เหตุการณ์ช็อกโลก เกี่ยวกับการปะทุอย่างรุนแรงของภูเขาไฟใต้น้ำที่ตองกาเมื่อวันที่ 15 มกราคม ทำให้เกิดสึนามิขนาดใหญ่ ส่งผลกระจายคลื่นกระแทกออกไปประมาณครึ่งโลก สร้างความตระหนกแก่นานาชาติอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ต่างวิตกว่าผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่สงบจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
วันที่ 19 ม.ค.2565 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างการเปิดเผยของรัฐบาลตองก้า ระบุว่า เหตุภูเขาไฟฮังกา ตองกา ฮังกา ฮาอาปาย ระเบิดครั้งใหญ่ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงถึง 15 เมตร พัดถล่มชายฝั่งของประเทศ โดยล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และมีบ้านเรือนพังเสียหายจำนวนมาก
รัฐบาลตองกาแถลงต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกหลังเกิดเหตุ โดยระบุว่าเหตุดังกล่าวเป็นหายนะที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่งผลให้หมู่บ้านแห่งหนึ่งถูกคลื่นซัดหายไปทั้งหมด และในพื้นที่อาศัยหลายพื้นที่มีบ้านเหลือรอดเพียงไม่กี่หลังเท่านั้น ขณะที่ผู้รอดชีวิตต้องอาศัยในค่ายพักพิงชั่วคราวเป็นจำนวนมาก ขณะที่ทีมกู้ภัยถูกส่งไปยังพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบหนักเพื่ออพยพประชาชนออกจากพื้นที่
รัฐบาลเปิดเผยด้วยว่า ภูเขาไฟระเบิดส่งผลให้เกิดสึนามิสูงถึง 15 เมตร ซึ่งพัดถล่มชายฝั่งหลายเกาะ โดยเฉพาะหมู่บ้านหนึ่งบนเกาะแมงโก้ ที่ถูกคลื่นถล่มราบเป็นหน้ากลอง ขณะที่อีกหลายชุมชนเหลือบ้านเพียงไม่กี่หลังเท่านั้น โดยบนเกาะแห่งนี้พบหญิงวัย 65 ปี ที่เป็นหนึ่งใน 3 ผู้เสียชีวิตเป็นอย่างน้อยจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังส่งกำลังช่วยเหลือและอพยพผู้ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือนั้นเป็นได้อย่างล่าช้าเนื่องจากสายเคเบิลใต้ทะเลได้รับความเสียหายส่งผลให้การสื่อสารถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาถึง 4 สัปดาห์ก่อนที่จะซ่อมให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
ล่าสุดผลกระทบจากภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิดใน ‘ตองกา’ ทำให้เกาะหายไป เรื่องนี้สำนักข่าวซินหัวได้เปิดเผยภาพเปรียบเทียบ ที่บันทึกโดยห้องปฏิบัติการข่าวสารดาวเทียม เป็นภาพถ่ายจากดาวเทียมต่างช่วงเวลา ซึ่งแสดงการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ของเกาะฮังกา-ฮายาไป (Hunga Ha’apai island) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงนูกูอาโลฟา เมืองหลวงของตองกา ไปทางเหนือราว 65 กิโลเมตร
รายงานระบุว่าภาพถ่ายเหล่านี้บันทึกโดยดาวเทียมเวิลด์วิว02 (Worldview02) ดาวเทียมเซนติเนล-1 (Sentinel-1) ดาวเทียมเรดาร์ชนิดช่องรับคลื่นสังเคราะห์ (SAR) และดาวเทียมเกาเฟิน-1 (Gaofen-1) ซึ่งเผยให้เห็นว่าพื้นที่บางส่วนของเกาะฮังกา-ฮายาไป สูญหายหลังเกิดเหตุภูเขาไฟใต้ทะเลปะทุรุนแรง
High-resolution Himawari satellite imagery of the #HungaTongaHungaHaapai volcanic eruption in Tonga 🌋
Our climate stations recorded a brief spike in air pressure as the atmospheric shock wave pulsed across New Zealand. pic.twitter.com/BfLzdq6i57
— NIWA Weather (@NiwaWeather) January 15, 2022
ทั้งนี้ ภูเขาไฟฮังกา ตองกา-ฮังกา ฮายาปาย (Hunga Tonga-Hunga Ha’apai) ซึ่งอยู่ใต้ทะเลใกล้กับเกาะฮังกา-ฮายาไป เกิดการปะทุรุนแรงตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 14 ม.ค.และปะทุซ้ำอีกครั้งช่วงบ่ายวันที่ 15 ม.ค. ทำให้มวลเถ้าถ่านภูเขาไฟ ก๊าซ และไอน้ำพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า วัดความสูงได้ถึง 20 กิโลเมตร และจนถึงวันนี้ยังไม่มีทีท่าสงบแต่อย่างใด
เกาะ-ตองกาฮังกาและเกาะฮังกา-ฮายาปายตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 100 เมตรจากนูกูอาโลฟา เมืองหลวงของตองกาไปทางเหนือ 65 กม. แต่ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้คลื่นนั้นเป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ สูงประมาณ 1800 เมตรและกว้าง 20 กิโลเมตร
การปะทุครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดสึนามิทั่วตองกา หมู่เกาะฟิจิและซามัวที่อยู่ใกล้เคียง คลื่นกระแทกที่เคลื่อนที่เป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตร สามารถมองเห็นได้จากอวกาศ และกระทบถึงนิวซีแลนด์ห่างออกไป 2,000 กม.
สัญญาณทั้งหมดเหล่านี้บ่งบอกว่าแอ่งภูเขาไฟฮังกา (Hunga) ขนาดใหญ่ได้ตื่นขึ้นแล้ว สึนามิเกิดขึ้นจากคลื่นกระแทกในชั้นบรรยากาศและคลื่นทะเลควบคู่กันระหว่างการระเบิด แต่ก็มักเกิดจากดินถล่มใต้น้ำและแอ่งภูเขาไฟถล่ม
ยังไม่ชัดเจนว่านี่คือจุดสุดยอดของการปะทุหรือไม่ ดังนั้นเราจึงอาจต้องอยู่ในเหตุการณ์ความไม่สงบของภูเขาไฟครั้งใหญ่นี้เป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายปียังไม่อาจคาดเดาได้