นับว่าเป็นข่าวดีและกลายเป็นความชื่นมื่นที่นำมาสู่ประเทศไทย ทันทีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เยือนซาอุฯอย่างเป็นทางการ ฟื้นสัมพันธ์ 2 ประเทศในรอบ 30 ปี และทำให้นำมาสู้การตั้งเป้าจ้างแรงงานกว่า 8 ล้านคนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ล่าสุดบนอินสตราแกรมอย่างเป็นทางการของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบียได้ทรงโพสต์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของราชอาณาจักรไทยที่เข้าเฝ้าฯ โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่ชื่นชมในการเยือนซาอุฯของนายกฯไทย และยังได้มีคอมเม้นต์จากประชาชนชาวไทยแสดงความเห็นขอบคุณเจ้าชาย ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ รวมทั้งยังมีการเขียนตัวย่อ 2 ประเทศ ใส่อีโมจิหัวใจเป็นจำนวนมาก
โดยในอินตราแกรมของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูดนั้นมีติดตามถึง 949,000 คน รวมทั้งมีผู้นำระดับโลกหลายประเทศได้ติดตามด้วย ดังนั้นการที่พระองค์ได้ทรงโพสต์ภาพนายกฯเยือนซาอุฯนั้น นับว่าเป็นการประกาศให้ทั่วโลกและอีกหลายประเทศ รับรู้ถึงการเมืองเยือนการเป็นทางการของประเทศไทย
สำหรับ เจ้าชาย มุฮัมมัด บิน ซัลมาน แห่งราชวงศ์อัล ซาอูด หรือที่โลกตะวันตกเรียกกันภายใต้ชื่อย่อว่า MBS พระองค์ขึ้นเป็นมกุฏราชกุมารว่าที่กษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบีย ในช่วงปี 2015 อันเป็นช่วงเวลาแห่งการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน หลังจากสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอห์ บิน อับดัลอะซิซ อัล ซาอูด เสด็จสวรรคต ส่งผลให้พระบิดาของพระองค์คือ เจ้าชายซัลมาน บิน อับดุล อาซิซ อัล ซาอูด พระยศในขณะนั้น ซึ่งเป็นมกุฎราชกุมาร ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ซาอุดีอาระเบียพระองค์ใหม่ต่อจากพระเชษฐา
เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุล อาซิซ อัล ซาอูด ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ใหม่ เจ้าชาย มุฮัมมัด บิน ซัลมาน ผู้เป็นโอรสองค์ที่เจ็ดของกษัตริย์ซัลมาน และบุตรชายคนโตในจำนวนหกคนอันที่เกิดจากภรรยาคนที่สามของกษัตริย์ซัลมาน พระองค์ได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาทแห่งซาอุฯ
เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ประสูติเมื่อ 31 สิงหาคม 1985 จบการศึกษาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัย King Saud สถาบันอุดมศึกษาเก่าแก่สุดของประเทศ ก่อนจะเข้าทำงานในหน่วยงานรัฐหลายแห่ง กระทั่งได้รับความไว้วางใจให้เป็นหนึ่งในที่ปรึกษาพิเศษของกษัตริย์อับดุลลาห์เมื่อปี 2009
ทันทีที่เจ้าชาย MBS ขึ้นครองอำนาจในฐานะรัชทายาท นั่นทำให้เจ้าชายเริ่มมีพระราชอำนาจเบ็ดเสร็จในหลายส่วน พระองค์ทรงได้รับเสียงชื่นชมจากหลายชาติตะวันตกจากการเดินหน้าปฏิรูปสังคมซาอุดีอาระเบียในหลายด้าน โดยเฉพาะเปิดเสรีแก่สตรีมากขึ้น ท่ามกลางสังคมซาอุฯ ซึ่งเป็นแบบอนุรักษ์นิยมมาโดยตลอด
พระองค์ยังเป็นผู้เปิดแผนยุทธศาสตร์ Saudi Vision 2030 อันเป็นแผนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้ลดการพึ่งพาการส่งออกน้ำมัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางเศรษฐกิจของประเทศและพัฒนาภาคบริการสาธารณะ เปิดกว้างด้านการท่องเที่ยว รวมถึงการเสริมสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการลงทุน การเพิ่มการค้าระหว่างประเทศที่นอกเหนือจากอุตสาหกรรมน้ำมัน