จากที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ 20 ส.ส. ถูกมติกรรมการบริหารฯให้ขับออกจากพรรค ขณะที่มีเสียงวิจารณ์ว่าทำให้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ หากจำนวน 21 เสียงหายไปอยู่ฝ่ายค้านนั้น???
ขณะเดียวกันนั้นก็มีรายงานข่าวปรากฏออกมาว่า ส.ส.จำนวน 21 คน นำโดย ร.อ.ธรรมนัส มีแนวโน้มจะย้ายไปอยู่พรรค “เศรษฐกิจไทย” ซึ่งเป็นพรรคใหม่ โดยพรรคเศรษฐกิจไทย จะมี “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร.ไปเป็นหัวหน้าพรรค
ต่อมาวันที่ 25 มกราคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึง ส.ส. 21 คนออกจากพรรค เนื่องจาก นายสมศักดิ์ พันธุ์เกษม หนึ่งใน ส.ส.ที่ถูกขับออก ร้องขอให้มีการทบทวนมติว่า
“มันจบไปแล้ว มันจบไปแล้ว” เมื่อถามว่า แสดงว่าจะไม่มีการทบทวนตามที่นายสมศักดิ์ ร้องขอใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็ไปอยู่พรรคใหม่”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลว่าเมื่อ 21 ส.ส.ไปอยู่พรรคใหม่แล้วจะกระทบต่อเสียงที่จะเป็นองค์ประชุมในสภา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “พรรคใหม่นี้ก็จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และสนับสนุนรัฐบาลเหมือนกัน ไม่ต้องห่วง”
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าเสียงในสภาของพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้เพียงพอ ไม่มีปัญหาต่อการพิจารณากฎหมายใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เสียงไม่มีเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามว่า นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ระบุอาจมีปัญหาในส่วนของเสียงฝั่งรัฐบาลนั้น พล.อ.ประวิตร ถามกลับว่า ปัญหาอะไร พร้อมยืนยันว่าไม่มี และย้อนถามสื่อว่า “คุณจะฟังประธานวิปหรือฟังผม”
เมื่อถามว่า จะส่งพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ไปเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ของ 21 ส.ส.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคเขา ตนจะไปรู้ได้อย่างไร เรื่องของเขา ส่วนที่บอกว่ามีกระแสข่าวว่า พล.อ.วิชญ์ จะไปเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ก็ต้องไปถามกระแส “อยากรู้ก็ต้องไปถามกระแสดู คุณรู้จากกระแสก็ต้องไปถามกระแสดู”
ดังนั้นเองที่ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าคำพูดของพล.อ.ประวิตร จะเป็นการครอบงำพรรคใหม่หรือไม่??? โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดูเหมือนจะไม่ไปในทิศทางเดียวกันกับคนนายไผ่ ลิกค์ ที่ถือเป็นคนสนิทร.อ.ธรรมนัสคนหนึ่งด้วย
กระนั้นทีมข่าวเดอะทรูธ จึงตรวจสอบก็พบว่าเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร หนึ่งใน 21 ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ไผ่ ลิกค์” ระบุว่า ขอขอบคุณทุกกำลังใจ แรงเชียร์ แรงสนับสนุน จากพี่น้องทุกคนที่เข้ามาทุกทางมากนะครับ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นผมคงไม่ขอพูดอะไรมากยกเว้น เราคงต้องหาที่อยู่ ที่สามารถทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนได้มากที่สุด ที่เรามีอิสระในการทำงานได้เต็มที่ และที่สำคัญพวกเราไม่มีการต่อรองเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีเลยแม่แต่น้อย
“ตอนนี้พวกผมได้มีพรรคที่พวกเราจะเข้ามาอยู่คือ พรรคเศรษฐกิจไทย เพราะแนวทางที่พูดคุยเข้ากันได้ดี แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุด มีปัญหาและคำถามที่พี่น้องถามเข้ามาเยอะ ว่าเราจะยืนอยู่ข้างไหนผมบอกได้เลย ผมจะยืนอยู่ข้างและเรื่องที่ถูกต้องและเป็นผลประโยชน์กับบ้านเมืองเท่านั้น เหมือนที่ผมเคยเดินเข้าไป หาเสียงขอคะแนนกับ พ่อแม่พี่น้องในจังหวัดกำแพงเพชร เขต1 ว่าผมจะเลือกอยู่พรรค ที่ทำประโยชน์ให้กับพี่น้องได้มากที่สุด
ผมก็จะยังขอยึดมั่นในคำพูดเดิมที่หาเสียง ที่พ่อแม่พี่น้องให้ความไว้วางใจผมเข้ามา ขอให้พ่อแม่พี่น้องดูต่อไปนะครับ ว่าผมเหมือนคำที่คุณพ่อและผมนำมาใช้ต่อว่า ใจถึง พึ่งได้ จริงมั้ย”
นอกจากนี้ยังพบว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2565 นายไผ่ ลิกค์ กล่าวถึงความคืบหน้าการร่วมงานกับพรรคเศรษฐกิจไทย ได้เตรียมการประชุมพรรค และวางตัวบุคคลดำรงให้ตำแหน่งต่างๆในพรรคอย่างไร ว่า ยังไม่ทราบ แต่ได้มีการพูดคุยกันและน่าจะมีทิศทางที่ตรงกัน แนวทางไปด้วยกันได้ดี และดูแล้วเป็นพรรคที่เข้าได้กับทุกคน ตามที่ตนโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ส่วนแผนการดำเนินการในอนาคต ขณะนี้ยังไม่ชัด
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเศรษฐกิจไทย จะอยู่ฝั่งรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือเป็นกลาง นายไผ่ กล่าวว่า รอให้ผู้ใหญ่คุยกันก่อน ตนจะพูดก่อนไม่ดี เมื่อชัดเจนแล้วจะประชุมกันโดยต้องดูท่าทีของสมาชิกในกลุ่มด้วยว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าการพูดคุยจะเสร็จสิ้นเมื่อใด