ปชป.รุมตบปาก “ธรรมนัส”หลังโวยมีโกง? นิพนธ์ซัดขี้แพ้ชวนตี ขู่ฟ้องกลับ ขณะสาธิตโพสต์ เงินซื้อศักดิ์ศรีคนใต้ไม่ได้
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (16 มกราคม 2565) มีการเลือกตั้งซ่อม ปรากฎว่า ผลคะแนนการเลือกตั้งซ่อมเขต 1 ชุมพร อย่างไม่เป็นทางการ โดยในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ปรากฎว่า นายอิสระพงศ์ มากอำไพ หรือ “เลขาตาร์ท” ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกตั้ง เฉือนเอาชนะ คู่แข่งจากพรรคพลังประชารัฐ นายชวลิตร อาจหาญ หรือ“ทนายแดง” เกือบ 2 หมื่นคะแนน
ล่าสุดทางด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเนชั่นสุดสัปดาห์ ทางช่องเนชั่น ทีวี22 ถึงผลการเลือกตั้งซ่อมอย่างไม่เป็นทางการ ที่ จ.ชุมพร เขต1 ซึ่งนายอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัครเบอร์1 จากประชาธิปัตย์ ชนะนายชวลิต อาจหาญ หรือทนายแดง ผู้สมัครเบอร์ 4 จากพลังประชารัฐ และที่ สงขลา เขต6 น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัคร เบอร์1 จากพรรคประชาธิปัตย์ นำนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ผู้สมัคร เบอร์ 3 พรรคพลังประชารัฐ ว่าผลที่ออกมาอย่างไม่เป็นทางการ พลังประชารัฐได้คะแนนมากกว่าเมื่อการเลือกตั้ง ปี62 แต่จะมากเท่าไหร่ค่อยดู ผลอย่างเป็นทางการอีกที
ส่วนผลคะแนนของคู่ต่อสู้พลังประชารัฐ ก็อย่างที่ได้มีการนำเสนอไป เราต้องยอมรับว่าการเตรียมการของเขา เตรียมการมาดี ของเราเองต้องยอมรับว่าเตรียมการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะในพื้นที่มันมาช้าไปนิดนึง อันนี้ไม่ใช่การแก้ตัว แต่ว่าการเลือกตั้งมันยังไม่จบ
“แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า การเลือกตั้งในวันนี้ มีการจับการทุจริต แบบเห็นจะๆ หลักฐานแบบจะๆ มีการโอนเงินผ่านบัญชี มีการกาหมายเลขที่ตัวเองรับเงินมาอย่างชัดเจนมาก ผมก็ไม่เคยเห็นการเลือกตั้ง การโกงกันแบบนี้มาก่อน เป็นเรื่องที่ต้องสู้กันต่อไป” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า จากหลักฐานวันนี้ที่ทางเรา โดยทนายแดง ได้ร้องต่อกกต. ชุมพร และเห็นหลักฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ เวลานี้ ค่อนข้างจะชัดเจนว่า มีการทุจริตกันอย่างชัดเจนมาก อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายของบ้านเมืองเลย ไม่น่าเชื่อว่าพรรคพรรคหนึ่งที่มีภาพทางการเมืองบริสุทธิ์มาตลอดจะเป็นอย่างนี้
“การเลือกตั้งที่ชุมพรมันยังไม่จบ เราไม่ได้เป็นคนจับทุจริต เจ้าหน้าที่เป็นคนจับ แล้วหลักฐานมันชัดเจน แล้วจะมากล่าวหาเราเรื่องอะไร มีแต่เราจะต้องกล่าวหา “ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม สงขลา เขต6 ว่า ที่สงขลาตนไม่ได้ไปดูแลการเลือกตั้งแต่ไปปราศรัยอย่างเดียว ก็ไม่มั่นใจว่าเวลานี้เป็นอย่างไร ซึ่งนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานเป็นผอ.การเลือกตั้งซ่อม สงขลา และที่ชุมพร มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เป็นผอ.เลือกตั้งซ่อม ตนก็ช่วยดูลงพื้นที่ปราศรัย อยู่ในพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง ส่วนจุดพลิกผันที่ทำให้คะแนนอย่างไม่เป็นทางการออกมาเช่นนี้นั้น
