ชาวเน็ต ซัด “วอยซ์ทีวี” บิดเบือน นายกไปซาอุฯ! ย้อน สมัยทักษิณ ฟุ้ง ถูกทามเป็นบอร์ดสร้างเมืองใหม่!
จากกรณีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก รวมถึงฝ่ายโจมตีรัฐบาล ได้นำประเด็นของบลูไดมอนด์ หรือเพชรสีน้ำเงินมาโจมตี
ล่าสุดวันนี้ (26 มกราคม 2565) ในโลกออนไลน์ได้มีการพูดถึงสำนักข่าวว็อยซ์ทีวี ที่มีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้บริหาร ได้นำเสนอเรื่องดังกล่าว พร้อมกับทำแบนเนอร์ระบุว่า ไม่คืนเพชร แต่คืนดี? จากความบาดหมางไทย-ซาอุดิฯ สู่ทวิภาคีชาติอำนาจนิยม
ซึ่งต่อมาก็ได้มีชาวเน็ตได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวว่า VoiceTVนี่ อ่านข่าวตปท.จากที่ไหน… ทำไมสวนทางกับความจริงมากขนาดนั้น
รายงานว่าประชุมหารือข้อราชการกับรองผู้ว่าจังหวัด ทั้งๆมีภาพการประชุมกับคณะใหญ่ที่มีมกุฏราชกุมารที่มีพระสถานะเป็นรัฐมนตรีด้วยปรากฏอยู่ แล้วก็มีกลุ่มคนพร้อมที่จะเชื่อ แล้วนำเอาไปเผยแพร่ต่อใน platforms อื่น ไม่อยากเชื่อว่าพวกเขาทำไมถึงเชื่อเรื่องโกหกได้ง่ายขนาดนี้ อยากรู้เจตนาและแรงจูงใจของสื่อที่เป็นผู้เริ่มต้นเผยแพร่จริงๆ และอยากเข้าใจกลุ่มคนที่พร้อมจะเชื่อข่าวบิดเบือนแบบนี้จริงๆ ไม่มีการเอะใจบางเลยเหรอคะ
อย่างไรก็ตาม ย้อนไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2551 นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยและไม่สมควรอย่างยิ่งที่นายทักษิณ ชินวัตร เชิญชวนนักลงทุนต่างชาติมาดำเนินการเกี่ยวกับข้าวในประเทศไทย โดยให้ไร่ละ 5 พันบาท เพราะเป็นการพานักลงทุนต่างชาติมาใช้ทรัพยากรธรรมชาติและที่ดินของประเทศไทย และบริษัทที่คนไทยจัดตั้งขึ้นมาทำหน้าที่ดำเนินการแทนนักลงทุนต่างชาตินั้นก็ไม่ต่างอะไรไปกับนอมินีข้าวเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ประเทศสูญเสียอำนาจอธิปไตยเปล่าๆ
“เรื่องนี้เป็นเรื่องน่ากลัว เพราะเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางด้านอาหารของประเทศ เพราะเมื่อต่างชาติเห็นความสำคัญในเรื่องทรัพยากรอาหาร แต่เมื่อประเทศเขาไม่มีขีดความสามารถและศักยภาพในการปลูก ผลิต พัฒนาสายพันธุ์ข้าว จึงนำเงินมาลงทุน เพื่อหวังว่าจะได้ข้าวจากประเทศไทย ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องอ่อนไหวมากเพราะเป็นอาชีพที่สงวนไว้ให้กับคนไทยเท่านั้น แต่วันนี้เป็นการดำเนินการแบบนอมินีข้าว ซึ่งนายทักษิณ มีชื่อเสียงในด้านนอมินีอยู่แล้ว”
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า หากต่างชาติต้องการความมั่นคงด้านอาหารให้กับประเทศของตนเอง และนายทักษิณอยากช่วยประเทศชาติจริง ก็เสนอให้ทำสัญญาประกันราคาข้าวกับรัฐบาล เอกชน หรือทำสัญญาโดยตรงกับเกษตรกรชาวนาไปเลย ตั้งราคาสูงๆ รับรองว่าจะได้ข้าวตามที่ประเทศนั้นๆต้องการ และถือเป็นการช่วยชาวนาให้มีอาชีพด้วยเช่นกัน
“ขณะนี้ชาวนา 40% ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินทำนา ต้องเช่าที่นาสำหรับการทำนา แค่นายทุนในประเทศก็มีการแย่งใช้ที่ดินดังกล่าวแล้ว หากมีการลงทุนจากต่างประเทศยิ่งเป็นการกดดันแย่งชิงทรัพยากรที่ดินจากชาวนาตัวเล็กๆ จนๆ เข้าไปใหญ่ เรื่องนี้รับรองว่าชาวนาจะไม่ยอมอย่างมาก แต่ทั้งนี้จะเคลื่อนไหวกันอย่างไร ต้องดูความชัดเจนกันอีกครั้ง”
