จากที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี เปิดเผยถึงการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 1/2565 เพื่อแก้ไขข้อบังคับการประชุม เลือกคณะกรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคนั้น
ทั้งนี้นอกจากในครั้งนี้ที่ประชุมใหญ่ ได้มีมติเลือก พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ และหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตของการบินไทย มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคไทยภักดีแล้ว ยังได้แนะนำให้ที่ประชุมรู้จัก ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตหลักสี่-จตุจักร คือนายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ และผู้ที่จะทำหน้าที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้คือ นายทินกร ปลอดภัย คนสนิทอดีตรัฐมนตรีถาวร เสนเนียม และพล.ต.ท.ชาญเทพ เลขาธิการพรรคไทยภักดี ทั้งยังเป็นกรรมการสรรหาผู้สมัครด้วย
ล่าสุดวันนี้ 18 มกราคม 2565 ได้มีเอกสารเผยแพร่ ระบุ คำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 181/2565 เรื่องให้ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
โดยให้ นายสมศักดิ์ ชาติสุขศิริเดช พ้นจากผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และแต่งตั้งนายทินกร ปลอดภัย ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป้นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 18 มกราคม 2565
พล.ต.อ.อัศวัน ขวัญเมือง
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ พล.ต.อ.อัศวิน ในการจะลงชิงผู้ว่ากทม.กับการเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ เมื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมากล่าวยอมรับ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ไม่สามารถลงสมัครผู้ว่า กทม.ได้ ส่วนพรรคจะส่งใครแทน นั้น ให้กรรมการบริหารเป็นผู้เฟ้นหา ตอนนี้ยังไม่ได้เคาะว่าจะเอาใครลงสมัคร
ต่อมามีรายงานว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน เป็นทางเลือกหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะส่งชิงผู้ว่าฯกทม.อีกสมัย แม้ที่ผ่านมาทางพรรคต้องการให้ผู้ว่าหมู่ป่า ลง แต่ ทางพล.ต.อ.อัศวิน ได้แสดงเจตจำนงค์ที่จะลงสมัคร ไม่ว่า จะเป็นในนามพรรคพลังประชารัฐ หรือ ในนามอิสระ แต่ให้พรรคพลังประชารัฐหนุนหลัง
กระนั้นเมื่อมีคำสั่งแต่งตั้งนายทินกร นั่งผู้ช่วยเลขาฯผู้ว่ากทม. จะส่งสัญญาณอะไรในทางการเมืองหรือไม่ เพราะต้องไม่ลืมว่า นายทินกร เป็นคนของพรรคไทยภักดี ที่มีตำแหน่งใหญ่โตถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ทั้งยังมีหน้าที่อื่นๆที่สำคัญอีกมากมายภายในพรรคไทยภักดี ขณะที่บิ๊กวิน พล.ต.อ.อัศวิน ก็ดูเหมือนว่า จะใกล้ชิดกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะถึงขนาดจะลงสมัครผู้ว่าเมืองหลวงอีกสมัยในนามของพลังประชารัฐ แม้ช่วงหลังจะยังไม่มีท่าทีสรุปจากพรรคพลังประชารัฐ
ดังนั้นแล้ว จึงน่าจับตาเป็นอย่างยิ่งว่า การแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญในครั้งนี้จะเป้นการส่งสัญญาณอะไร ระหว่างพล.ต.อ.อัศวินกับพรรคไทยภักดี ในขณะที่สนามแข่งขันเลือกตั้งซ่อมเขต9 กรุงเทพฯกำลังจะเข้าสู่โค้งสุดท้าย แต่ละพรรคก็สู้กันด้วยพละกำลังอย่างเต็มที่ หรือนี่จะเป็นใบเบิกทาง บ่งบอกถึงสถานการณ์ทางการเมือง ระหว่างบิ๊กวินกับไทยภักดี ซึ่งจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไรต้องจับตาอย่าได้กระพริบ!?!