“ผมเริ่มตกใจตั้งแต่มีการจับการทุจริตกันตั้งแต่ตอนเช้า ผมเริ่มตกใจแล้วว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ เราท่าทางจะลำบาก เพราะว่ากลยุทธ์ที่เขาใช้ มันชัดเจนมาก เราก็ไม่คิดว่าจะกล้าทำกันขนาดนี้” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงกรณีที่มีการนำการปราศรัยของตนไปขยายผล เรื่องคนรวยคนจนนั้นตนมองว่าการปราศรัย ถ้าเราฟังให้ชัดเจน ประเด็นเรื่องคนรวยคนจน ก็เพียงแต่พูดถึงคุณสมบัติของผู้สมัครว่ามีความพร้อม การที่เราจะเป็นนักการเมือง ตนไม่ได้เน้นในเรื่องของการมีเงินอย่างเดียว คุณสมบัติอย่างอื่นก็ต้องมีด้วย เช่น ความรู้ ประสบการณ์ทางด้านธุรกิจมากกว่า ไม่ได้เป็นเรื่องของการดูถูกคนจนคนรวยเลย ไม่ได้เกี่ยวกันเลย
ในขณะที่ทางด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีข่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ในทำนองที่ว่าไม่เคยเห็นการโกงการเลือกตั้งอย่างนี้มาก่อนว่า วันนี้การแข่งขันถือว่ายุติลงแล้ว การที่ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐกล่าวอย่างนี้ เสมือนว่าแพ้แล้วชวนตี ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันอย่างนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการแข่งขันกันตามกติกาในระบอบประชาธิปไตย เรามีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คอยกำกับคอยดูแล
คุณธรรมนัสจะมาทำตัวกล่าวหาคนอื่น แทน กกต. จึงไม่ใข่วิสัยที่จะทำ แต่ถ้าคุณธรรมนัสมีพยานหลักฐานก็สามารถเอามาแสดงที่ กกต.ได้ ซึ่งเขามีหน้าที่ดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งการที่พอแพ้แล้วกล่าวหาการเลือกตั้ง ถือว่าไม่ใช่นิสัยของคนที่มีน้ำใจนักกีฬา ฉะนั้นการที่จะกล่าวหาคนอื่นให้เสียหาย ว่ามีการโกงการเลือกตั้งจึงต้องระมัดระวัง ไม่ใช่พูดเอามันเข้าว่า หากทำให้พรรคเสียหาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็สามารถดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายได้ ฉะนั้นจึงถือโอกาสนี้ฝากเตือนสติว่าจะทำอะไรต้องให้เกียรติคนอื่นบ้าง ผมคิดว่าเมื่อเป็นผู้ใหญ่กันแล้วจะทำอะไรต้องระมัดระวัง ไม่ใช่กล่าวหาคนอื่นได้รับความเสียหาย หรือทำให้คนอื่นต้องมัวหมองไปด้วย ไม่ใช่ว่าตนเองแพ้การเลือกตั้ง ไม่รู้จะไปอธิบายกับใครอย่างไร ก็กล่าวหาคนอื่นโกงการเลือกตั้ง” นายนิพนธ์ ระบุ
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอถือโอกาสนี้เรียนกับพี่น้องประชาชนว่า พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และไม่พูดจาอะไรให้คนอื่นเสียหาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ย้ำตลอดว่าในระบบประชาธิปไตยนั้น ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียมกัน ฉะนั้นถือโอกาสนี้เรียนกับพี่น้องว่าพรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการทางการเมืองอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ตามแนวทางของพรรค และจะไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายแน่นอน นี่คือสิ่งที่ยืนยันกับพี่น้องประชาชนได้
ขณะที่ทางด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊คขอบคุณคะแนนเสียง พร้อมกับโพสต์ รูปภาพที่ระบข้อความว่า เงินซื้อ ศักดิ์ศรี คนใต้ไม่ได้ ขอบคุณจากใจ คนไทยชื่อ “สาธิต” ประชาธิปัตย์ ชนะลือกตั้งซ่อมทั้ง 2 เขต
ต่อมาทางด้าน นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการข่าวข้นคนข่าว ทางช่องเนชั่น ทีวี 22 ตั้งเป้าได้ ส.ส.ภาคใต้รอบหน้าไม่ต่ำกว่า 35 คน
ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาพรรคพลังประชารัฐ ระบุมีการทุจริตเลือกตั้งนั้น ตนว่าพี่น้องประชาชนทั้งประเทศรู้ อย่ากลับเศษเป็นส่วน คนในภาคใต้เขารู้กันทั้งหมด ว่าใครน่าจะทุจริตมากกว่าใคร เพราะฉะนั้นยิ่งพูดยิ่งไม่ดีกับพรรคพลังประชารัฐเอง เราเป็นนักฟุตบอลอาชีพ จบก็คือจบอย่ามาโวยวาย หลังจากคณะกรรมการซึ่งเป็นประชาชนตัดสินแล้ว ตนไม่เห็นด้วยกับการที่ ร.อ.ธรรมนัส ออกมาโวยวาย
