สหรัฐผวา!?รัสเซียเอาจริงเคลื่อนพล สั่งเตรียมพร้อมทางบก-ทะเล ขณะอังกฤษส่งขีปนาวุธให้ยูเครนแล้ว

1155

รัสเซียจะส่งทหารบุกเข้ายึดประเทศยูเครนหรือไม่ จะทำเมื่อไหร่ รวมทั้งผลพวงที่จะตามมาคืออะไร ฝ่ายสหรัฐฯและโลกตะวันตกจะมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างไร เหล่านี้คือคำถามที่คนทั้งโลกเฝ้าจับตา สถานการณ์วิกฤตยูเครนซึ่งระอุเดือดสูงขึ้น เมื่อการเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้งใหญ่ ร้สเซีย-สหรัฐและนาโตไม่คืบหน้า เพราะอเมริกายื้อไม่มีคำตอบ แต่รัสเซียไม่รอ เดินหน้ารุกคืบทั้งการทูตและการทหาร

สงครามยูเครนจะเกิดขึ้นหรือไม่ ปูตินบอกว่าขึ้นอยู่กับการกระทำของสหรัฐและนาโต พอใกล้จุดเดือด สหรัฐรีบโวยวายพร้อมเดินสายล็อบบี้พันธมิตรยุโรป ขณะที่อังกฤษและสหรัฐส่งขีปนาวุธให้ยูเครนเพิ่มโดยสื่อตะวันปิดปากไม่รายงาน  สถานการณ์เช่นนี้ รัสเซียคงมีคำตอบในใจแล้วว่า ถ้าเกิดสงครามขึ้นจริงจะเลือกลุยตัวการใหญ่อย่างสหรัฐฯหรือจะดับอหังการ์สมุนบริวารสหรัฐอย่างยูเครน หรือจะทำไปพร้อมกัน ไม่ว่าปูตินจะตัดสินใจอย่างไร ถ้าสหรัฐพร้อมหรือจำเป็นต้องทำ สงครามโลกครั้งใหม่จะเปิดฉากขึ้นทันทีในทุกจุดวาปไฟที่สหรัฐสร้างเงื่อนไขจ่อปะทุมานับปี และพื้นที่หนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่พ้นคือเอเชีย-แปซิฟิก น่านน้ำทะเลจีนใต้

วันที่ 19 ม.ค.2565 สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า มาเรีย ซาคาโรวาโฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงข่าวตอบโต้สหรัฐฯ เน้นมอสโกว์เรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดเผยแพร่การกล่าวหาว่ารัสเซียเตรียมบุกรุกยูเครน โฆษกกล่าวว่า “ฝ่ายรัสเซียเรียกร้องให้หยุด คาดเดาเกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซียว่ากำลังจะเกิดขึ้น ทุกอย่างขึ้นกับการกระทำของสหรัฐและนาโต ที่เป็นเงื่อนไขสำคัญว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปทางใด” 

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สื่อตะวันตก เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งสหรัฐอเมริกาและนาโต ได้เผยแพร่ข้อกล่าวหาว่ารัสเซียกำลังวางแผนบุกยูเครน โดยส่งกำลังพล “มากถึง 100,000 นาย” ไปที่ชายแดน มอสโกปฏิเสธข้อกล่าวหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเสริมว่า การเคลื่อนย้ายกองกำลังของตนภายในเขตแดนเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ตามต้องการ รัสเซียยังชี้ให้เห็นถึงความจริงที่ว่า NATO ได้เพิ่มกำลังทหารใกล้กับชายแดนรัสเซียและให้ความช่วยเหลือทางการเงินรวมถึงอาวุธแก่เคียฟ 

ขณะเดียวกัน ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า วอชิงตันจะไม่ยอมถูกข่มขู่ จากข้อเสนอที่ ‘ก้าวร้าว’ เกี่ยวกับการวางยุทโธปกรณ์ทางทหาร หรือแม้แต่ขีปนาวุธนิวเคลียร์แบบปลายแหลมใกล้กับสหรัฐอเมริกา

โธมัส-กรีนฟิลด์ไม่ได้อธิบายอย่างละเอียดว่าทำไมการวางกำลังทหารรัสเซียที่สมมติขึ้นใกล้กับชายฝั่งสหรัฐฯ จึง “ก้าวร้าว” ในขณะที่สหรัฐฯ และ NATO ยังคงส่งทหารเข้าฝึกและประจำการชายแดนยูเครน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่หน้าประตูบ้านมอสโกว์ 

ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน และเจ้าหน้าที่รัสเซียคนอื่นๆ ได้แสดงความกังวลซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับการสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ ในโปแลนด์และโรมาเนีย ซึ่งสามารถแปลงเป็นขีปนาวุธร่อนโทมาฮ็อค (Tomahawk) แบบปลายแหลมด้วยนิวเคลียร์ได้อย่างง่ายดาย เมื่อเดือนที่แล้ว ปูตินยังเตือนด้วยว่าการติดตั้งขีปนาวุธของสหรัฐในยูเครน จะหมายถึง สามารถยิงอาวุธนิวเคลียร์ไปมอสโกเพียง 4-5 นาทีในกรณีที่เกิดสงคราม แบบนี้จะให้รัสเซียวางเฉยได้อย่างไร

