ บุตรวงค์ ผู้ใหญ่บ้านหนองแวง ต.ไชวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี นางเดชไพวรรณ ชนูนันท์ ผู้บ้านกลางน้อง ต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และ นายโกมล พินิจมนตรี นายกเทศมนตรีตำบลหนองแวงแก้มหอม พร้อมคณะร่วมกิจกรรม

โดยกิจกรรมดังกล่าว สือเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและซาอุดีอาระเบีย ในรอบกว่า 30 ปี ซึ่งคาดว่าจะมีการส่งเสริมความร่วมมือในมิติต่างๆ ทั้งในมิติการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และ สังคม รวมไปถึงเรื่องการเปิดโอกาสให้แรงงานไทยกลับเข้าไปทำงานได้ในอดีตที่นำเงินกลับเข้าสู่ครอบครัวและประเทศไทยมหาศาล

นายอานนท์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนพร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่พบปะพี่น้องที่เคยไปทำงานต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศซาอุดีอาระเบีย ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ อำเภอหนองหาน อำเภอไชยวาน และ อำเภอเพ็ญ ทุกคนอยากฝากความรักและความคิดถึง พร้อมกับคำขอบคุณ ไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือ นายกลุงตู่ ที่จะให้แรงงานชาวจังหวัดอุดรธานีและชาวอีสานไปขุดทอง ไปทำงานยังประเทศซาอุดิอาระเบียอีกครั้ง เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา ที่พ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาเคยไปทำงานสร้างฐานะร่ำรวยมาจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่ร่ำรวย ค้าน้ำมัน ค่าเงินสูง เปรียบแล้วก็คือไปขุดทองเหมือนสมัยก่อน ประชาชนหลายคนจึงอยากไปทำงาน ถือได้ว่าเป็นข่าวดียิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่ 1 อีกที่ท่านนายกลุงตู่ ที่จะมอบโอกาสให้กับชาวอีสานและชาวไทยทั้งประเทศ ตนขอเป็นตัวแทนชาวอุดรธานีและชาวอีสานอยากขอบคุณอีกครั้งหนึ่งที่ท่านนายกลุงตู่ ทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติจริงๆ

นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ที่พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานีออกมา ขอบคุณนายกลุงตู่ ในครั้งนี้ ก็เพราะจังหวัดอุดรธานี ถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่ไปทำงานต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศซาอุดีอาระเบียมากที่สุดในประเทศไทย และทราบว่าคนในบ้านของตน บ้านพรสวรรค์ ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลายคนก็เคยไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบียติดต่อกันหลายปีตั้งแต่ปี 2525- 2530 นำเงินกลับมาสร้างฐานะให้ครอบครัวและลูกหลานมาถึงทุกวันนี้ จึงทำให้ทุกคนมีความหวังว่าจะได้ไปทำงานอีกครั้งหนึ่ง

จากการรายงานของ “สำนักงานจัดหางานจังหวัดอุดรธานี” พบว่ามีสถิติแรงงานที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ตั้งแต่ปี 2520 -2540 จะเห็นได้ว่าช่วงปี 2525 -2532 เป็นช่วงแรงงานไทยเดินทางไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย มากที่สุด เฉลี่ยปีละ 16,000 คน ซึ่งอาจคิดเป็นรายได้เฉลี่ย 20,000 คน/เดือน สามารถสร้างรายได้ต่อปีถึง 14,700 กว่าล้านบาท ซึ่งเป็นข้อมูลที่รวบรวมมาได้ในอดีต ซึ่งจะเป็นแรงงานก่อสร้างพื้นฐาน ช่างก่อสร้าง ถนน ตึก บ้าน โดยพื้นฐานคนจังหวัดอุดรธานี นิยมไปทำงานต่างประเทศอยู่แล้ว

“ขณะนี้ทางจัดหางานจังหวัดอุดรธานีรอฝ่ายนโยบายที่ไปเจรจากับทางประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อกำหนดเป็นนโยบายลงมาว่า จะใช้ตำแหน่งงานไหน จะดำเนินการสั่งการลงมาจังหวัดให้เป็นผู้ประกาศรับสมัคร ซึ่งความชัดเจนนี้ต้องรอฝ่ายนโยบายอีกครั้ง ยอมรับว่าเป็นข่าวดีสำหรับแรงงานชาวจังหวัดอุดรธานี ชาวอีสาน และ แรงงานไทยทั้งประเทศ ที่จะเดินทางไปทำงานประเทศซาอุดีอาระเบียต่อไป”