เมื่อสมัยที่ นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีก็เคยมีประเด็นดังกล่าว ที่รัฐบาลจีนจะติดต่อขอเช่าที่ดินประเทศไทยเพื่อปลูกข้าวหอมมะลิ แต่ก็ต้องยุติไปเมื่อมีการคัดค้าน แต่มาถึงขณะนี้กลับมาในรูปแบบใกล้เคียงกัน ทั้งที่อาชีพชาวนา แม้แต่ในสนธิสัญญากับประเทศที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับไทยมากอย่างสหรัฐอเมริกายังไม่เปิดโอกาสให้ดำเนินการกิจการที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของไทย เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2553 ผู้จัดการออนไลน์ ได้เปผยแพร่บทความ หัวข้อ “ทักษิณจะไปซาอุฯ ขึ้น พ.ศ.ใหม่ ข่าวเก่าๆ เรื่องเดิมๆ” โดยมีเนื้อหาว่า นายทักษิณ ยังได้ปูดข่าวขึ้นมาว่า ได้รับการทาบทามจากเจ้าขายซาอุดิอารเบียองค์หนึ่ง ให้เป็นกรรมการในโครงการเมืองใหม่ของซาอุดิอารเบีย
นายทักษิณ เล่าผ่าน เพื่อนคนเดียในโลกใบนี้ที่ชื่อ ทวิตเตอร์ว่า โครงการนี้ใหญ่มาก เขาคงลงขันด้วยไม่ไหว แต่จะช่วยเป็นมันสมอง และใช้เครือข่ายที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ โดยทางเจ้าชายซาอุฯให้แนะนำผู้รับเหมาก่อสร้างไทยและแรงงานไทยไปทำงานในโครงการใหม่นี้
แกนนำคนเสิ้อแดงและพรรคเพื่อไทย ที่กำลังจนปัญญาไม่รู้จะงัดเอาประเด็นไหน มาเลี้ยงข่าวต่อไป ถ้ามีหัวคิดสักหน่อย จะต้องเอาเรื่องนี้ไปขยายเป็นกระแส “อยากไปซาอุฯ ต้องเอาทักษิณฯ กลับมา “ในภาคอีสานเผื่อจะต้านกระแส “พวกล้มเจ้า –ไม่เอาฐานันดร –ใจเป็นเขมร” ที่ทำให้พรรคเพื่อไทย เหมือนจะชนะแต่แพ้ ในการเลือกตั้งซ่อมที่มหาสารคาม และแพ้แบบไม่มีราคา ที่ปราจีนบุรีได้บ้าง
เพราะเมื่อสัก 30 กว่าปีที่แล้ว ซาอุดิอารเบีย เป็นประเทศแรกๆที่เป็นแหล่งขุดทองของแรงงานไทยในต่างประเทศนำรายได้กลับบ้านปีหนึ่งๆหลายร้อยล้านบาท ก่อนจะเกิดกรณีเพชรซาอุฯ และการฆาตกรรมนักการพูตซาอุฯ ในกรุงเทพ รวมทั้งการหายตัวไปของ นักธุรกิจซาอุฯ นายมูฮัมหมัด อัลรูไวรี ระหว่างปี 2531-2533 ทำให้ซาอุดิอาระบเยลดความสัมพัน์ทางการฑุตกับไทยลง เพราะไม่พอใจที่ไม่มีความคืบห้นาในการทำคดี เป็นการปิดฉาก การค้าแรงงานไทยในซาอุฯ มาจนถึงทุกวันนี้ เว้นเสียแต่ว่า แกนนำเสื้อแดงและพรรคเพือ่ไทย จะไม่เชื่อว่า นี่เป็นเรื่องจริง เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่นายทักษิณ ปั้นให้เป็นข่าวในรอบปีที่ผ่านมา
ตั้งแต่การได้รับเชิญเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ ของเกาะบาฮามาสบ้าง เกาะเบอร์มิวดาบ้าง นิคารากัวบ้าง มอนเตรนิโกรบ้าง การไปลงทุนทำล็อตเตอรี่ในอูกันดา ทำเหมืองเพชรในสวาซิแลนด์ ประมูลเกาะที่มีชื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวในมอนเตร นิโกร ลงทุนโครงการโทรคมนาคมในหมู่เกาะฟิจิ และปาปัวนิวกินี ได้รับเชิญไปเป็นที่ปรึกษาของประเทศที่ไม่ปรากฎชื่อหลายประเทศ สุดท้าย ได้เป็นแค่ที่ปรึกษาของฮุนเซ็น เพื่อให้เป็นข่าวทำร้าย แผ่นดินแม่เท่านั้นแม้ต่อมาจะให้น้องเขยกุข่าวว่า รัฐบาลศรีลังกา จะเชิญไปเป็นที่ปรึกษา แต่ก็ถูกรัฐบาลศรีลังกาแฉทันควันว่าเป็นข่าว โกหก