ริบคอฟและกรุชโก(Ryabkov, Grushko) เป็นผู้นำคณะผู้แทนรัสเซียในการเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่เจนีวาและบรัสเซลส์ร่วมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และ NATO โดยการเจรจานานหลายชั่วโมงแต่ไม่มีอะไรคืบหน้า โดยวอชิงตันและพันธมิตรเลื่อนจะให้คำตอบเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการต่อข้อเสนอด้านความมั่นคงของรัสเซียในสัปดาห์นี้สุดท้ายก็ยังเงียบอยู่ แต่แอนโทนี บลิงเคน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเร่งเข้าพบปธน.ยูเครน และไปเดินสายตกลงกับกลุ่มพันธมิตรยุโรป ขณะที่ให้สัมภาษณ์โวยวายรัสเซียพร้อมจะบุกยูเครนได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง 

เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ระบุแล้วว่าพวกเขาจะไม่ยุตินโยบายเปิดให้ยูเครนเป็นสมาชิก และไม่ยอมรับคำขอร้องของรัสเซียที่เรียกร้องให้กลุ่มละเว้นจากการประจำการกองทหารและยุทโธปกรณ์ในรัฐสมาชิกพันธมิตรที่เข้าร่วมหลังจากนั้น 

นอกจากนี้สหรัฐได้แสดงความวิตก เกี่ยวกับการซ้อมรบระหว่างมอสโกกับเบลารุส คาดอาจนำมาซึ่งการประจำการถาวรของกำลังทหาร รวมถึงติดอาวุธนิวเคลียร์ให้ซึ่งเปิดทางสำหรับการโจมตียูเครนและกองกำลังนาโตที่มาสนับสนุนยูเครน

บอริส กรีซลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำมินสค์ เมืองหลวงของเบลารุส ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทาซซ์ (TASS) ว่า”เราเห็นว่าการก่อตัวของกองกำลังและทรัพยากรของ NATO ไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่ประตูของเราแต่รุกคืบเข้าไปทางพื้นที่แวดล้อมและในยูเครนอย่างชัดเจน”

ทูตยังประกาศว่าการฝึกซ้อมรบที่เรียกว่าอะไลรีโซลว์ 2022 (‘Allied Resolve’ 2022) จะเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เขาตั้งข้อสังเกตว่าชาติตะวันตกมักตีความการฝึกซ้อมร่วมกัน ระหว่างมอสโกว์และมินสค์ว่าเป็นภัยคุกคามต่อตนเองเอกอัครราชทูตกล่าวว่า “กองทัพรัสเซียและเบลารุสแสดงให้เห็นการฝึกอย่างชัดเจนและสอดคล้องกัน ดำเนินการฝึกซ้อมจนสมบูรณ์ เราทำมาตลอดจากนั้นจึงกลับไปประจำการถาวร

ท่ามกลางข่าวสารการเจรจาเพื่อลดระดับความตึงเครียด วิกฤตยูเครน ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน-สหรัฐ อังกฤษได้ส่งขีปนาวุธต่อต้านรถถังให้เคียฟแล้ว แบบนี้จะบอกว่ารัสเซียคุกคามอีกหรือ

ในความคืบหน้าครั้งใหม่ที่เป็นลางบอกเหตุ เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสรายหนึ่งของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า มีความกังวลว่าร่างปฏิรูปรัฐธรรมนูญในเบลารุส รัฐเผด็จการพันมิตรใกล้ชิดกับมอสโก อาจเปิดทางให้มีการประจำการอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย

รายงานข่าวของเอเอฟพีระบุ แม้รัสเซียยืนยันไม่มีแผนรุกรานยูเครน แต่ด้วยที่พวกเขาเคยบุกยึดแหลมไครเมียในปี 2014 และสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในดอนบาสทางภาคตะวันออกของยูเครน ดังนั้้น การเสริมกำลังทหารและอาวุธจู่โจมของมอสโกว์ ทำให้มีความเป็นไปได้ของการลงมือโจมตี ในบรรดาข้อเรียกร้องต่างๆ ของรัสเซียที่ต้องการคำรับประกันจากพันธมิตรนาโต้ หนึ่งในนั้นคือ ต้องไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกตลอดไป บางอย่างที่นาโต้ระบุว่าไม่มีทางประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้น

 

สหรัฐชี้หน้ารัสเซียว่า “ประธานาธิบดีปูตินสร้างวิกฤตนี้ขึ้นมา” และขู่ว่ารัสเซียจะโดนคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน หากลงมือโจมตียูเครน รวมถึงการพับเก็บโครงการนอร์ด สตรีม 2 ท่อลำเลียงก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียสู่เยอรมนีด้วย

ดูเหมือนว่าปธน.ปูติน จะไม่สะทกสะท้าน เพราะอ่านเกมสหรัฐออกอย่างทะลุปรุโปร่ง การเคลื่อนไหวทางทหารในหมู่พันธมิตรรัสเซียจึงเริ่มขึ้นอย่างคึกคักเพื่อแสดงให้เห็นว่า หากจะปะทะกันจริงๆฟากฝั่งของสหรัฐและนาโตจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง เพราะเจรจากันหลายรอบไร้ผล เมื่อคุยไม่รู้เรื่องก็พร้อมลุยแล้ว จะว่าไงก็ว่ามา