จากกรณีป่วนงานรับปริญญาที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ มช. ที่กลุ่มสามนิ้ว พยายามออกมาเคลื่อนไหวว่าจะไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมรับเสด็จในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ทำให้สังคมหลากหลายต่างให้ความเห็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะการอ้างศักดินานั้น
โดย พญ.ลลิตา ธีระสิริ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี และนักเขียนชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ถึงประเด็นดังกล่าวโดยมีเนื้อหาบางส่วนว่า
“เมื่อ 50 ปีก่อน กึ่งศตวรรษมาแล้ว สมัยฉันรับปริญญามีเพื่อน 2 คนปฏิเสธไม่เข้าร่วมพิธี โดยอ้างว่าต่อต้านศักดินา แต่คนหนึ่งถูกแม่ด่าหนัก เลยกลับใจเข้ารับปริญญาในวินาทีสุดท้าย ไปเช่าครุยได้ครุยเก่า ๆ ยับย่นมาใส่ เพราะคนอื่นเช่าชุดดี ๆ ไปหมดแล้ว ซึ่งเขาก็พอใจที่ยังได้แสดงออกว่าต่อต้านศักดินาจากครุยยับ ๆ อันนั้น
ต่อมาเพื่อนคนนั้นกลายเป็นอาจารย์ ฉันไม่รู้หรอกว่าเชามีอิทธิพลต่อความคิดเด็กรุ่นใหม่อย่างไรก๊อ สมัยเขารับปริญญา ไม่มีเพื่อนคนไหนฟังเขาสักคนเรื่องต่อต้านการรับปริญญา ไม่มีใครเข้าใจคำว่าศักดินาด้วยซ้ำ แต่อย่าเข้าใจผิดนะคะ เพื่อนคนนี้ไม่ได้อยู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ออกแถลงการณ์ครึกโครมต่อต้านการพระราชทานปริญญาในขณะนี้…
…จะกระซิบบอกให้ว่า เพื่อนกันที่เป็นเจ้าของกิจการเริ่มพูดกันว่าถ้าคนรุ่นใหม่มาสมัครงาน ต้องขอดูมือถือก่อนละ และใครไม่รับปริญญาก็จะไม่รับเข้าทำงาน เพราะถ้ารับมาอยู่ในองค์กรแล้วน่าจะมีปัญหามากกว่า คิดดี ๆ นะลูกหลานเอ๋ย ศักดินาคืออะไร อนาคตเป็นของเราเอง อย่าตกเป็นเหยื่อของใคร”
ล่าสุดวันนี้ 15 มกราคม 2565 มีการแชร์ข้อความ พร้อมแบนเนอร์ ที่พาดพิงถึงพญ.ลลิตา ทำให้มีการโต้แย้งกันในเฟซบุ๊ก พญ.ลลิตา ธีระสิริ โดยเรื่องราวมีการโพสต์กันดังนี้
“นึกว่าเป็นหมอปลอม เพราะไปค้นแล้วไม่เจอ จ่อติดคุกแน่ สนับสนุนให้หมอลลิตาฟ้อง! เพจ catdumb เอาโพสต์หมอไปแขวนเรียกทัวร์ลง เรื่องที่หมอเตือนสติการต่อต้านพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร แล้วโง่จนไปเสิร์ชโดยใช้ชื่อ fb เลยไม่เจอในทะเบียนแพทย์ ……จึงหาว่าเขาเป็นหมอปลอม”
ต่อมา นางสาวศุภมาส เสนะเวส นิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตผู้ก่อตั้ง“ขบวนผู้หญิงกับการปฏิรูปการเมือง” ได้นำภาพแบนเนอร์ดังกล่าวเข้ามาโพสต์อธิบาย พร้อมตอบโต้แทนพญ.ลลิตาว่า
#ไม่โง่จริงไม่ใช่สามกีบ พากันมาถล่มเฟซบุค พญ.ลลิตา ธีระสิริ เรื่องที่เตือนสติการต่อต้านพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร โดยบอกว่า เจ้าของกิจการหลายท่านเริ่มตรวจสอบการแสดงออกทางโซเชียล แล้วโจมตีว่า ไม่ใช่แพทย์จริง เพราะไปค้นแล้วไม่เจอ
คือ ๑.บัลวี ธรรมชาติบำบัด ใคร ๆ ก็รู้จักนะ ๒. ลลิตา ธีระสิริ เป็นนามปากกาค่ะ ชื่อจริง ดิฉันทราบแต่ไม่บอก ช่วยกันขำหน่อยค่ะ คุณหมอน่าจะฟ้องนะคะ เคสนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่อยู่ในเฟซบุ๊กของหมอลลิตา ก็ทำให้มีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีความน่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นดังนี้
“บทความนั้นเปี่ยมไปด้วยความหวังดี กลับทนกันไม่ได้”
“เมื่อวานทัวร์ลงบ้านคุณหมอเป็นฝูงเลยค่ะ”
“รู้จักผลงานของคุณหมอทั้งสองท่านมาเกิน 30 ปีแล้วเห็นจะได้ ช่างเป็นหมอที่ปลอมได้เนียนมากจริงๆนะคะ ไม่มีใครจับได้เลย กีบเอ๋ยกีบ ยังคงเป็นกีบวันยังค่ำ”
“ไปอ่านอยู่ค่ะ พวกอวดฉลาดมีเยอะเลย แถมมีเจ้าของบริษัทโฆษณาบางแห่งประกาศกร้าวว่าไม่รับสลิ่มทำงาน น่าเอามาแขวนให้เจ้าของกิจการสลิ่มรับรู้เหมือนกันค่ะ จะได้ไม่ต้องจ้างบริษัทนี้เช่นกัน”