เรื่องทักษิณ จะไปเป็นที่ปรึกษา ของซาอุฯ ก็เข้าอีหรอบเดิมคือ กุข่าวให้เป็นข่าว กันถูกลืม สำหรับข่าวทักษิณ จะไปซาอุฯนี้ น่าสังเกตว่า จงใจปั้นขึ้นมาในช่วงที่ อัยการกำลังจะพิจารณาว่า จะฟ้องหรือไม่ฟ้อง พลตำรวจโทสมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กับพวก ที่ถูกดีเอสไอ กล่าวหาว่าพัวพันในคดีการหายตัวไปของนายอัลรูไวรี เมื่อ 20 ปีก่อน และจงใจที่จะพูดถึง ความสัมพันธ์ของไทยกับซาอุฯ ที่มีปัญหา
ก็เหมือนกับความตั้งใจบิดเบือนว่า ไทยมีปัญหากับกัมพูชา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายกษิต ภิรมย์ มีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน โครงการสร้างเมืองใหม่ของซาอุดิอาระเบีย เกิดขึนมา 2-3 ปีแล้ว ขณะนี้หลายๆเมืองอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยใช้แรงงานจากจีน และเอเชียใต้ โดยมีเมืองใหม่ที่จะสร้างขึ้นทั้งสิ้น 6 เมือง ใหญ่ที่สุดคือ นครเศรษฐกิจ กษัตริย์ อับดุลลาห์ หรือ King Abdullah Economic city อยู่ริมฝั่งทะเลแดง ห่างจากเมืองเจดาห์ไปทางเหนือ 200 กิโลเมตร สร้างขึ้นในทะเลทราย มีเนื้อที่ทั้งหมด 388 ตารางกิโลเมตร (กรุงเทพมีเนื้อที่ประมาณ 1,500 ตารางกิโลเมตร) มีคนอาศัยอยู่ 2 ล้านคน มีขนาดเท่ากับกรุงวอชิงตัน ดีซี เมืองอื่นๆ ได้แก่ Knowledge Economic City เป็นเขตเทคโนโลยี และนครด้านไอที เมือง Prince Abdulaziz bin Mousaed Economic City อยู่ห่างไปทางเหนือของริยาดห์ 720 กิโลเมตร เมือง Jizan Economic City ทางใต้ของเจดดาห์ เป็นเขตอุตสาหกรรมหนัก มีโรงกลั่นน้ำมันโรงอลูมิเนียม ทองแดง โรงเหล็ก อีกสองเมืองอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือและทางตะวันออกของประเทศ
โครงการสร้างเมืองใหม่ ซึ่งกินระยะเวลา 15-20 ปี นี้ เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของซาอุดิอารเบีย เพื่อกระจายฐานเศรษฐกิจ ไม่ให้พึ่งพาแต่รายได้จากน้ำมันเพียงอย่างเดียว และเพื่อรองรับประชากรที่กำลังขยายตัว ให้มีการศึกษา มีทักษะ และมีงานทำ ไม่เห็นว่าซาอุดิอารเบีย จะต้องพึ่งพาสติปัญญาของ นายทักษิณตรงไหน เพราะมีเงินลงทุน มีเงินจ้างบรัทพัฒนาโครงการ ที่ปรึกษาซึ่งเหนือกว่า นายทักษิณ อย่างเทียบกันไม่ติด เป็นผู้นำประเทศไทยมา 6 ปี รถไฟฟ้าสักเส้น ไม่เคยคิดจะสร้าง เพื่อแก้ปัญหาจราจรของกรุงเทพฯ
ความจริงแล้ว นายทักษิณในสายตาของต่างประเทศแล้ว คือ มิสเตอร์ โนบอดี้ไม่มีใครรู้จักมากไปกว่า อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งถูกยึดอำนาจเพราะการทุจริตคอรรัปชั่น และกำลังหนีคดีที่ต้องดทาจำคุก 2 ปี ในข้อหาผลประโยชน์ทับซ้อน นายทักษิณไม่มีเพื่อนที่เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ ไม่เช่นนั้น เขาคงเอามาอวดนานแล้ว มีแต่บริษัทล้อบบี้ ยิสต์ รับจ้างประชาสัมพันธ์ ที่พาเขาไปสัมผัสมือ ถ่ายรูปคู่กับผู้นำในอาฟริกา หรือหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิค ส่งมาให้สื่อไทยช่วยเผยแพร่เท่านั้น
ถ้า นายทักษิณ ได้รับเชิญไปเป็นบอร์ดสร้างเมืองใหม่ของซาอุฯ จริงก็คงจะดีไม่น้อย ทั้งกับตัวเอง ที่จะได้มีอะไรทำ ไม่ต้องหมกมุ่นอยู่กับ ลาภ ยศ สรรเสริญในอดีต และดีกับประเทศชาติ ที่จะไม่ต้องตกเป็นเครื่องรองรับอารมณ์โกรธแค้น อยากทำลายล้างของเขา